บทที่1-2

992 คำ
“แล้วคุณล่ะ โสดไหม" “จิ๊” จิ๊ปากใส่ รู้สึกขัดใจเล็กๆ เป็นฝ่ายถามเขาก่อนแท้ๆแต่กลับมาย้อนถามเธอเสียอย่างนั้น ตากลมโตเผลอตวัดมองค้อนใส่อย่างลืมตัว เรียกรอยยิ้มจากคนตรงหน้าได้ไม่น้อย “ถ้าเมื่อเช้าคือไม่โสด...แต่ตอนนี้โสดแล้ว" “หึ...งั้นคุณก็มาฉลองอิสรภาพน่ะสิ” “อะไรทำนองนั้น" คนตัวเล็กทำทียักไหล่ เหมือนเป็นเรื่องสบายๆทั้งๆที่เมื่อครู่เพิ่งจะร้องไห้เป็นเผาเต่า แต่ตอนนี้กลับทำเหมือนเป็นเรื่องสบายๆ ผ่อนคลาย ไม่ได้คิดมาก หรือสนใจอะไร “ว่าแต่คุณชื่ออะไร ผมยังไม่ได้ถามเลย" “ฌาร์ริญณ์ค่ะ เรียกน้ำชาก็ได้" “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ น้องน้ำชา" ปลายน้ำเสียงอบอุ่น พลอยทำให้มือที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นจิบชะงักไปเล็กน้อย “ค่ะ พี่เขม" ฌาร์ริญณ์มองหน้าเขาแล้วได้แต่ยิ้มในใจ หรือว่า...พระแม่ประทานคนคนนั้นให้กับเธอแล้ว พระแม่ลัดคิวให้จริงๆไวยิ่งกว่าห้าจีเสียอีก ไม่รู้เพราะบรรยากาศโดยรอบที่ดูสบายๆ ผ่อนคลาย มีเสียงเพลงคลอเคล้า ชวนให้บทสนทนาของคนทั้งคู่ลื่นไหล ด้วยเรื่องราวทั่วๆไปที่หยิบมาพูดคุย แม้แต่เรื่องส่วนตัวเล็กน้อยๆที่ทำให้เธอได้รู้ว่า เขาเป็นนักธุรกิจ ที่ทำกิจการหลายอย่างเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ส่วนตัวเขาเองก็รับรู้ว่าเธอกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่คณะมนุษย์ศาสตร์เอกการท่องเที่ยวและโรงแรม จนเขาอดคิดไม่ได้ว่ามันช่างบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้น จนกระทั่ง เวลาดำเนินเรื่อยมาจนถึงครึ่งค่อนคืน “เรามาเดทกันไหมคะ" “ครับ?” ทวนถามด้วยความแปลกใจ นึกว่าหูฝาด ในขณะที่อีกฝ่ายก็คล้ายกับไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง เมื่อตัดสินใจพูดไปแล้วก็อดที่จะเขิน ประหม่าไม่ได้ ถึงแม้จะว่าใช้ประโยชน์จากแอลกอฮอล์ไปแล้วหลายแก้วก็ตาม ฌาร์ริญณ์เม้มกลีบปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะแสร้งหยิบแก้วน้ำสีสวยทรงสูงยกขึ้นดื่ม ดับความประหม่าในใจ ช้อนสายตาขึ้นมองสบตาและส่งยิ้มให้เขา เอ่ยเชิญชวน “ว่าไงคะ คืนนี้เรามาลองเดทกันดูไหม" ไหนๆก็โสดแล้ว ก็อยากจะมูฟออนแล้วมีใครสักคน แทนที่จะมานั่งซึมเศร้ากินข้าวเคล้าน้ำตา สู้เดินหน้าเริ่มต้นใหม่เลยดีกว่า อย่างน้อยๆคนตรงก็ถูกสเปก ทั้งรูปร่างหน้าตา ก็ดึงดูดโดนใจไปหมด ประโยคเชื้อเชิญที่คล้ายกับมีความนัยแฝงในความรู้สึกของเขา ใบหน้าหล่อมุ่นคิ้วเล็กน้อย “พูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า" หล่อนหัวเราะคิกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “อิอิ รู้ตัวสิคะ ถึงชาจะเมา แต่ก็คุยรู้เรื่องนะ...ว่าไงคะ พี่เขมจะเดทกับชาไหม" ไม่รู้เพราะน้ำเมาหรือเปล่าที่ทำให้นัยน์ตาของเธอดูหวานเยิ้ม เซ็กซี่ ดึงดูดสายตาเขา กว่าเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านี้ “ฮึ...เอาสิ ลองเดทกันดูก็ได้" ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อย ตอบรับด้วยท่าทีสบายๆ ก็ในเมื่อตัวเขาเองก็ไม่มีพันธะผูกพันกับใครเป็นจริงเป็นจัง ถึงแม้หัวใจของเขานั้นยังคงมีใครนั่งอยู่ และเธอคนนั้นก็คงจะไม่มีวันตอบรับความรักจากเขา ชายหนุ่มก้มหน้าลง ยิ้มให้ตลกร้ายที่ตัวเองได้เจอ หัวใจเขาเองก็เจ็บหนักไม่น้อย เพราะเมื่อหลายวันก่อน ตัวเขาเองได้จัดฉากเซอร์ไพรส์ ขอแต่งงานหญิงสาวที่เขาแอบรักมานานแต่ก็พลาดหวัง ล่มไม่เป็นท่าเพราะเธอเอ่ยปฏิเสธ ตัวเขาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร อย่างน้อยๆเขาก็ได้ลองตัดสินใจลงมือทำ เผื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่กลับมาเสียใจอีก และในเมื่อคำตอบนั้นมันก็ชัดเจนจนเขาเองก็เข้าใจทุกอย่างดีแล้ว ทุกคนก็ควรจะต้องเดินหน้าต่อ จะผิดอะไรหากเขาจะลองเปิดใจ มองหญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตรงหน้า ที่ดูแสนซนจนเขาอดยิ้มไม่ได้ เขมกรถอนหายใจยาวก่อนจะยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มด้วยท่าทีสบายอารมณ์ เอ่ยต่อด้วยสายตาที่วิบวับแพรวพราวกว่าเดิม “แต่พี่ไม่ชอบเดทแบบเด็กๆหรอกนะ" “หมายถึง...เดทแบบผู้ใหญ่เหรอคะ" เธอย้อนถาม พลางมองสบตาคนตรงหน้า เห็นแววตาวิบวับของอีกฝ่ายก็เริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมา ชักหวาดหวั่นคิดอยากเปลี่ยนใจอยู่เหมือนกัน ใบหน้าหล่อ ยกยิ้มมุมปาก “คอนโดพี่วิวสวยนะ อยากไปดูไหม" ประโยคที่ฟังดูเรียบง่าย แต่ทว่ากลับมีนัยยะแฝงอยู่ ที่ตัวเธอเองก็รู้ดีว่ากำลังเล่นอยู่กับไฟ หญิงสาวเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำชวนของอีกฝ่าย ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ความนัยในเนื้อความนั้น แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้จะให้ถอย ก็คงไม่ใช่ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หรืออะไร ทำให้เธอเอ่ยตอบตกลงเขาไปทันที ส่วนลึกก็แค่อยากรู้ อยากลอง แค่นั้น แถมคนตรงหน้าก็ถูกสเปก ตรงใจเธอไม่น้อย ถ้าอยากจะลองเรียนรู้รัก เขาก็ไม่ได้น่ารังเกียจอะไรหากเธอจะลอง “โสดแน่ใช่ไหมคะ" อยากถามให้แน่ใจ ไม่ใช่อยู่ดีๆ เธอก็ถูกใครมาแหกได้ในตอนหลัง จากเป็นผู้ประสบภัย จะกลายเป็นผู้ต้องหาไปเสียอีก “ฮึ แน่สิ พี่ไม่มีใครมานานหลายปีแล้วล่ะ" แต่คนของใจนั้นก็ว่าไปอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม