ธีรเดชรีบไปที่ห้องพักของภูริตา แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอแต่พยาบาลที่กำลังเดินออกมา
" แล้วคนเจ็บที่อยู่ห้องนี้หล่ะครับ"
" อ๋อ กลับไปแล้วค่ะ"
" กลับไปแล้ว"
" ใช่ค่ะ เธอแค่หมดสติไปเพราะสำลักควันพอฟื้นขึ้นมาเลยขอกลับ พึ่งกลับเมื่อไปเมื่อครู่นี้เอง"
เขารีบวิ่งตามเธอไปหน้าโรงพยาบาล มองหาจนทั่วก็ไม่เห็น จึงรีบขับรถกลับบ้าน เมื่อเปิดประตูห้องเห็นเธอนั่งอยู่ปลายเตียง เขาก็รีบเข้าไปกอดเธอทันที
ภูริตาสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของเขาที่เต้นแรง เขาคงวิ่งขึ้นบันไดมา แล้วทำไมต้องวิ่งด้วยหล่ะ หรือว่าเขาจะเป็นห่วงเธอ ไม่ใช่หรอก เขาจะห่วงเธอทำไม เธอไม่ได้สำคัญกับเขาสักหน่อย
" คุณบาดเจ็บตรงไหนไหม ทำไมรีบออกจากโรงพยาบาล ทำไมไม่อยู่ดูอาการก่อน"
" ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากจะอยู่ไปทำไม "
" ผมขอโทษ"
" คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษ ไม่ใช่ความผิดคุณสักหน่อย"
" ผมขอโทษที่ไม่ได้ปกป้องคุณ"
" ฉันบอกแล้วไงว่าคุณไม่ผิด ถ้าจะผิดก็คงเป็นตัวฉันเองทำยังไงได้ สำหรับคุณฉันมันก็แค่คนไม่สำคัญ ถึงต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ ยังไงคุณก็เลือกที่จะช่วยเธออยู่ดี ต่อให้ฉันกำลังจะตายคนที่คุณเลือกช่วยก็คือเธอไม่ใช่ฉัน"
" ผม "
" เราหย่ากันเถอะ "
" ทำไมคุณชอบพูดเรื่องนี้นัก ผมรู้ว่าคุณโกรธผม ผมก็ขอโทษคุณแล้วไง ต่อไปผม"
" ไม่มีต่อไป ไม่มีอีกแล้ว พรุ่งนี้ไปหย่ากันเลย"
" อยากหย่ากับผมมากนักเหรอ หรือว่าคุณมีใคร อ๋อคงมีคนใหม่แล้วสินะ มันเป็นใคร"
" จะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ เรื่องหย่าช้าเร็วก็ต้องหย่าอยู่ดี คุณแต่งงานกับฉันเพราะปู่คุณขอร้อง เป็นคุณเองที่ยื่นข้อเสนอว่าครบ5ปีจะหย่า ไม่ต้องรอถึง5ปีหรอกหย่ากันตอนนี้เลย ยังไงคุณก็ไม่ได้รักฉันอยู่แล้ว ไม่ได้รักไม่เคยรักและไม่คิดจะรัก"
" ใครบอกคุณว่าผมไม่รักคุณ"
ภูริตานิ่งเงียบไปสักพักก่อนหัวเราะออกมา
" หรือคุณจะบอกว่าคุณรักฉัน "
" ผม "
เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน หลังผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาเขาถึงตระหนักได้ว่าเขากลัวเสียเธอไป เขาไม่รู้ว่าเขารักเธอรึเปล่า หรือว่าแค่รู้สึกผิด แต่ที่ผ่านมาเขารู้สึกดีที่มีเธออยู่ในชีวิตของเขา
" พรุ่งนี้ไปหย่ากันให้มันจบไป"
" ผมไม่ว่างไว้ค่อยพูดกันทีหลังคุณพักผ่อนเถอะ"
ธีรเดชรีบเดินออกไปจากห้องทันที
" เฮ้ยมึงเครียดอะไรมาวะ มาถึงก็ยกเอายกเอา กลัวไม่เมาเหรอวะ "
" ว่าแต่มึงกับดานี่ยังไงวะกลับมาคบกัน"
" ไม่"
" ไม่อะไร ไม่ปฏิเสธหรือไม่กลับไปคบ"
" เรื่องของกูกับดาเราจบกันไปตั้งนานแล้วตอนนี้กูแต่งงานแล้ว"
" แค่แต่งเฉยๆไม่ใช่รึ มึงเคยบอกพวกกูว่าไม่ได้รักพาย มีแต่จะนับวันหย่า"
" นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้กูไม่อยากหย่าแล้ว"
" ไม่อยากหย่าก็ไม่ต้องหย่าสิวะไม่เห็นจะยาก"
" เดี๋ยวนะ ที่มึงดื่มหนักขนาดนี้เพราะกลุ้มใจเรื่องหย่า"
ธีรเดชไม่ตอบ แต่ยกเเก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เพื่อนๆพากันมองหน้า ปกรณ์จึงพูดขึ้นมา
" กูถามมึงจริงๆ 4ปีที่แต่งงานงานมามึงรักพายบ้างไหม"
" กู กูไม่รู้"
" อะไรวะ น้องพายน่ารักขนาดนั้นมึงไม่หวั่นไหวบ้างเลยรึไง ขนาดกูยังชอบเลย ถ้ามึงไม่ได้รักเธอ ก็รีบหย่าซะกูจะได้จีบ"
เพี้ยะ ปกรณ์ตบหัวอัษฎาอย่างแรง
"มึงตบหัวกูทำไมวะไอ้กร เจ็บนะโว้ย"
" มึงพูดอะไรดูหน้าเพื่อนมึงด้วย"
อัษฎาหันไปมองธีรเดชที่นั่งฝั่งตรงข้าม แม้แสงไฟในผับจะสลัว แต่เขาก็มองเห็นสายตาของธีรเดชที่แข็งกร้าวแฝงความไม่พอใจอยู่ในดวงตาคู่นั้น เขาไม่สนใจพูดขึ้นมา
" ดูทำไม ไอ้ธีร์มันไม่ได้รักพายซะหน่อยผ่านมา4ปี ถ้าจะรักมันรักไปตั้งนานแล้ว ไหนๆมึงก็ไม่ได้รักเธอ ก็ควรรีบหย่าปล่อยให้เธอได้เจอคนดีๆที่รักเธอจริง "
ปึก ธีรเดชวางแก้วเหล้าเสียงดัง สายตาจ้องมองอัษฎาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ อัษฎารู้ว่าธีรเดชไม่พอใจก็พูดยั่วยุต่อ
" อย่าบอกว่ามึงรักเธอตอนที่กำลังจะหย่า"
ธีรเดชไม่พูดอะไรลุกออกไปจากห้องทันที เขาพิงรถจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ในใจเหมือนมีหินหนักๆมากดทับ มันจุกแน่นแทบหายใจไม่ออก นึกถึงคำพูดของอัษฎา เมื่อไม่รักก็ควรหย่าให้เธอได้ไปเจอคนที่ดีๆ นึกถึงคำพูดของภูริตา จะช้าหรือเร็วก็ต้องหย่ากันอยู่ดี นั่นสิจะช้าหรือเร็วก็ต้องหย่ากัน เขาเองที่เป็นคนเสนอกับคุณปู่ว่าจะแต่งงานกับเธอแค่5ปีเท่านั้น ครบกำหนดจะหย่าทันที แต่ตอนนี้เขาแค่รู้สึกว่ายังไม่อยากหย่า ผ่านมาแค่4ปีกว่าเองยังไม่ครบ5ปีสักหน่อย ใช่ เขาเป็นคนรักษาคำพูดยังไงก็ต้องให้ครบ5ปีก่อน
" ไอ้ธีร์"
ธีรเดชหันไปตามเสียงเรียก เห็นศรัทธาเดินตามมา
" มึงจะหย่ากับพายจริงๆเหรอ"
" พายขอกูหย่า แต่กูยังไม่อยากหย่าตอนนี้กูสัญญากับปู่ไว้ว่า5ปีก็ต้อง5ปี"
" ฮึ จะบอกว่ามึงเป็นคนรักษาคำพูดว่างั้น "
" ก็ใช่ไง ลูกผู้ชายพูดคำไหนต้องคำนั้นกูแค่ไม่อยากผิดคำพูด "
" ในเมื่อมึงไม่ได้รักเธอจะยื้อไว้ทำไม จะตอนนี้หรือรออีกปียังไงก็ต้องหย่าอยู่ดี แต่มึงอิดออดเพราะอะไร ตัวมึงเองรู้ดีที่สุด"
ธีรเดชนิ่งเงียบไปศรัทธาจึงถามขึ้นมาอีก
" มึงยังรักดาอยู่ไหม "
" ไม่ ตั้งแต่ที่ดาหักหลังกูไปเอากับไอ้เจต กูก็ตัดใจเด็ดขาดแล้ว กูไม่มีวันกลับไปคบกับเธออีก "
" แล้วที่มึงควงเธอไปไหนมาไหนคอยสนับสนุนเธอหล่ะ"
" กูเห็นแค่เธอเป็นเพื่อน ทุกอย่างที่กูทำก็เพื่อตอบแทนที่ครั้งนึงเธอเคยช่วยชีวิตกูไว้"
" แต่ทุกคนต่างก็คิดว่ามึงกับเธอจะกลับมาคบกัน โดยเฉพาะแฟนคลับของเธอ "
" คนไม่รู้ก็พูดกันไปเรื่อย ช่างสิ กูไม่ได้คิดอะไรกับดาแล้ว"
" แล้วมึงเคยบอกเรื่องนี้กับพายไหม เคยอธิบายให้เธอฟังรึเปล่า ยังไงเธอก็เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของมึง มึงไม่คิดว่าเธอเห็นข่าวของมึงกับดาแล้วเธอจะรู้สึกยังไง แค่ทุกวันนี้มึงไม่เคยยอมรับเธอ ให้เธออยู่แต่ในเงามืดมันก็แย่พอแล้ว ยังต้องมาทนเห็นมึงควงแฟนเก่าไปไหนมาไหนอีก ถ้ากูเป็นพายกูก็จะหย่า "
" กู "
" กูรู้ว่ามึงสับสน กูอยากให้มึงคิดทบทวนเรื่องของมึงกับพายให้ดี กูเตือนเพราะหวังดีไม่อยากให้มึงต้องมาเสียใจภายหลัง "
ระหว่างขับรถกลับ ธีรเดชคิดถึงคำพูดของศรัทธา เขาละเลยความรู้สึกของภูริตาไปมากจริงๆ เธอจะน้อยใจก็ไม่แปลก เขาไม่เคยพาเธอออกงานคู่กันเลย ไม่เคยพาไปเที่ยวหรือไปไหนมาไหนด้วยกันแบบเปิดเผยสองต่อสอง ไม่เคยบอกให้ใครรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ทั้งที่เธอเป็นภรรยามีทะเบียนสมรสแต่คนที่ได้ยืนอยู่ข้างเขาควงแขนเขาไปนู่นมานี่ไม่ใช่เธอ แต่เป็นดาวิกา นึกถึงความจริงตรงนี้เขาก็รู้สึกผิดกับเธอจริงๆ เขาจะปรับปรุงตัวใหม่จะใส่ใจเธอให้มากขึ้น พรุ่งนี้เขาจะเปิดตัวเธอประกาศให้คนทั้งบริษัทได้รู้ว่าเธอเป็นภรรยาของเขา
เเล้วคำพูดของเจตรินเมื่อหลายปีก่อนก็ลอยมาเข้าหู
" มึงรู้ไหมว่าทำไมดาถึงทิ้งมึงมาหากู เพราะลีลามึงมันไม่ได้เรื่อง เล็กกว่ากูไม่พอยังไม่ขยันเด้าอีก อันนี้กูไม่ได้พูดเองนะเธอเป็นคนบอกกูเอง พอเจอดุ้นใหญ่ยาวของกูกระแทกทีเดียวถึงได้ติดใจไม่ยอมกลับไปหามึง กูจะบอกเคล็ดลับให้มึง ถ้ามึงอยากให้ผู้หญิงติดใจต้องขยันกระแทกหน่อยวันนึงต้องจัดหลายๆน้ำ รับรองติดหนึบไม่ไปไหนหรอก "
ธีรเดชตาลุกวาวมือซ้ายลูบเป้ากางเกง กลับไปเขาจะกระแทกภูริตาเอาให้ขาถ่างเลยจัดหนักจัดจัดเต็มยันเช้าไปเลย คิดได้แบบนั้นก็เหยียบแทบมิดไมล์แป๊บเดียวรถก็มาจอดอยู่ที่บ้าน