"ทำไมถึงให้ไอ้ทัพมาส่ง เป็นแฟนมันเหรอ?"
แต่คนไม่ชอบกันจะถามหาเหตุผลไปทำไม? นำทัพจะมาส่งฉันไม่ได้เหรอ...
"ต้องการคำตอบแบบไหนเหรอ" เจ้าของใบหน้าสวยเอ่ยถามเขาด้วยความเรียบนิ่ง เพราะไม่รู้ว่าเขาถามทำไม เธอพยายามจ้องลึกเข้าไปในความมืดดำของดวงตาเขา แต่มันกลับไม่ได้ปรากฏอะไรอยู่ในนั้นเลย ถ้าจะมีก็คงเป็นความหงุดหงิดเล็กๆ เท่านั้น
"อย่ากวนประสาทฉันซี ตอบมา"
"แฟน" และไม่รู้อะไรดลใจให้เธอตอบไปแบบนั้น แต่มันคุ้มค่าเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าบึ้งตึงมากแค่ไหน ดวงตาคู่คมเหมือนจะวูบไหวอย่างไม่พอใจอยู่เพียงเสี้ยววินาที แต่เมื่อเธอกะพริบตามันกลับจางหายไป เหลือไว้เพียงมือหนาที่จับอยู่บนเรียวคางของเธอ แต่เขากลับบีบแรงขึ้นเล็กน้อยจนเธอต้องขมวดคิ้วมุ่น ถึงแม้จะไม่เจ็บแต่ก็สร้างความอึดอัดให้กับเธอไม่น้อย
"เธอไม่มีแฟน อย่ามาโกหกฉัน" น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเมื่อเอ่ยคำพูดนั้น
"นายจะรู้ดีไปกว่าฉันได้ไง"
เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด แต่อยากลองแกล้งเขาแค่นั้น เพราะเขาชอบมั่นหน้าท้าทายเธออยู่ตลอดว่าคนนิสัยเย่อหยิ่งแบบเธอคงหาแฟนยากหน่อย
เธออยากจะบอกเขาไปเสียเหลือเกินว่าเธอไม่ได้หาแฟนยาก แค่ไม่มีใครน่าสนใจเท่านั้น
"ฉันรู้จักเธอมากกว่าที่เธอรู้จักตัวเองอีกซี" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นดุๆ สีหน้าเขามันบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขาอยู่เหนือเธอไม่น้อย ยิ่งเขาตัวสูง ไหนจะมีกล้ามเนื้อกำยำมากกว่าเธอเป็นเท่าตัว ยิ่งเขาทอดสายตาลงมาอย่างนิ่งงัน หรือเปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามกรอบหน้าของเธออย่างอ้อยอิ่ง
เขาเหมือนมองทะลุความคิดของเธออย่างปรุโปร่ง และตอนนี้ร่างกายของเธอก็เหมือนโดนเขาบังคับอยู่กลายๆ
บางทีเขาอาจจะไม่ได้บังคับ แต่เขามีวิธีที่จะทำให้เธอคล้อยตามเขาได้เหมือนทุกครั้ง
ดวงตาคู่สวยของคนตัวเล็กสบกับคนตัวสูงนิ่ง พยายามบังคับร่างกายไม่ให้อ่อนไหวไปกับเรียวนิ้วของเขาที่ไล้ไปตามกรอบหน้า ไล้ลงมายังลำคอขาวจนเธอขนลุกชันไปหมด
เธอสูดหายใจเข้าปอดหนักๆ ก่อนจะเอ่ยบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่แฝงไปด้วยความดื้อรั้น และท้าทายเขาอยู่ในที
"เหรอ? แล้วตอนนี้ฉันรู้สึกอะไร นายบอกฉันได้ปะ"
"ตอนนี้ไม่รู้ แต่อีกเดี๋ยวก็ไม่แน่..." เขาแค่นเสียงใส่เธออีกครั้ง ดวงตาคู่คมจดจ้องเข้ามาในดวงตาเธอ และนั่นก็ยิ่งทำให้ร่างแบบบางร้อนรุ่มราวกับโดนไฟสุม
"มาร์ตินจะทำอะไร..." ฝ่ามือเล็กรีบดันร่างกำยำที่เริ่มขยับเข้าหาจนแทบจะไร้ช่องว่าง แผ่นหลังบางแนบสนิทไปกับบานประตู ซอกขารับรู้ได้ถึงหน้าขาแกร่งที่สอดเข้ามาจนซิปกางเกงยีนเสียดสีอยู่ตรงกระโปรงทรงเอของเธอ
"ทำให้เธอรู้ใจตัวเองมั้ง" ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามากระซิบข้างใบหู ทั้งยังขบเม้มลงไปอย่างแผ่วเบา
"ระ รู้อะไร" น้ำเสียงที่เอ่ยถามสั่นเครือเล็กน้อย เมื่อริมฝีปากร้อนปัดป่ายไปทั่วใบหู ซิปกางเกงเขาเสียดสีไปมาอยู่ตรงกลางกายเธอจนต้องขบเม้มริมฝีปาก เพื่อข่มกลั้นเสียงครางผะแผ่วของตัวเองไม่ให้เล็ดลอดออกมา
"รู้ว่าตอนนี้เธอมีอารมณ์มากแค่ไหนไง" ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วสีข้างและเอวคอดอย่างแผ่วเบา ทว่ากลับยั่วยุอารมณ์ของเธอให้พลุ่งพล่าน
"อะ อื้อ~ มาร์ตินนายอยากเป็นชู้เหรอ..." ฝ่ามือเล็กดันหน้าอกเขาออก แต่เขากลับจับมือข้างนั้นของเธอเอาไว้แน่น
"ก็อยากลองเป็นอยู่เหมือนกัน มันน่าตื่นเต้นดีว่าปะ..." รอยยิ้มร้ายยกขึ้นตรงมุมปากเขา กลิ่นอายความวาบหวามกำลังก่อตัวขึ้นในกายเธอ เมื่อเขาบดเบียดร่างกายกำยำเข้ามาจนแผงอกกำยำเสียดสีกับอกอวบของเธอ ปลายจมูกโด่งปัดป่ายอยู่ตรงกกหู กลางกายเริ่มร้อนผะผ่าวจากสัมผัสของกางเกงยีนที่เจ้าของมันขยับไปมา
ขนกายเธอลุกชันในตอนที่เขากดริมฝีปากลงมายังต้นคอ ร่างกายเหมือนโดนเขาควบคุมโดยสมบูรณ์แบบ ผิวกายเธอร้อนฉ่าเหมือนกับปลายลิ้นสากที่กำลังลากไล้ไปตามลำคอขาวผ่อง แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ เสียงเครื่องยนต์ที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ กลับเรียกสติของเธอให้กลับคืนมา
บรื้น~
"อื้อ~ หยุดก่อนแม่มา..." เพราะรู้ว่าเสียงเครื่องยนต์ที่ดังอยู่คือรถของแม่ คนตัวเล็กจึงเอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เพราะแรงดูดดึงตรงลำคอยิ่งรุนแรงขึ้นจนเธอได้แต่นิ่วหน้า แต่เขากลับตอบเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเสียอย่างนั้น
"งั้นก็ห้ามฉันสิ"
.
.
.
.
พูดคุย
อิหมามาร์ตินมันชักเอาใหญ่แล้ว เดี๋ยวก็โดนแม่ยายตีหัวหรอก 5555+
ทำอะไรลูกสาวหน้าบ้านเนี่ย ในห้องก็มีปะ ?????
ฝากคอมเม้นด้วยน้าาา