bc

The Rider สิงห์นักบิดพิชิตใจนายหน้าหวาน

book_age18+
219
FOLLOW
1K
READ
drama
twisted
sweet
bxb
humorous
mxm
like
intro-logo
Blurb

"รักคือการให้ยังได้ยินอยู่ทุกยุคสมัยและเป็นคติประจ าใจของ ‘เมฆ’

เสมอมา ตั ้งแต่ได้มาพบกับ ‘ก๊อป’ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึง

กับน้องชายผู้จากไป ท าให้เขาอดคิดถึงอีกคนเสียไม่ได้ เมฆจะมีวิธี

อย่างไรเมื่อฟ้าลิขิตให้ก๊อปเดินเข้ามาในวันที่เขาสูญเสียน้องชายไปตลอด

กาล... ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่เขาวาดไว้กลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น

ความเกลียดชังแก่อีกฝ่ายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ..."

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 บังเอิญ
หน้าบ้านหลังใหญ่ตระกูลดัง “เฮ้ย!! จะทันเปล่าวะเนี่ย แม่ง 7 โมงจะครึ่งละ” ผมบ่นกับตัวเองขณะที่กำลังถือกระเป๋านักเรียนและแฟ้มเอกสารพะลุงพะลังทั้งยังต้องก้มใส่รองเท้าอย่างทุลักทุเลด้วยความเร่งรีบหน้าประตูบานใหญ่   ขณะเดียวกันนั้น...เสียงลุงคนขับรถก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของผม "คุณหนูครับ เอ่อ...วันนี้คงเอารถออกไปส่งคุณหนูไม่ได้แล้วครับ" คำพูดของลุงคนขับรถทำให้ผมรีบหันไปถามท่านด้วยความตกใจปนความสงสัย "ทำไมล่ะลุง แบบนี้ก๊อปจะไปโรงเรียนทันมั๊ยอ่ะครับ?" (ก๊อป คำนี้ย่อมาจาก ก๊อปปี้นะครับ)    "รถติดตั้งแต่หน้าปากซอยจนถึงหน้าบ้านเลยครับคุณหนู" ลุงคนขับรถประจำบ้านบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมถึงกับยืนเอ๋ออยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจอะไรบ้างอย่างได้โดยไม่คิดมาก "งั้นไม่เป็นไรครับลุง ไม่ต้องไปส่งก๊อปก็ได้ เดี๋ยวก๊อปวิ่งไปหาวินเอาข้างหน้าปากซอยเองครับ" ผมบอกจบก็รีบวิ่งออกจากตัวบ้านไปหน้าประตูก็เล่นเอาหอบแล้วครับ เล่นอยู่ห่างกันเกือบร้อยเมตร (เอ๊ะ!! ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าทำไมมันอยู่ห่างกันขนาดนั้น เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ เดี๋ยวผมจะไปโรงเรียนไม่ทันครับ)   ทางลุงคนขับรถก็เรียกตามหลังแต่ไม่ทันหรอกครับ เพราะผมวิ่งถึงหน้าบ้านแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) ทำไมวันนี้รถมันติดจังวะตั้งแต่หน้าบ้านจนจะถึงปากซอยอยู่แล้วยังไม่ขยับเลย ผมวิ่งไปบ่นไปตลอดทาง บนหลังก็มีกระเป๋านักเรียน มือซ้ายก็ถือแฟ้มเอกสารโครงงาน มือขวาก็ถือถุงรายงานที่ต้องส่งอาจารย์วันนี้ถึง 3 วิชา จะเล่มใหญ่ไปไหนเนี่ย เฮ้อ ผมละเพลีย ผมวิ่งสปีดจนเลยปากซอยหมู่บ้านมาละแต่ท่าทีที่รถจะเคลื่อนตัวก็ไม่มี จังหวะเดียวกันนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเข้าโสตประสาทหูผมแทบอยากจะปล่อยของจากมือขึ้นมาปิดหูทันทีแต่ไม่สามารถที่จะทำได้ บึ้นน...บึ้นน...บึ้นนนน…  "เสียงรถเชี้ยอะไรวะหนวกหูโว้ย!!" ผมหลุดปากออกไปอย่างดังขณะที่ยืนพักเหนื่อยอยู่ริมฟุตบาทที่มีรถติดยาวเหยียดเป็นกิโลๆ  "ไม่ใช่รถเชี้ยหรอกครับ รถบิ๊กไบค์พี่เอง" ผมต้องหันไปตามเจ้าของเสียงที่กำลังนั่งค่อมบนรถบิ๊กไบค์คันโตนั้นทันที   'กรูจะตายมั๊ยเนี่ย แม่งได้ยินด้วย ปากหนอปาก' ผมด่าตัวเองในใจอย่างรู้สึกกลัวและอยากตีปากตัวเองหลายๆ ทีแต่ก็ทำไม่ได้เช่นเคย เท่าที่ผมสังเกตรถบิ๊กไบค์กับเจ้าของแม่งโคตรเท่เลยครับ ใส่ชุดหนังสีดำ หมวกกันน็อกสีดำและรถก็ยังสีดำ ดูคลาสสิคลงตัวเป๊ะเลยครับแล้วดันมาจอดข้างๆ ผมด้วย ห่างกันแค่เมตรเดียวว่าแล้วทำไมถึงได้ยินที่ผมพูด ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ผมแทบจะหัวเราะไม่ออก ทำตัวไม่ถูก จึงทำเพียงส่งยิ้มหวานแห้งๆ ให้เขาแทน   "อ๋อครับ คือก๊อปตกใจอ่ะครับเลยหลุดปากไป ขอโทษด้วยนะครับพี่" พูดไปยิ้มไปอย่างคนรู้สึกผิด กรูจะไม่เจอตรีนใช่มั๊ย!!? ผมก้มหน้าพูดกับตัวเองอย่างหัวเสีย "จริงดิ!! ตกใจหรอครับน้องงั้นพี่ขอโทษด้วยละกันครับ" เมื่อพี่เขาพูดจบก็เปิดกระจกหมวกกันน็อกขึ้น เฮ้ย!! ยังกับดาราเลยครับ จมูกโด่ง ตาสีดำดูมีเสน่ห์ คิ้วเข้มๆ มีหนวดกับเครานิดหน่อย ผิวสีแทนไม่ถึงกับดำแดงนะครับ ปากสวยเป็นกระจับได้รูปสีออกคล้ำนิดๆ โดยรวมแล้วโคตรหล่ออ่ะครับ เฮ้ย!! นี่ผมกำลังบรรยายใบหน้าผู้ชายใช่มั๊ยเนี่ย เหอะๆ ตลกละผมชอบผู้หญิงนะคร้าบแต่ที่บรรยายมาทั้งหมดสรุปสั้นๆ เลยนะครับ ผมหล่อกว่าเยอะจบป้ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) "ไม่เป็นไรครับพี่ไม่ต้องขอโทษก๊อปหรอกครับ แฮ่ๆ" คิดว่าจะเจอตรีนแต่เช้าแล้วกรู "จะรีบไปโรงเรียนหรอครับ?" พี่เขาถามกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแลดูเป็นมิตรมากๆ ครับ แต่ผมก็อดระแวงไม่ได้กลัวจะเจอเหมือนในข่าวตอนเช้าๆ อ่ะครับที่จะมีพวกรถตู้หรือไม่ก็พวกทำตัวเป็นพวกแมวมองมาหาเด็กหนุ่มไปเป็นดารา นายแบบอะไรแบบนี้น่ะครับ แล้วสรุปก็ล่อลวงไปค้ากามซะงั้น เอ๊ะ!! ผมคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ยก่อนจะรีบตอบคำถามพี่เขาไป "ครับพี่" "นี่ก็จะแปดโมงแล้วเหลืออีก 20 นาทีจะทันหรอให้พี่ไปส่งดีมั๊ยครับ" พี่เขายกแขนซ้ายขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ โห!! นาฬิกาโคตรเท่เลยว่ะ ผมอยากได้ยี่ห้อนี้มานานละ แต่ปี๊ไม่ยอมซื้อให้สักที (ปี๊ ก็พ่อแหละครับที่บ้านผมเรียก ปี๊ ส่วน มี๊ ก็คือแม่ เข้าใจตรงกันนะครับ)   จะแปดโมงแล้ว!!...พักแปบเดียวเองนะเนี่ย โอ๊ย!! ไปไม่ทันแน่เลยกรูเอ๊ย!! ผมบ่นอุบแต่ทำไมพี่เขามองผมแปลกๆ วะ มีแอบอมยิ้มด้วยหรือจะเป็นอย่างที่ผมคิดวะเนี่ย ตายแน่ๆ เลยกรู ผมกำลังจะก้าวขาเดินต่อไปแต่ถูกพี่เขาชิงยิงคำถามเสียก่อน "ให้พี่ไปส่งนะครับ อยู่โรงเรียนอะไรหรอ?" ผมเลยค่อยๆ ดึงขานั้นกลับมาที่เดิม เป็นไงเป็นกันวะถามมาก็ตอบไปแล้วกันแต่ผมกลับไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ "อ๋อโรงเรียนนี้เป็นทางผ่านไปที่ทำงานของพี่พอดีเลย ป้ะขึ้นรถ…" จู่ๆ พี่เขาก็คว้าเอาแฟ้มเอกสารและถุงรายงานไปจากมือผมดื้อๆ อ้าว!! แบบนี้ผมก็งงสิครับ "พี่ๆ ก๊อปว่าไม่เป็นไรดีกว่าครับ ถึงจะสายก็สายวันเดียวก๊อปไปเองดีกว่าครับรบกวนพี่เปล่าๆ" ผมปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุดทั้งที่ตัวจริงเป็นคนสุภาพมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) ใครจะกล้าไปด้วยวะรู้จักก็ไม่รู้จักจะเอากรูไปข่มขืนแล้วลืมฆ่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่ทันครับรถเริ่มเคลื่อนตัวแล้วรถพี่เขาขวางทางมอไซด์ข้างหลังอีกเป็นสิบคันและมอเตอร์ไซค์ข้างหน้าก็ออกตัวไปพอดี   ปี้นน…ปี้นน... “ตกลงจะคุยกันอีกนานมั๊ยคะคุณ ฉันต้องไปทำงานนะคะ” ปี้นน...ปี้น... พี่เขาถูกบีบแตรใส่รัวๆ เลยครับ เอาไงดีวะจะวิ่งหนีไปเลยของก็อยู่กับพี่เขาแล้ว "ขึ้นมาสิก๊อปพี่ไม่พาไปฆ่าหรอก เร็วๆ ครับ เขาบีบแตรไล่เราแล้ว" ผมจำใจต้องขึ้นนั่งซ้อนท้ายบิ๊กไบค์ชายนิรนามอย่างขัดไม่ได้ "พี่รู้ชื่อก๊อปได้ไงอ่ะ ก๊อปยังไม่ทันได้บอกพี่เลยนะครับ" ผมถามพี่เขาแบบงงๆระหว่างทางที่นั่งซ้อนท้ายไปโรงเรียน "ก็บอกอยู่นี่ไง"  กรูบอกตอนไหนวะ ผมพึมพำเบาๆ ตามด้วยการเกาหัวอย่างไม่เข้าใจจนถึงบางอ้อ "อ๋อ!!..." "ก็ก๊อปเรียกแทนตัวเองว่าก๊อปอย่างโน้น ก๊อปอย่างนี้ ไม่รู้ว่าชื่อก๊อปก็แปลกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ)" พี่เขาพูดพลางหัวเราะชอบใจเล่นเอาผมเขินเลยสิครับงานนี้ "แฮ่! ^o^" หลังจากที่ผมขึ้นไปซ้อนท้ายพี่เขาทำให้ผมรู้ว่า พี่เขาตัวใหญ่มาก แต่ไม่ถึงกับบึ้กนะ ก็หุ่นนักกีฬานี่แหละครับ ทำไมพี่เขาตัวหอมจังวะ ต้องเป็นน้ำหอมจากนอกแน่เลย เฮ้ย!! ผมไม่ได้ตั้งใจจะดมตัวเขานะครับ ตัวพี่เขาหอมจริงๆ ไม่เชื่อมาซ้อนท้ายพี่เขาดูสิครับ แฮ่ๆ "กอดแน่นๆ พี่จะซิ่งแล้วนะครับ" อะไรของพี่แกวะแค่นั่งซ้อนท้ายต้องกอดด้วยเหรอจะหลอกแตะอั๋งกรูป้ะวะ อีกอย่างรถจะแรงซักแค่ไหนครับพี่!! ไม่ทันที่ผมจะคิดจบเจ้าบิ๊กไบค์คันโตก็ออกตัวอย่างแรงจนผมไม่ทันตั้งตัว      "เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ บอกให้กอดไว้แน่นๆ ถ้าพี่คว้าตัวไม่ทันจะเป็นไงเนี่ย!?"  ขณะที่พี่เขากำลังบ่นแบบได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างตามแรงลมที่มากระทบหน้าผมอยู่ตลอด ผมรู้สึกว่าหัวใจมันหล่นหายตั้งแต่บิ๊กไบค์ออกตัวแล้ว อาการมือเย็นจากการตกใจค่อยๆ ดีขึ้นกว่าก่อนหน้าที่ผมนั่งซ้อนท้ายพี่เขาโดยไม่กอดเอวตามคำสั่ง หลังจากที่พี่เขาเพิ่งคว้าแขนผมไว้ทันจนไม่หล่นจากเบาะท้ายให้รถยนต์อีกเป็นสิบคันเหยียบตาย ถ้าพี่เขาคว้าแขนผมไม่ทันเมื่อซักครู่นี้ผมคงเป็นผีที่หน้าตาดีเฝ้าถนนอยู่ตรงนั้นเป็นแน่ เกือบตายแล้วยังห่วงหล่ออีกเนาะกรู   ‘ขอบคุณนะครับพี่’ ผมขอบคุณพี่เขาในใจ อ้าว!! แล้วพี่เขาจะได้ยินมั๊ยวะเนี่ย ทำไมไม่พูดไปวะกรู "เป็นอะไรยังตกใจอยู่หรอเห็นหน้าซีดๆ ไหวมั๊ย?" พี่เขาถามพลางมองกระจกส่องหลังผมเลยพยักหน้าแทนคำตอบ "พี่ขอโทษนะเอามือมานี่ ด้านหน้าถนนโล่งแล้วพี่จะขับเร็วขึ้นจะได้ถึงโรงเรียนก่อนแปดโมง…" พี่เขาพูดพลางเอื้อมมือมาจับมือผมไปกอดที่เอวพี่เขาทั้งสองข้าง ซ้ำยังกุมมือผมไว้แน่นเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ‘ทำไมกรูรู้สึกแปลกๆ ตอนที่กอดเอวพี่เขาวะ ทั้งที่ลมกระทบตัวกับใบหน้าแรงพอสมควร แทนที่กรูจะรู้สึกหนาวหรือเย็นเพราะแรงลมแต่กรูกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกหรือเป็นเพราะพี่เขาตัวใหญ่เลยดูเป็นที่กำบังลมที่มากระทบตัวกรูวะ บลาๆๆ... กรูเป็นไรเนี่ย??’ ผมครุ่นคิดกับอาการที่กำลังเกิดขึ้นภายในใจอย่างฟุ้งซ่านตลอดเส้นทางไปโรงเรียน เราต่างเงียบกันทั้งคู่โดยไม่มีใครพูดอะไรต่อเลย แต่ถึงจะคุยกันก็คงฟังกันไม่รู้เรื่องก็เล่นขับซะอย่างกับอยู่สนามแข่งอย่างไรอย่างนั้น ส่วนมือใหญ่นั้นก็ยังคอยกุมบนมือผมไม่วาง  จนกระทั่ง.... "ก๊อป...ก๊อป...ถึงโรงเรียนแล้วครับ..."  ผมงัวเงียตื่นขึ้นจากการถูกเขย่าแขน ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ยกหน้าขึ้นจากแผ่นหลังกว้างโดยที่แก้มนุ่มๆ ของผมซบอยู่บนนั้นไม่รู้ว่านานแค่ไหน ผมลืมตาขึ้นสำรวจสิ่งรอบตัว ‘กรูรอดแล้วเหรอเนี่ย คิดว่าตื่นขึ้นมาอีกทีจะต้องอยู่ในห้องมืดๆ ที่ไหนไม่รู้ซะแล้ว’ คิดไปไกลเลยกรู "เป็นยังไง ไหวมั๊ย ให้พี่ไปส่งข้างในเอามั๊ย ก๊อปจะได้ไม่ต้องเดินเยอะดูแล้วหน้ายังซีดๆ อยู่เลยนะครับ...." พี่เขายิงคำถามเป็นชุดเลยครับ ‘ให้กรูตอบบ้างเถอะคนเพิ่งตื่นนะโว้ย!! สมองกรูยิ่งประมวลผลช้าอยู่ด้วย’ ผมแอบโวยวายในใจ "เอ่อ…เออ..." ผมกำลังจะตอบพี่แกครับแต่… "ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าห้องพยาบาลอยู่ทางไหนครับ พอดีน้องเหมือนจะเป็นลมครับ" เฮ้ย!! กรูไม่ได้จะเป็นลมกรูเพิ่งตื่นคร้าบ... ผมอยากจะเสยปลายคางพี่เขาสักหมัดหลังจากที่พี่เขาถามทางไปห้องพยาบาลจากอาจารย์เวรหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนด้วยท่าทีร้อนรน  "ใครเหรอครับ?" เสียงอาจารย์เอ่ยถามก่อนจะเดินมาทางผม "อ้าว! คุณกรพัฒน์เป็นอะไรหรอครับ ไหวมั๊ยครับ?" ทันทีทีอาจารย์รู้ว่าเป็นผมก็รัวคำถามใส่ผมเป็นชุดไม่ต่างจากพี่เขาเลยครับ            "อาจารย์เรียกผมว่านายก๊อป เหมือนคนอื่นก็ได้ครับอย่าเรียกผมแบบนั้นเลยนะครับ..."           "ไม่ได้หรอกครับ คุณกรวีแม่ของคุณ..." ไม่ทันที่อาจารย์จะพูดจบผมทำมือเป็นสัญญาณว่าห้ามพูด อาจารย์เลยหยุดพูดไป ‘เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ เป็นไปได้ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมเป็นใคร ลูกใคร ทำไม ยังไงอะไรแบบนั้นครับ ผมกลัวว่าคนหล่อๆ อย่างผมจะไม่ปลอดภัย คิดไปนั่น "เปล่าครับอาจารย์ ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ ผมเพิ่งตื่นเฉยๆ พอดีลมมันเย็นรถนั่งสบายเลยเผลอหลับไปครับ ผมเข้าโรงเรียนก่อนนะครับ..." อาจารย์ไม่ทันได้ตอบอะไรผม ถูกผมพูดใส่เป็นชุดคืนเสียก่อน ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) "เดี๋ยวพี่เข้าไปส่งข้างในนะ ก๊อปจะได้ไม่ต้องเดิน" พี่เขาพูดจบก็ขับบิ๊กไบค์เข้าโรงเรียนโดยที่ผมไม่ทันได้ปฏิเสธอะไรสักคำ    เอ๊ะ!! นิสัยแบบนี้มันเหมือนใครวะ อ๋อ!! เหมือนกรูนี่เอง...จิ๊บหายละ!!       รถบิ๊กไบค์คันโตค่อยๆ เข้าสู่ตัวโรงเรียนสหศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ อาคารเรียนน้อยใหญ่ถูกปลูกสร้างเรียงรายอย่างเป็นระเบียบตามมาตรฐานสากล ISO 9010 เฮ้ย!! ไม่ใช่แหละ   ผมยกแขนดูนาฬิกาขึ้นดูเหลืออีก 10 นาทีจะแปดโมงพอดี ผมคอยชี้ทางให้พี่เขาไปยังจุดที่ผมกับเพื่อนๆ นั่งประจำคือใต้ต้นมะขามที่มีอายุราวๆ 80 ปีเห็นจะได้ ใต้ต้นมะขามนั้นก็มีโต๊ะม้าหินอ่อนจัดตั้งเรียงเป็นแถวรอบต้นมะขาม ซึ่งม้าหินอ่อนที่ผมนั่งนั้นจะมีความพิเศษอยู่คือ จะมีนามสกุลของผมสลักไว้กลางโต๊ะขนาดเท่าเหรียญบาท ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นนะครับ ปี๊เล่าว่าเห็นมันถูกสลักไว้ตั้งแต่รุ่นที่ปี๊เรียนแล้ว โดยไม่มีประวัติว่าใครเป็นคนสลักไว้   บรรยากาศขณะนั้นกลุ่มนักเรียนก็นั่งคุยกันเป็นกลุ่มๆ ตามม้าหินอ่อนตัวประจำของพวกเขา เมื่อรถบิ๊กไบค์คันโตเสียงดังค่อยๆ วิ่งผ่าน สาวๆ นักเรียนทั้งแท้และเทียมต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดไม่ขาดสายตลอดทางไปยังม้าหินอ่อนตัวประจำที่กลุ่มผมนั่ง ลองคิดภาพตามดูนะครับว่าหนุ่มชุดหนัง ใส่หมวกกันน็อกนั่งค่อมบิ๊กไบค์คันโตทุกอย่างเป็นสีดำหมดมันจะดูคลาสสิกและเท่ห์ขนาดไหน แล้วยังมีหนุ่มน้อยตัวเล็กในชุดนักเรียนสีขาวกางเกงสีน้ำเงินขาสั้น ผมสีน้ำตาลทองส่งผลให้ใบหน้าดูกระจ่างขาวใสมากขึ้น ทั้งที่เป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว ตาสีน้ำตาลอ่อน ขนตายาวเรียงเป็นแพรสวยสีดำขลับ จมูกโด่งเป็นสันสไตล์ลูกครึ่งเกาหลี ปากรูปกระจับดูจิ้มลิ้มสีชมพูระเรื่อ พวงแก้มมีเลือดฝาดดูสดใสและมีโครงหน้าสวยหวานเกินความเป็นชายอย่างผมนั่งซ้อนท้ายอยู่ มีหรอจะไม่กรี๊ดตาม เอ๊ะ!! คนที่ผมบรรยายเมื่อกี้ผมเองใช่มั๊ย!! ไม่นะ.. ไม่...ผมออกจะดูหล่อมาดแมนแฮนด์ซั่มจะตาย (ใครบอกกรูวะ??) เมื่อถึงที่หมายก็โต๊ะม้าหินอ่อนแหละครับ รถบิ๊กไบค์หยุดจอดข้างฟุตบาทที่กลุ่มเพื่อนผมนั่งเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน   "เชี้ย!! ก๊อปมาแล้วโว้ยย เฮ้ย!!???" ทุกคนในโต๊ะต่างพากันงง มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ผมก็ค่อยๆ ลงจากบิ๊กไบค์คันโตอย่างระวังเต็มที่ เพราะกลัวตก ‘รถเชี้ยอะไรวะแม่งโคตรสูงเลย’ ผมพึมพำกับตัวเองในใจตามเคย จังหวะนั้นขาอันสั้นของผมดันไปเกี่ยวกับเหล็กที่จับตรงเบาะท้ายเจ้าบิ๊กไบค์เข้า… "เฮ้ยระวัง!!" เสียงไอ้เชี้ยเก่งร้องอุทานขึ้นซะดังลั่นพลอยทำให้ได้ยินเสียงสาวๆ ร้องอุทานไปตามๆ กัน   "เป็นไรมั๊ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ..." พี่เขาถามขึ้นขณะที่ผมหลับตาปี๋ คิดว่าหัวแตกชัวร์ ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นภาพที่ปรากฏตรงหน้าผมกลับเป็นใบหน้าชายหนุ่มรูปหล่อ แววตาอ่อนโยนส่งมายังผมจนรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วง ผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะซึ่งใบหน้านั้นอยู่ห่างจากหน้าผมแค่คืบแล้วผมก็ได้สติกลับคืนเพราะ... กรี๊ด...กรี๊ด... “น่ารักจังเลย...” “จะจูบกันแล้ว..." เสียงสาวๆ ต่างพากันส่งเสียงกรี๊ดจนผมได้สติคืนมา ก็พบว่าร่างของผมอยู่บนตักพี่เขาโดยมีแขนและมือใหญ่คอยประคองให้ส่วนหัวเชิดขึ้นจนหน้าจะติดกับหน้าพี่เขาแล้ว ที่สำคัญพี่เขายังไม่ได้ลงจากเจ้าบิ๊กไบค์เลย แปลว่าผมถูกพี่เขาคว้าตัวมาอุ้มตอนจะหน้าทิ่มจากรถคันนี้ใช่มั๊ย!! พี่เขาทำได้ไงอ่ะตัวผมเล็กขนาดนั้นเลยเหรอ "เอ่อ...เอ่อ...ไม่เป็นไร คะ...ครับ..." ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ วะ?? ผมถามกับตัวเองอีกครั้งก่อนจะรีบบอกพี่เขาให้วางผมลง  "พี่วางผมลงเถอะ...ครับ... ผมไม่ได้เป็น..อะ...ไรแล้ว...คะ...ครับ..." ผมกลายเป็นคนติดอ่างไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย "โอเค ไหวนะครับ?" พี่เขาเอ่ยถามอย่างห่วงใยยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกในความรู้สึกมากขึ้นไปอีก "ครับ" ผมตอบด้วยความรู้สึกคล้ายอาการเขินตรับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอาการเขินหรือเปล่า ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน "ทำไมตัวก๊อปเบาจัง เบามาก แบบนี้พี่อุ้มสบายเลย" พี่เขาพูดพลางค่อยๆ ประคองผมลงยืนกับพื้นพร้อมกับส่งยิ้มออกแนวเจ้าเล่ห์ให้ผม "ขอบคุณนะครับพี่ที่ช่วยก๊อปไว้ สองรอบแหละ แฮ่ๆ" ผมขอบคุณพลางหัวเราะแก้เขิน นี่เก็บอาการสุดๆ แล้วนะ เกิดมาไม่เคยเขินจริงจังแบบนี้สักที "ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ยินดีช่วย" พี่เขาพูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข เฮ้อ คิดว่าผมมีความสุขด้วยมั๊ย สาวๆ มองกันเต็มไปหมดแล้วไอ้ก๊อป ดีกรีหนุ่มหน้าหวานที่สาวๆ ต่างคลั่งไคล้กัน พวกเขาจะคิดกันยังไงครับเนี่ย 'เหอะ...คงจะได้อุ้มไอ้ก๊อปอีกหร๊อกพี่เอ๊ยย!!! นี่จะตกรถเฉยๆ นะ' ผมคิดในใจด้วยอารมณ์ฉุน พอหันมาทางเพื่อนเชี้ยทั้งสองคนก็ยืนเอ๋อแดกอยู่ครับ ผมเลยต้องเข้าไปตบกบาลมันคนละทีเพื่อเรียกสติ ผัวะ...ผัวะ... “โอ๊ย!! มรึงทำเชี้ยอะไรวะไอ้ก๊อป พวกกรูเจ็บนะโว้ยย!! " มันบ่นให้ผมหลังได้สติกลับมาครบถ้วน "แทนที่พวกมรึง...มรึง...จะเข้าไปช่วยกรูกลับมายืนเอ๋อแดกกันเนี่ยนะ ห๊า!!"  "เออ กรูขอโทษก็มันตกใจนี่หว่า" ไอ้แว่น เพื่อนซี้อันดับหนึ่งของผมครับ ไปไหนไปกัน แต่ผมออกตังค์นะ นี่คือฉายาของมันครับ "ใครมาส่งมรึงวะไอ้ก๊อป?" เก่ง เพื่อนซี้อันดับสอง เรื่องจีบสาวปรึกษากรู แต่ตัวกรูเอาตัวเองไม่รอด ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) นี่คือฉายามันครับ "พี่ชื่อเมฆครับ เรียกพี่เมฆก็ได้นะ บังเอิญพี่เจอเพื่อนน้องยืนพักเหนื่อยข้างฟุตบาทน่ะ เลยอาสามาส่งครับ" พี่เขาดันได้ยินที่ไอ้เก่งถามเลยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ "ผมแว่นครับ เป็นเพื่อนซี้ไอ้ก๊อป เอ๊ย!! เป็นเพื่อนซี้คุณหนูก๊อปครับ” ผัวะ!! ลูกตบจากผมครับ ปากดีนัก ทำให้มันรีบลูบผมให้เข้าทรงเพราะกลัวไม่หล่อตามสไตล์           "ผมชื่อเก่งครับ เพื่อนซี้ไอ้ก๊อป ส่วนนี่ ก๊อปครับ เป็นนักเรียนหนุ่มใบหน้าสวยหวานที่สุดในโรงเรียนยังโสด อยู่ม. 6/1 ครับพี่..." ไอ้เก่งแนะนำตัวเองพร้อมพ่วงผมไปด้วยซะละเอียดเสร็จสรรพเลยครับ ผัวะ!! “เจือก!! เยอะไปและมรึงอ่ะ อย่าไปฟังมันนะพี่ มันเพ้อ..." ติ๊งง...ติง...ติ่ง...  "พี่เดี๋ยวพวกผมไปเข้าแถวก่อนนะครับเสียงออดเตือนแล้ว ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" ผมกล่าวขอบคุณพี่เมฆอีกครั้ง          "ไม่เป็นไรครับพี่ยินดี เอ้อ...เลิกเรียนกี่โมงหรอครับ?"  "บ่ายสามครับ..." ไอ้แว่นครับ มันเจือกอีกแล้วครับมันคงกลัวผมตบหัวอีก พอมันพูดจบก็รีบวิ่งไปเลยครับ ไอ้นี่มันน่าจริงๆ "งั้นเย็นนี้พี่มารับที่นี่นะครับ..." ไม่ทันที่ผมจะตอบรับ พี่เขาพูดจบก็ใส่หมวกขับบิ๊กไบค์ออกไปเลยครับ ทำให้ผมยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้นไปพักนึงเลย "เฮ้ย เข้าแถวโว้ยย!! มัวยืนใจลอยถึงพี่เมฆรึไงวะ ไอ้ก๊อปจะมีผัวแล้วโว้ย!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ)" มันไม่รอช้าครับพูดจบก็เผ่นหนีอีกเหมือนกันกลัวเจอผมตบกบาลเอาไงล่ะทีนี้… งานเข้าแล้วมั๊ยล่ะไอ้ก๊อปผมคิดพลางวิ่งตามพวกมันไปเข้าแถวเคารพธงชาติด้วยความเอือมระอากับพฤติกรรมของพวกมันจริงๆ    

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1K
bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.8K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.7K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook