bc

ร้ายเล่ห์ เสน่ห์ลวง

book_age18+
646
FOLLOW
1.9K
READ
dark
arrogant
drama
sweet
kicking
straight
bold
icy
witty
faceslapping
like
intro-logo
Blurb

ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง

ภัควรา

chap-preview
Free preview
บทที่ 1
เป็นเวลาเกือบสิบปีเต็มที่ฉันต้องนั่งกินข้าวคนเดียวในห้องอาหารที่แสนจะใหญ่โต เก้าอี้ถูกจัดวางเรียงเป็นแถวสองด้านของโต๊ะรับประทานอาหาร ยิ่งฉันได้เห็นทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจมากขึ้นที่เคยนั่งกินข้าวพร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก   ฉัน ‘ไคด้า’ เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน เป็นสาวน้อยสามสัญชาติด้วยกันคือ ไทย จีนและอังกฤษ ฉันมีพี่ชายอีกสองคนคือ พี่เดรโกและพี่เดร็ค ซึ่งชื่อของเราสามพี่น้องจะมีความหมายว่า ‘มังกร’ ทุกคนตามที่คุณพ่อกับคุณแม่ต้องการแต่ทุกคนที่เคยอยู่ร่วมกันพร้อมหน้า พวกเขาได้จากฉันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับแล้วค่ะ จากวันงานฉลองตำแหน่งใหม่ของคุณพ่อ คุณพ่อท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในแวดวงนักธุรกิจและกลุ่มแก๊งต่างๆ ของทางเมืองจีนที่ย้ายรกรากแบ่งสาขามาตั้งถิ่นฐานที่เมืองไทย รวมถึงของเมืองไทยด้วยเช่นกัน ด้วยฐานะ อำนาจบารมีที่คุณพ่อมีด้วยลักษณะนิสัยของท่านที่เป็นคนใจเด็ด มีเมตตาปราณี ทำให้ทุกคนเคารพรักนับถือท่านมาก ไม่นานนับจากนั้นท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้คุณพ่อของฉันเป็นหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มแก๊งต่างๆ ของประเทศ เมื่อทุกคนได้ยินชื่อของท่านต่างเรียกขานเป็นเสียงเดียวกันว่า 'เจ้าพ่อมาเฟีย'   ก็อย่างว่าอีกนั่นแหละค่ะคนทุกคนเมื่อมีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดเป็นธรรมดา จึงเป็นเหตุให้คุณพ่อมีศัตรูอย่างไม่ตั้งใจ โดยที่ศัตรูคนนั้น ณ ตอนนี้มันกำลังดำรงตำแหน่งเจ้าพ่อมาเฟียแทนคุณพ่อของฉันไปเมื่อสิบปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน นับจากวันที่มันได้ตำแหน่งไปก็ไม่เคยมีใครได้ครองตำแหน่งนั้นอีกเลยนอกเสียจากคนในตระกูลของมัน  ยิ่งฉันหวนคิดถึงอดีตที่เลวร้ายในวันนั้นมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจและแค้นใจมากเท่านั้น แต่ฉันไม่อาจทำอะไรได้ในตอนนี้ ความรู้สึกทั้งหมดยังถูกซ่อนไว้ภายใต้หัวใจที่เจ็บปวดมาโดยตลอด สิ่งที่เดียวที่ฉันพอจะทำได้คือรอวันที่จะได้ปลดปล่อยความแค้นกับคนที่มันมาทำร้ายครอบครัวของฉันไม่วันใด ก็วันหนึ่ง  เมื่อสิบปีก่อน วันนั้นเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิตช่วงวัยเด็ก ตอนนั้นฉันมีอายุเพียง 9 ขวบ นับว่ายังไม่รู้เดียงสาอะไรมากนัก ฉันได้เห็นรอยยิ้มของคุณพ่อ ได้ยินเสียงหัวเราะของท่านที่ร่วมพูดคุยสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ทุกคนดูมีความสุขมาก โดยมีคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายทั้งสองคนนั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับฉัน ทุกคนต่างช่วยกันตักอาหารมาใส่จานข้าวของฉันเต็มไปหมด ทั้งยังขยันขยอให้ฉันทานให้หมดอีกต่างหาก เราทั้งห้าคนล้วนมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก  อาหารการกินถูกจัดขึ้นแบบบุฟเฟ่ต์ภายในห้องบอลลูมสุดหรูของโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุง แขกเหรื่อมากมายมาร่วมแสดงความยินดีกับคุณพ่อ ความสุขสนุกสนานบวกกับเสียงหัวเราะชอบใจดังร่วนขึ้นเป็นระยะๆ โดยไม่มีใครคาดคิดเลยว่าวันแห่งความสุขของคุณพ่อจะกลายเป็นวันที่ฉันต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นยังติดอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอมา ไม่มีค่ำคืนใดที่ฉันจะไม่นอนผวาหรือไม่นอนฝันร้าย เรื่องเลวร้ายมันเกิดขึ้นกะทันหันตอนที่คุณพ่อขึ้นไปบนเวทีเพื่อเตรียมดื่มไวน์ฉลองรับตำแหน่งสำคัญกับคุณแม่พร้อมกับพี่ชายอีกสองคนและยังมีหัวหน้ากลุ่มแก๊งต่างๆ อีกหลายคนที่อยู่บนเวทีนั้นด้วย หากวันนั้นคุณพ่ออนุญาตให้ฉันขึ้นไปบนเวทีด้วยได้ คงไม่มีฉันมานั่งเล่าเรื่องราวอยู่ตอนนี้ เหมือนฟ้าแกล้งให้ฉันต้องมารับรู้เรื่อราวความสูญเสียตั้งแต่ยังเด็ก มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย หลังจากที่คุณพ่อรับตำแหน่งเสร็จ ซึ่งจะมีพิธีชนแก้วดื่มไวน์เพื่อแสดงความยินดีส่งท้าย... "เอ้าชน! ไชโยๆๆ..." ทันทีที่คุณพ่อยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแล้วเตรียมจะนั่งบนเก้าอี้ตำแหน่งอันสูงเกียรติซึ่งมีคุณแม่ยืนอยู่ทางด้านหลังและพี่ๆ ยืนประกบสองข้างของท่าน จังหวะนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวตรงบริเวณเวทีด้านหน้าฉัน ตู้มม! มันเกิดขึ้นเร็วมาก ทุกคนในงานแตกตื่นวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้รับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว ฉันตะลึงกับภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง คนบนเวทีเกือบทั้งหมดนอนตายอย่างอนาถ ที่รอดชีวิตก็ส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ฉันมีอาการมือชา ยืนตัวสั่น น้ำตาไหลนองหน้าอัตโนมัติ เมื่อพอได้สติขึ้นมาบ้างฉันก็ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาคนที่ฉันรักที่เวทีทันที แต่กลับถูกบอดี้การ์ดกันเอาไว้เสียก่อนเพื่อความปลอดภัย ฉันทั้งร้องทั้งตะโกนสั่งให้บอดี้การ์ดปล่อยตัวฉันเพื่อจะไปยังเวที บัดนี้แม้แต่เวทีเองก็ไม่เหลือสภาพเค้าโครงเดิม แล้วคนบนนั้นจะเป็นอย่างไร…   ทันทีที่บอดี้การ์ดปล่อยตัว ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่ฉันรักแต่มันสายไปเสียแล้ว ทุกคนจากฉันไปหมด ฉันยืนหมดแรง ขาอ่อน ล้มทั้งยืนพลางร่ำไห้อย่างไม่อายใครตามประสาเด็ก แม้กระทั่งหัวหน้ากลุ่มแก๊งต่างๆ บางคนก็ตายเหมือนกัน จากเสียงระเบิดเพียงครั้งเดียวกลับสร้างความเสียใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เสียงร่ำไห้แก่ผู้ที่จากไปดังระงมห้องบอลลูมที่จัดงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ชีพต่างกรูเข้าตรวจสอบพื้นที่นับร้อยชีวิต ทันทีที่ฉันมีสติครบถ้วนสายเลือดมังกรในตัวฉันก็แสดงปาฏิหาริย์ความเป็นผู้นำออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันลุกขึ้นยืนตระหง่านท่ามกลางการแวดล้อมของลูกน้องและบอดีการ์ดกว่าร้อยชีวิต ก่อนจะตะเบ็งเสียงออกคำสั่งให้ลูกน้องของคุณพ่อรวมถึงบอดี้การ์ดทั้งหมดในบริเวณนั้นให้ช่วยกันตามล่ามือวางระเบิดกับคนบงการให้ได้ตัวมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่กฎหมายก็ทำหน้าที่ของพวกเขาไป แต่ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือจะพูดสั้นๆ คือยังจับตัวคนร้ายมาลงโทษไม่ได้สักที ซึ่งมันคนนั้นที่เป็นผู้บงการเรื่องเลวร้ายทั้งหมดก็เป็นผู้มีอิทธิพลไม่ต่างจากคุณพ่อ ทั้งยังมีนายใหญ่คอยคุ้มครองมันอยู่ กฎหมายบ้านเมืองเลยทำอะไรมันไม่ได้ สักวันฉันจะแก้แค้นมันด้วยตัวของฉันเอง ฉันจะทำให้มันได้รับความเจ็บปวดเหมือนอย่างที่ฉันเจออยู่ในตอนนี้   ทุกๆ ปีฉันจะไปไหว้ดวงวิญญาณของคนที่ฉันรัก ในวันที่พวกเขาจากไปด้วยตัวฉันเอง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันได้มาเยี่ยมทุกคนที่จากไปเพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณพวกเขาหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันจึงสั่งให้ทุกคนในบ้านจัดเตรียมข้าวของ อาหารหวานคาวทุกอย่างให้พร้อมและต้องเป็นของกินที่พวกเขาชอบทาน   เมื่อฉันเดินทางมาถึงยังสุสานในช่วงสายขอวันนั้น ฉันไม่แปลกใจเลยที่สถานที่จะดูรก สกปรกไปด้วยใบไม้ ต้นหญ้าต่างๆ เนื่องด้วยหนึ่งปีมีครั้งสภาพโดยรอบสุสานจึงมีสภาพอย่างที่เห็น ขณะที่คนติดตามกำลังจะลงมือทำความสะอาดสุสานนั้น ฉันก็รีบร้องห้ามพวกเขาเชิงไม่พอใจเพราะฉันต้องการจะทำความสะอาดสุสานเองเพื่อให้คนที่ฉันรักอยู่อย่างสุขสบายไม่รู้สึกรกหูรกตากับความสกปรกที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติด้วยฝีมือน้ำพักน้ำแรงของฉัน   ถึงแม้วันครบรอบจะมีปีละครั้งแต่ทุกครั้งที่คิดถึงพวกเขา ฉันก็จะขับรถมาที่นี่เองเสมอ เมื่อทุกอย่างพร้อม อาหารพร้อม ฉันจึงเริ่มพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณอย่างสงบ... "คุณพ่อ คุณแม่ พี่เดรโก พี่เดร็ค คะวันนี้หนูมาหาค่ะ หนูคิดถึงทุกๆ คนมาก หนูยังนอนผวาและฝันร้ายทุกคืนอยู่เลย ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นหนูไม่เคยนอนหลับได้เต็มตาเลยสักคืน หนูเสียใจที่ทุกวันนี้ยังไม่สามารถเอาตัวคนพวกนั้นมาขอขมาดวงวิญญาณทุกคนได้ ความแค้นที่อยู่ในใจมันรอวันเวลาที่จะได้ปลดปล่อยเพื่อแก้แค้นให้กับทุกคนอยู่ตลอดค่ะ หนูสัญญาว่าวันหนึ่งหนูจะแก้แค้นให้ทุกคนให้ได้ หนูจะเป็นเจ้าคุณแม่มาเฟียคนต่อไปเพื่อทวงความยิ่งใหญ่ให้กับตระกูลของเราให้ได้ค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะลูกสาวคนนี้ดูแลตัวเองได้ค่ะ ลูกสาวคนนี้จะแก้แค้นให้กับคุณพ่อเพื่อชิงตำแหน่งของคุณพ่อที่ถูกมันแย่งไปเอามาคืนคุณพ่อให้ได้ คงอีกไม่นานเกินรอหรอกค่ะ วันนี้หนูเตรียมอาหารของโปรดของคุณพ่อ ของคุณแม่พร้อมกับของพี่ๆ มาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูขอเชิญดวงวิญญาณของพวกท่านมาทานอาหารนี้กันให้มีความสุขกันนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูขอให้ทุกคนสบายใจได้ พักผ่อนให้สบายกันนะคะ" ฉันพูดกับพวกเขาด้วยความคิดถึงจนไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ ทุกคำพูดที่เอ่ยมันออกมาจากส่วนลึกในใจฉันทั้งหมด น้ำตาหลั่งเป็นสายไม่ขาดระยะ   ความเป็นจริงแล้วฉันไม่ใช่คนอ่อนไหวกับอะไรง่ายๆ หรอกนะคะยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องของครอบครัว เมื่อเสร็จพิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณฉันจึงขึ้นรถเดินทางกลับบ้านด้วยความรู้สึกหดหู่และเสียใจอย่างที่สุดกับภาพอดีตอันปวดร้าวที่ยังอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดมาไม่เคยลืมเลือน ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ไม่เคยถูกใช้งานมานานขึ้นมาทำความสะอาดคราบน้ำตา น้ำใสๆ ที่ยังเอ่อล้นดวงตาครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะก้าวขาลงจากรถยนต์เมื่อรถมาหยุดจอดบริเวณทางขึ้นบ้าน คนติดตามก็มีความรู้สึกไม่ต่างไปจากฉันที่ต่างร่ำไห้เสียใจกับการจากไปของทุกคน แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนความเสียใจก็ยังไม่เคยหายไปจากความทรงจำพวกเขา "นายหญิงอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมครับ?" หนึ่งในคนสนิทของฉันเอ่ยถามด้วยสีหน้าห่วงใย         "เราอยู่ได้ ไม่ต้องห่วงเราหรอก"          "แต่สีหน้านายหญิงยังไม่ค่อยดีนะครับ ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนก่อนได้ไหมผมเป็นห่วงนายหญิงนะครับ" ฉันเข้าใจในความเป็นห่วงของเขาเลยพยักหน้าตอบรับ เมื่อเขาได้รับอนุญาตจากฉัน เขาจึงนั่งลงที่เตียงด้านข้างๆฉัน ทันทีที่คนสนิทนั่งลงด้านข้างตัวฉันก็คว้าร่างแกร่งของเขาเข้ามากอดแล้วร่ำไห้จนตัวโยนตามแรงสะอื้น   "วิทย์เราคิดถึงคุณพ่อคุณแม่และพี่ชาย เราคิดถึงพวกเขาเหลือเกิน..." ฉันพูดกับเขาด้วยเสียงสะอื้นไห้ตลอดเวลา           วิตเตอร์หรือวิทย์ เป็นลูกชายคนสนิทของคุณพ่อ เขามีอายุไม่ห่างจากฉัน เราเติบโตมาด้วยกัน เรียนด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ซึ่งทำให้เราสองคนสนิทกันมาก ทุกครั้งที่ฉันเศร้าหรือร้องไห้ก็จะได้วิตเตอร์ช่วยปลอบโยนเสมอ แล้วเขาก็จะมานอนเป็นเพื่อนฉันทุกครั้งเช่นกัน คืนนี้ก็คงเป็นอีกคืนที่วิทย์ต้องนอนเป็นเพื่อนฉันเพื่อคลายความกังวลในใจของฉันให้กลับมามีรอยยิ้มและความสุขในเช้าวันถัดไป

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
5.3K
bc

กระชากกาวน์

read
4.1K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.3K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
13.6K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
3.5K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
2.5K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook