กรี๊ดดดดด
จ้าวลี่อิงยังกรีดร้องไม่หยุด เหตุการณ์ส่งจูบฟาดปะทะริมฝีปากกลางอากาศเมื่อครู่ทำให้เพื่อนสนิทของมู่ถิงฟางถึงกับกรีดร้องจนเสียอาการ
"ท่านแม่ทัพส่งจูบกลางอากาศให้เจ้า กรี๊ดดดดดด"
"นี่เจ้าเป็นอะไร ข้านึกว่ามดแดงไฟเข้าไปกัดของในร่มผ้า" มู่ถิงฟางกลอกตาไปมา เพียงเพราะเจ้าแม่ทัพกล้ามปูส่งจุมพิตให้กลางอากาศ เพื่อนรักของนางถึงกับกรีดร้องเหมือนจะคลอดบุตร
"ข้าอิจฉาเจ้าเสียจริง" จ้าวลี่อิงเดินไปเดินมา ยังตื่นเต้นไม่หยุด
"ข้าบอกแล้ว ว่าข้าไม่ชอบมนุษย์ร่างถึกเช่นแม่ทัพหื่นกามนั่นหรอก"
"แต่เจ้าส่งจูบให้เขาก่อน"
"ข้าก็อ่อยเล่นไปแบบนั้น อ่อยบุรุษสนุกดีออก"
"แต่เจ้ามีนักปราชญ์ฟ่งอยู่แล้ว จะมาให้ท่าบุรุษของข้าทำไมกัน" จ้าวลี่อิงฮึดฮัด
"มโนสูง จินตนาการสร้างเสียจริง แม่ทัพเป็นของเจ้าตอนไหน"
"แน่ะ ไหนเจ้าว่าไม่ชอบแม่ทัพ" จ้าวลี่อิงกระเซ้า เอาศอกกระทุ้งแขนมู่ถิงฟาง
"ตราบใดที่พวกเรายังไม่แต่งงาน ข้าจะอ่อยอีกสิบบุรุษก็ได้"
"แต่ข้าจองแม่ทัพแล้ว"
"ใครอ่อยเก่งกว่า คนนั้นชนะ" มู่ถิงฟางยักคิ้ว
"ก็เจ้านมโตกว่าข้านี่ เจ้าได้เปรียบไปหลายขุม" จ้าวลี่อิงก้มมองหน้าอกเสี่ยวหลงเปาเทียบกับหน้าอกผลเย่จื่อของมู่ถิงฟาง
"นมใหญ่ย่อมได้เปรียบ" มู่ถิงฟางพยักหน้า ยอมรับในความอึ๋มใหญ่ของตน
"เจ้าจะแย่งแม่ทัพกับข้ารึ"
"แหม! ข้าล้อเล่นหน่อยเดียวถึงกับหึงหวงจนออกนอกหน้า"
"แล้วหากข้าส่งจุมพิตให้นักปราชญ์ฟ่งบ้างเล่า" จ้าวลี่อิงลอยหน้าเถียง
"ทำนมให้ใหญ่เท่าข้าเสียก่อน ค่อยมาอ่อยฟ่งเจิน"
จ้าวลี่อิงค้อนขวับ
ความจริงคุณหนูสกุลจ้าวมีคู่หมายอยู่แล้วเช่นกัน คู่หมายของจ้าวลี่อิงคือหลี่ไท่หลง บุตรชายคนโตของตระกูลการค้าใหญ่อย่างสกุลหลี่
"พวกเราไปหาเป็ดย่างมาแกล้มสุรากันดีกว่า" จ้าวลี่อิงชวนมู่ถิงฟางดื่มสุรากลางวันแสก ๆ
"วันนี้ข้าต้องขอตัว ข้านัดกับท่านปู่เอาไว้ เรื่องทดสอบเครื่องร่อน"
"ของเล่นประหลาดของเจ้าอีกแล้วรึ"
"ข้าชอบทดลองสิ่งแปลกใหม่" มู่ถิงฟางนึกถึงเครื่องร่อนที่ท่านปู่ประดิษฐ์ให้ เป็นเครื่องร่อนรูปสามเหลี่ยมทำจากผืนผ้าใบเหนียวแข็งแรง ใช้ลมต้านร่อนลงจากหน้าผา ทำให้บินได้อย่างนก
"หากอยากบินได้ เหตุใดไม่ใช้วิชาตัวเบา"
"ข้าไม่เก่งถึงเพียงนั้นหรอก วิชาตัวเบาของข้ากระโดดข้ามกำแพงยังลำบาก"
"วันนี้เจ้ายอมออกมาดูหน้าแม่ทัพหยวนซีหยางโดยเฉพาะเลยรึ"
"ก็เจ้าเป็นคนชวนข้าเอง" มู่ถิงฟางเดินลงจากหอสุราทันที
การได้เห็นหน้าแม่ทัพหื่นพร้อมกับจูบกลางอากาศจากเขา ทำให้นางรู้สึกปั่นป่วนในอารมณ์เหมือนมีแมลงหวี่มาตอมเบ้าตา ทั้งรำคาญทั้งขัดใจ
ไอ้เจ้าบ้า! เหตุใดไม่เขินอายแต่กลับตอบรับด้วยวิธีเดียวกัน
"ข้าแอบเห็นแม่ทัพหน้าแดงด้วยล่ะ" จ้าวลี่อิงกระซิบ
"คนหื่นจะหน้าแดงได้อย่างไร"
"ว่ากันว่าคนหื่นมักชอบสตรีหน้าอกใหญ่ เขาอาจจะชอบเจ้า"
"เจ้าจองแม่ทัพ เจ้าก็เอาไปเองก็แล้วกัน"
"ได้อย่างไรเล่า ข้าก็จองเขาไปอย่างนั้นแหละ ข้ากับหลี่ไท่หลงนอนด้วยกันหลายครั้งแล้ว นับว่าข้ามีผัวที่แปลว่าสามี ถึงอย่างไรข้าก็ไม่แย่งแม่ทัพกับเจ้าหรอก" จู่ ๆ จ้าวลี่อิงก็ปฏิเสธว่าไม่เอาแม่ทัพแล้ว
"หา? เจ้ากับหลี่ไท่หลงนอนด้วยกันหลายครั้งแล้วอย่างนั้นรึ"
"อุบ!" จ้าวลี่อิงเอามืออุดปากตนเองแทบไม่ทัน
"เจ้ากับเขายังไม่ได้แต่งงานกัน เป็นเพียงคู่หมายเท่านั้น" มู่ถิงฟางตาโต สตรีร่านเช่นนางยังไม่เคยแอบไปเย่อกับฟ่งเจินแม้แต่ครั้งเดียว ถึงอยากจะเย่อฟ่งเจินเพียงใดก็ต้องสงวนท่าทีแห่งความคันไว้ภายใน
"ของอย่างนี้ต้องลองดูก่อน หากเข้ากันไม่ได้จะได้จบกันไป หากเข้ากันได้ก็เด้า เอ๊ย เข้ากันต่อ" จ้าวลี่อิงตอบแผ่วเบาเหมือนกระซิบ
"สตรีต้องรักษาพรหมจรรย์มิใช่รึ เพื่อเข้าหอกับคนรัก"
"ไหน ๆ ข้าจะแต่งกับคุณชายสกุลหลี่อยู่แล้ว ข้าเพียงลองเข้าหอก่อนแล้วจะเป็นอันใดกันเล่า"
"เป็นอย่างไรบ้าง"
"เสียวมากทีเดียว จนต้องแอบไปกินกันที่บ้านพักตากอากาศซ้ำ ๆ" จ้าวลี่อิงหัวเราะคิก
"ร่านรัก" เพื่อนสนิทถึงกับชมออกมา
"เจ้ายังไม่เคยลองชิมท่อนเอ็นฟ่งเจินหรอกรึ"
"ไม่เคย ข้าเก็บพรหมจรรย์ไว้ให้เจ้าบ่าวในวันเข้าหอ" มู่ถิงฟางหน้าแดงแปร๊ด
"หากฟ่งเจินเล็กเท่านิ้วมือ แถมยาวเพียงสี่ชุ่น เจ้าคงหงุดหงิดไปจนตาย"
"หมายความว่าอย่างไรจ้าวลี่อิง"
"ควรหาโอกาสตรวจสภาพแท่งเอ็นของฟ่งเจินก่อนแต่งงาน ว่าใหญ่ยาวถูกใจหรือไม่ ถ้าไม่ชอบใจจะได้ย้ายไปแท่งอื่น"
"นี่คือคำแนะนำที่ดีรึ?" มู่ถิงฟางเกาหัวแกรก ๆ ลืมเรื่องเครื่องร่อนของท่านปู่ไปชั่วคราวก่อน
"ถูกแล้ว ..จะซื้อผ้ายังต้องจับเนื้อผ้า จะมีสามีต้องตรวจสินค้าใต้ร่มผ้าก่อนสิจึงจะถูก"
"อืมมมม น่าคิด"
มู่ถิงฟางนึกถึงคู่หมายของตน ผนวกกับความสงสัยในขนาดของนักปราชญ์ฟ่ง จ้าวลี่อิงช่างจุดประกายความอยากรู้ของนางขึ้นแล้ว