ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ท่ามกลางเสียงเพลงที่ครึกครื้นนักท่องราตรีต่างพากันขยับร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดังสนั่น แต่ก็มีบุคคลจำนวนไม่น้อยที่มิได้มาท่องราตรีแต่มาเพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง อย่างหนุ่มน้อยที่ชื่อว่า “ซัน”
“ไงวะไอ้ซัน พรุ่งนี้มึงก็เปิดเทอมแล้วดิ” เสียงของเด็กเสริฟที่รุ่นราวคราวเดียวกับซันพูดถามขึ้น
“อืม..ก็ใช่อะ แต่ยังไงก็ขอบคุณมึงมากนะโว๊ยไอ้พีที่ชวนกูมาทำงานที่นี้อะไม่งั้นกูคงไม่ได้เรียนหรอก” ซันพูดขอบใจเพื่อนตัวเองที่ชวนเขามาทำงานที่นี่เพราะจริงๆแล้วซันก็เป็นเด็กกำพร้าไม่มีครอบครัวแต่ก็ทำงานส่งตัวเองเรียนตั้งแต่ออกมาจากสถาเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เขาอยู่มาตั้งแต่จำความได้
“ไม่เป็นไรมึง..เพื่อนกันแต่เสียดายวะที่กูไม่ได้เรียนที่เดียวกับมึงว่าแต่มึงจะทำที่นี่ต่อทั้งๆ ที่ตอนนี้เปิดเรียนแล้วเนี่ยนะมึงจะไหวหรอวะ กลางคืนก็ทำงานกลางวันก็เรียน” พี่พูดถามขึ้นเพราะเป็นห่วงกลัวว่าซันจะไม่ไหวเพราะงานที่นี่ค่อนข้างหนักเนื่องจากร้านนี้เป็นผับที่มีคนมาเที่ยวค่อยข้างเยอะจนทำให้เสริฟกันแทบไม่ทันแต่ที่พวกเขาสามารถมาคุยกันได้ตอนนี้เพราะร้านยังไม่เปิดทั้งสองคนเลยยืนคุยกันอยู่ในห้องแต่งตัว
“ไหวไม่ไหวก็ต้องทำวะ..เพราะถ้ากูไม่ทำกูจะเอาเงินที่ไหนเรียนวะ” ซันพูดตอบขึ้นอย่างจนใจ เพราะเขาเองก็ไม่อยากออกจากที่นี่เพราะยิ่งลูกค้าเยอะเขาก็ได้ทิปเยอะแล้วเงินเดือนอีก ถึงแม้เขาจะยังไม่ถึงยี่สิบแต่เพราะพีช่วยพูดกับผู้จัดการให้เขาเลยได้ทำงานนี้แล้วยิ่งหน้าแบบซันที่ตัวเล็กๆ ขาวๆ ก็มักจะได้ทิปมากกว่าคนอื่นนิดหน่อยแต่ก็เพราะความน่ารักของเขาทำให้หลายครั้งที่เกือบจะมีเรื่องกับลูกค้าที่เมาแล้วชอบมาลวนลามเขา ทั้งสองคนยืนคุยไปแต่งตัวไปจนกระทั้งพี่คมผู้จัดการร้านเดินเข้ามา
“ไอ้พีไอ้ซันมึงสองคนแต่งตัวเสร็จยัง..จะได้รีบไปทำงาน” พี่คมพูดถามขึ้น พร้อมทำหน้าดุๆ ใส่พีแล้วก็ซัน
“เสร็จแล้วพี่..กำลังจะออกไปแล้วเนี่ยแค่นี้ไม่เห็นต้องทำหน้าโหดใส่เลย” พี่พูดขึ้นอย่างกวนๆ
“นั้นดิพี่..ทำหน้าโหดมากเดี๋ยวตีนกาขึ้นหน้านะพี่” ซันแกล้งพูดแซวขึ้นมาบ้าง คมเดินเข้ามาหาพีและซันช้าๆ
เพี้ยย
โอ๊ย/โอ๊ย เสียงพีและซันที่ร้องออกมาพร้อมๆ กันเพราะถูกคมตบหัวจนพากันเซไปนิด
“เอาเวลากวนตีนกูไปทำงานดีกว่าไหม..เออแล้วอีกอย่างวันนี้เจ้าของร้านเขาจะเข้ามามึงสองคนทำงานกันดีๆ ละ” คมพูดบอกซันกับพีหลังจากที่ตบหัวสองคนนั้นแล้ว ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกห้อง
“พี่คมนี่โหดชะมัดเลยตบเข้ามาได้” พีพูดบ่นทันทีคมเดินออกไป
“เออวะ.โครตเจ็บอะ..ว่าแต่เมื่อกี่พี่เขาบอกว่าเจ้าของร้านจะเข้ามามึงเคยเจอยังวะ” ซันพูดอย่างเห็นด้วยกับพีแล้วพูดถามเรื่องเจ้าของร้านขึ้นเพราะตั้งแต่ที่เขาทำงานที่จนเกือบเดือนยังไม่เคยเห็นเจ้าของร้านเลย
“ยังไม่เคยวะเห็นพี่คมบอกว่าเจ้าของร้านเขามีธุระเลยไม่ได้เข้าเลยตั้งแต่ที่เขาปิดเทอมอะ” พีพูดตอบขึ้น
“ปิดเทอม?..อ้าวนี่แสดงว่าเขายังเรียนอยู่หรอวะ” ซันพูดถามขึ้นอย่างงงๆ เพราะไม่คิดว่าเจ้าของร้านจะยังเรียนอยู่
“อืม..เห็นพี่คมเคยบอกว่าเขาเรียนอยู่ปี3แล้วมั้งแต่กูจำไม่ได้วะว่าเรียนที่ไหน” พีพูดตอบซัน
“หรอ..ชั่งมันเหอะเนอะเราไปทำงานกันดีกว่า..เดี๋ยวลุงคมจะเข้ามากินหัวเอา” ซันพูดขึ้นอย่างขำๆ ทำให้พีขำตามไปด้วยแล้วทั้งสองคนก็เดินไปทำหน้าที่ของตนเอง
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเวลาเกือยเที่ยงคืน ซันก็ทำหน้าที่พนักงานเสริฟของตัวเองอย่างไม่ขาดตกพกพร่องจนกระทั้งมีกลุ่มลูกค้าชายประมาณ3-4คนเดินเข้ามา ซันจึงเดินเข้าไปรับแขกที่เข้ามาใหม่ทันทีเพราะตอนนี้เขาอยู่ใกล้ประตูที่สุด
“สวัสดีครับ..ผับเซริวยินดีตอนรับครับ.ไม่ทราบว่ามากันกี่ท่านครับ” ซันพูดทักทายและถามขึ้นอย่างสุภาพ
“มากันสี่คนครับ..พวกผมขอโต๊ะที่แบบส่วนตัวหน่อยนะครับ” ชายคนนึงในกลุ่มพูดขึ้น ซันพูดตอบรับแล้วเดินนำไปที่โต๊ะแต่สิ่งที่ซันรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ เพราะสายตาของคนที่พูดบอกเขามันดูเจ้าเล่ห์แล้วดูเหมือนหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้เขารู้สึกไม่ชอบใจเลย ซันเดินนำทั้งสี่มาที่โต๊ะที่เป็นส่วนตัวตามที่พวกเขาต้องการก่อนจะยืนเมนูไปให้ ทั้งสี่คนสั่งเหล้ามาชุดนึงก่อน
“เดี๋ยวเชิญอ่านเมนูอาหารไปก่อนได้เลยนะครับ..เดี๋ยวผมจะมารับเดอร์อีกทีครับ” ซันพูดบอกแล้วเดินไปที่บาร์หยิบเครื่องดื่มที่สี่คนนั้นสั่ง
“ไอ้พีเอาเหล้าแบ็ค.แข็งใหญ่.โซ.น้ำ.ผ้า.สี่” ซันพูดบอกพีที่ตอนนี้ทำหน้าที่เปิดบาร์น้ำเพราะวันนี้คนไม่พอพีก็หยิบของตาที่ซันบอกก่อนจะหันมาเจอหน้างอๆ ของเพื่อนตัวเอง
“เป็นไรวะมึง..หน้างออย่างกับส้นตีน” พีพูดแซวซันอย่างขำๆ เพราะเห็นเพื่อนตัวเองสีหน้าไม่ดี
"ส้นตีนเหี้ยไรไอ้พี..มึงอย่ากวนตีนกูดิคนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่” ซันพูด่าเพื่อนตัวเองเสียงดังเล็กน้อย
“เออๆ กูขอโทษ..ว่าแต่มึงเป็นไรอะ” พีพูดขอโทษซันก่อนจะพูดถามอย่างสงสัย
“ก็ไอ้ลูกค้าที่เข้ามาใหม่อะดิ..คือกูไม่ชอบสายตามันอะคือแบบดูเจ้าเล่ห์แล้วก็หยิ่งๆ อะเห็นแล้วหงุดหงิดวะ” ซันพูดขึ้นขณะที่จัดของที่พีส่งมาให้ไปด้วยเพื่อที่จะได้ยกไปแล้วจะได้ไม่หล่น
“มึงก็คิดมาก..คงไม่มีอะไรหรอกเชื่อกูดิ” พีพูดบอกซันเพราะไมอยากให้ซันคิดมากซันก็พยักหน้ารับและพยายามไม่คิดอะไรแล้วเดินเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ ซันพูดถามทั้งสี่คนว่าผสมอะไรสรุปว่าทั้งโต๊ะผสมโซดาน้ำ ซันก็ผสมเหล้าทั้งสี่แก้วจนเสร็จแล้วส่งผ้าเย็นไปให้แล้วยืนรออยู่ซักพัก็ไม่เห็นทั้งสี่คนสั่งอะไรเพิ่มเขาก็เลยกะว่าจะเดินไปโต๊ะข้างๆ ก่อนแล้วค่อยกับมาถามอีกที
หมั่บ!!
“จะรีบไปไหนครับน้อง..ไม่รับออเดอร์โต๊ะพวกพี่ก่อนหรอครับ” ชายในกลุ่มจับแขนเรียวของซันไว้ก่อนจะพูดถามขึ้น
“แล้วจะรับอะไรเพิ่มดีครับ..” ซันพูดถามขึ้นพร้อมกับพยายามแกะมือของชายคนนั้นออกแต่ก็เอาออกไม่ได้เพราะเขาจับไว้แนนมาก
“พวกพี่อยากจะรับน้องมานั่งด้วยจะได้ไหมครับ..ไม่กลัวนะว่าจะเสียเวลาเดี๋ยวพวกพี่จ่ายค่าเสียเวลาให้” ชายคนที่จับมือซันลุกขึ้นแล้วพูดขึ้นอีกพร้อมกับยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วมองซันด้วยสายตาโลมเลียจนซันรู้สึกขยะแขยงไปหมด
“ไม่ครับ..ผมเป็นเด็กเสิร์ฟไม่ใช่เด็กนั่งดริ้งและผมก็ไม่ต้องการเงินของพวกคุณ..กรุณาปล่อยแขนผมด้วยครับ” ซันพยายามพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาทั้งที่ในใจอยากจะตะโกนด่าแต่ก็ทำไม่ได้เพราะอยู่ในหน้าที่ลยได้แต่พยายามพูดอย่างสุภาพ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
“อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลยดีกว่า..หรือว่าอยากจะอัพค่าตัว…ก็ได้นะอยากได้เท่าไรละ” ชายคนนั้นพูดขึ้นอีกพร้อมกับดึงร่างบางของซันเข้าไปใกล้มาขึ้น เมื่อได้ยินคำที่พูดดูถูกความอดทนของซันที่มีก็ขาดทันที
พลั๊ก! ผัวะ!!
“อัพค่าตัวพ่องมึงดิสัด!! ..อย่ามาดูถูกคนอย่างกู..อีกอย่างเงินที่ได้มาจากการที่พวกมึงแบมือขอพ่อแม่มึงมากูไม่อยากได้” ซันพลักชายคนนั้นออกแล้วปล่อยมัดไปที่หน้าชายคนนั้นเน้นๆ ก่อนที่พูดด่าเสียงดังเพื่อนอีกสามคนลุกขึ้นมาเพื่อจะเอาเรื่องซันทีที่ต่อยเพื่อนเขาแต่ชายคนนั้นยกมือไว้แล้วลุกยืนขึ้นพร้อมกับเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วแสยะยิ้ม ร่างสูงเดินมาหาซัน
เพียะ!!
“คนจนอย่างมึงอย่าสะเออะมาสอนกู..นี่กูอุตสาเสนอเงินให้นะเนี่ยเห็นที่แบบนี้คนต้องใช้กำลังกันซักหน่อย” หลังมือหนาตบหน้าซันอย่างแรงจนซันลงไปกองอยู่กับพื้น คนตบพูดขึ้นอีกพร้อมกับหันไปพยักหน้าให้เพื่อนตนเองชายสองคนในกลุ่มเดินมาดึงซันให้ลุกขึ้นแล้วล็อกแขนทั้งสองข้างของซันไว้ทันทีคนที่อยู่รอบๆ เริ่มถอยหนีไม่ใครกล้าเข้าไปช่วยซัน
“ปล่อยดิวะ..มึงจะจับกูทำเหี้ยไร” ซันพูดขึนพร้อมกับพยายามดิ้นไปมาให้หลุดจากมือของคนที่จับอยู่แต่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด
“ก็จับมึงมาทำเมียไง.” ชายคนนั้นพูดขึ้นอีกพร้อมกับยิ้มอย่างซะใจ
“เมียพ่องมึงดิ..ควาย..กูผู้ชาย” ซันพูดด่าขึ้นอีก
“อย่ามาขึ้นเสียงกับกู…..” ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับง้างมือซันรีบหลับตาปี้ทันที
หมั่บ!!
“ผมว่าคุณหยุดแค่นี้ดีกว่า..อย่ามายุ่งกับคนของผม” ชายปริศนาพูดขึ้นพร้อมกับขว้าข้อมือขของชายคนนั้นไว้แน่นเจ้าของแขนที่ถูกจับหันมามองคนที่จับแขนของตัวเองไว้ทันที ก่อนที่จะสะบันมือออกส่วนซันก็ลืมตามามองเจ้าของเสียงที่เข้ามาห้ามอีกฝ่าวไว้
“มึงมาเสือกไรด้วย..ถอยไปดีกว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ชายคนนั้นพูดขู่แต่ดูเหมือนชายปริศนาจะไม่สนใจคำขู่นั้นแถมยังว่งยิ้มกลับบมาให้อีกด้วย
“ผมชื่อ.ริว.เป็นเจ้าของร้านที่นี้.แล้วทีนี่ผมจะเสือกได้หรือยังครับ” ริวพูดตอบขึ้นอย่างเรียบๆ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากเมื่อรู้ว่าชายปริศนาเป็นใครเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็รีบมาพูดกระซิบอะไรบ้างอย่างกับชายคนนั้นทันทีชายคนนั้นหน้าซีดลงไปนิดแล้วหันมามองหน้าริว
“อะ.เอ่อ..กูไปก็ได้กูจะเห็นแกมึงที่เป็นเจ้าของร้าน...พวกมึงอะปล่อยมันไปได้แล้ว..” ชายคนนั้นพูดบอกริวแล้วหันไปสั่งเพื่อนเขาที่จับซันไว้แล้วรีบเดินออกจากร้านไปทันที เพื่อนๆ เขาอีกสองคนก็ยังงงๆ แต่ก็ยอมปล่อยแล้วเดินตามกันออกไป
“เอาละครับ..ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ตกใจยังไงเพื่อเป็นการขอโทษ..วันนี้ทุกโต๊ะผมจะลดให้ 30%นะครับ.เชิญสนุกกันต่อเลยครับ” ริวพูดขอโทษกับลูกค้าทุกคนก็พอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็เลยกับไปสนุกกับเสียงเพลงกันต่อริวหันหน้ากับมาหาซันที่ตอนนี้ยืนก้มหน้าอยู่
“จะก้มหน้าทำไมละครับ..ทำไมไม่เก่งได้เหมือนเมื่อกี่” ริวพูดถามซันขึ้นอย่างกวนๆ
“เอ่อ..คือ..” ซันพูดอึกอักเพราะไม้รู้จะตอบอะไร
“หึ..เอาเถอะ..เดี๋ยวคุณไปตามพี่คมมาแล้วไปพบผมที่ห้อง” ริวพูดสั่งเสียงเรียบแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของตนที่อยู่ที่ชั้นสองพอริวเดินไปแล้วซันก็เงยหน้าขึ้นมา
“เชี้ยเอ้ยย..ทำไมกูซวยแบบนี้วะ..มีเรื่องวันไหนไม่มีเสือกมามีวันที่เจ้าของร้านมา” ซันพูดบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินหาคมเพื่อตามไปพบเจ้านายของตัวเอง
“พี่คม..คุณริวเรียกไปพบ..เอ่อ.ทำไมพี่เป็นแบบนั้นอะ” ซันที่เดินหาคมจนทั่วจนในที่สุดก็เจอคมที่ห้องครัวของร้าน แถมตัวคมที่ตอนนี้สภาพไม่ต่างกับตกถังถ่าน คมหันไปมองหน้าซันอย่างงงๆ
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อย..ว่าแต่คุณริวมาแล้วหรอ” คมพูดถามขึ้น
“ครับมาแล้ว..ว่าแต่พี่ยังไม่ตอบผมเลยนะว่าทำไมสภาพเป็นแบบนั้นอะ” ซันพูดตอบแล้วถามขึ้นอีก
“เรื่องของกูน่า..ว่าแต่ปากมึงอะไปโดนไรมา” คมพูดบ่นแล้วถามขึ้นทันทีเห็นว่าซันปากแตก
“เดี๋ยวพี่ก็รู้..ตอนนีไปหาคุณริวกันเหอะพี่” ซันไม่ตอบแต่กับพูดเร่งให้คมไปหาริว คมจึงหยิบเสื้อคลุมมาใส่แล้วเดินนำไปที่ห้องของริว ตอนนี้ทั้งสองคนก็เข้ามาอยู่ในห้องของริวแล้ว
“สวัสดีครับคุณริว..เดินทางมาเหนื่อยไหมครับ” คมพูดทักแล้วถามขึ้นอย่างสุภาพ ซันเห็นคมยกมือไหวก็เลยไหว้ตามคมไปด้วย
“ไม่เหนื่อยครับ..ว่าแต่พี่ไปทำอะไรมาทำไมเสื้อผ้าเป็นแบบนั้น” ริวพูดถามคมขึ้นแต่ก็ยังเหลือบตาไปมองซันที่ยืนอยู่ข้างหลังคมด้วย
“คือพอดีในครัวเกิดปัญหานิดหน่อยผมเลยเขาไปจัดการแต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้วครับ” คมพูดตอบอย่างสุภาพ
“งั้นนี้คงเป็นเหตุผลที่พี่ไม่ได้เข้ามาจัดการเรื่องที่มีคนชกต่อยในร้าน” ริวพูดถามเสียงเรียบๆ คมหันหน้าไปมองซันทันที ซันจึงได้แต่พูดขอโทษแบบไม่ออกเสียงพร้อมทำหน้าสำนึกผิด
“ผมขอโทษด้วยครับ..ว่าแต่ซันเขาก่อเรื่องอะไรหรอครับ” คมพูดถามขึ้น
“ผมว่าพี่ถามลูกน้องคุณเองดีกว่า” ริวพูดตอบคมจึงหันไปเอาคำตอบกับซันแทน
“ผมไม่ผิดนะพี่..พวกนั้นมาหาเรื่องผมก่อน..ผมเลยต่อยมันไปมัดนึงแค่มัดนึงจริงๆ นะ” ซันพูดอธิบายเสียงอ่อยๆ เมื่อคมได้ยินดังนั้นก็ถอดหายใจทันที แต่ก็คิดว่าพวกนั้นน่ามาหาเรื่องซันก่อนจริงๆ เพราะเขารู้นิสัยซันดีว่าถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องเขาก็ไม่เคยคิดจะหาเรื่องใคร
“เอาเป็นว่าเรื่องที่ซันทำผิดวันนี้ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง..ยังไงผมก็ขอโทษด้วยนะครับที่ดูแลได้ไม่ดี” คมพูดบอกริว
“ไม่ได้นะพี่..ผมไม่ยอมผมเป็นคนก่อเรื่องผมขอรับผิดชอบเอง…ผมขอโทษด้วยนะครับคุณริวจะให้ผมทำอะไรก็ได้เพื่อชดใช้กับสิ่งที่ผมทำ” ซันพูดห้ามคมก่อนจันมาพูดกับริวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เอาถอะผมจะไม่เอาเรื่องทั้งสองคน..เพราะที่ซันทำก็เพื่อปกป้องตัวเองส่วนพี่คมก็จัดการปัญหาอย่างอื่นอยู่..แต่ผมจะให้พี่คมไปหัดเงินเดือนการ์ดแทนเพราะผมจ้างพวกนั้นมาดูแลความปลอดภัยไม่ใช่ให้มายืนเฉยๆ ผมนั่งดูเหตุการอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่เห็นจะมีการ์ดเข้ามาสักคนพี่ไปจัดการด้วยแล้วกัน” ริวพูดสั่งขึ้นเพราะเขาเข้าใจสถานะการของทั้งสองคนดี
“ขอบคุณมากครับ…” คมและซันพูดขอบคุณริวพร้อมกัน
“พี่คมพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทำงานต่อเถอะส่วนซันเดี๋ยวอยู่คุยกับผมก่อน” ริวพูดขึ้นทำเอาซันที่ยิ้มกว้างที่ริวไม่เอาเรื่องต้องหุบยิ้มแล้วทำหน้างงทันที ส่วนคมก็ทำหน้างงเหมือนกันแต่ก็ยอมเดินออกจากห้องไป ตอนนี้เลยเหลือแค่ซันกับริวแค่สองคน
“ซัน..ผมขอพูดในฐานะเจ้านายนะถึงผมจะเข้าใจเหตุผลแต่คุณก็ไม่ควรมีเรื่องกับลูกค้าคุณก็หน้าจะรู้ว่าถ้าเรื่องที่พนักงานต่อยกับลูกค้ามันจะทำให้ร้านเสียชื่อ” ริวพูดบอกซันเสียงเข็ม ซันก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดอะไร
“เอาเถอะ..ถึงยังไงผมก็บอกแล้วว่าจะไม่เอาเรื่องผมก็จะไม่เอาเรื่องแต่เมื่อกี่คุณบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อชดเชยความผิดใช่ไหม” ริวพูดถามขึ้น ซันเงยหน้ามามองริวทันที
“ครับ..ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อชดใช้ความผิดครับ” ซันพูดตอบเสียงหนักแน่น ริวกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ
“ก็ดีครับ..งั้นคำสั่งของผมก็มีอย่างเดียวคือ……………”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>