รินรดาตอบเพื่อน และก็หรี่ตามองผ่านช่องเล็กๆ ที่หน้าประตู แต่ก็ไม่เห็นตัวคนที่กดกริ่งเลย “ไม่เห็นมีใครเลย” “สงสัยเด็กห้องข้างๆ มากดเล่นอีกแน่เลย ช่างเถอะริน” รินรดาเดินกลับมานั่งบนโซฟาข้างๆ เพื่อน ก่อนจะดึงมือเพื่อนรักมาบีบเบาๆ “แล้วต่อจากนี้แกจะเอายังไงต่อไปล่ะไหม” ไหมแก้วยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะมองเพื่อนด้วยสายตาเศร้าหมอง “เมื่อเช้าพี่ทอยส่งข้อความมาหาฉันว่ามีบทตัวประกอบว่างอยู่น่ะ” “แกจะกลับไปรับละครอีกเหรอ” “อืม ฉันไม่มีทางเลือกนี่นา แล้วอีกอย่างมันก็คืองานที่ฉันรักด้วย ต่อจากนี้ไปฉันจะพยายามควบคุมสติของตัวเองไม่ให้โมโหบ่อยเหมือนเมื่อก่อน จะทำงานอย่างเจียมตัว...” “แต่ฉันว่าแกหางานอื่นดีกว่าไหม งานที่มั่นคง ฉันจะช่วยแกหาเอง ฉันพอมีเพื่อนๆ ที่ทำงานสายเดียวกันอยู่” รินรดาอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ “ฉันรับปากพี่ทอยไปแล้วน่ะริน แต่ยังไงก็ขอบใจแกมากนะรินที่เป็นห่วงฉันน่ะ” “ฉันต้อง

