วันนี้ก็เป็นอีกวันที่บุปผชาติหนีมาร์โคมาทำงานแต่เช้าตรู่ พอมาถึงบริษัทก็วานให้เลขาไปซื้อน้ำมะพร้าวและมะม่วงที่โรงอาหารมาให้ เพราะตอนเช้าๆ อย่างนี้ไม่อยากจะแตะอะไรเลย แต่จำเป็นต้องทานอาหารอ่อนๆ ที่ประนอมตั้งใจลุกมาทำใส่กล่องให้ตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน แต่ถ้าไม่มีน้ำมะพร้าวคงจะกินไม่ลง จึงวานเลขาให้ไปทำภารกิจนอกหน้าที่ เพื่อที่เธอจะได้ทานข้าวเช้าให้ตรงเวลาและทานยาบำรุงครรภ์ หลังจากทานข้าวและทานยาเสร็จ ว่าที่คุณแม่ก็มาทรุดกายลงนั่งตรวจงานด้วยท่าทางเนือยๆ อาการแพ้ท้องมันทำให้ไฟในการทำงานของเธอลดลงไปจนเกือบหมดสิ้น ความกระตือรือร้นในการทำงานหดหาย นั่งทำงานไปพลางคลึงขมับไป ไม่นานก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก๊อกๆๆ… “เชิญค่ะ” เพราะคิดว่าผู้ที่เคาะประตูอยู่ด้านนอกคือคนที่ตนกำลังรออยู่ สาวน้อยจึงเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ตามปกติที่เคยพูดกับลูกน้องคนเก่าคนแก่ของบิดาซึ

