บทนำ แค่ของปลอม

1487 คำ
“มาฝึกงานเหรอคะ” ภูษิตาชวนนักศึกษาสาวคุยระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีใครกดลิฟต์ที่ชั้นไหนอีก “ค่ะคุณชมพู่” “รู้จักพี่เหรอจ๊ะ” “รู้จักค่ะ คุณชมพู่เป็นภรรยาท่านประธาน” “แล้วน้องชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” “หนูชื่อดาวค่ะ” “แล้วฝึกงานแผนกไหนล่ะ” “การตลาดค่ะ ฝึกเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายแล้วค่ะ” “อ๋อ งั้นก็เรียนจบเทอมนี้ใช่มั้ยจ๊ะ” “ใช่ค่ะ” “แล้ว...รู้จักพี่จิณณ์รึเปล่า” คำถามนั้นทำให้แววตาของอีกฝ่ายดูเปลี่ยนไป ก่อนที่เธอจะตอบกลับมา “รู้จักค่ะ คุณจิณณ์เป็นรองประธานบริษัท” “รู้จักแค่นั้นเหรอจ๊ะ” “เอ่อ...ทำไมคุณชมพู่ถามแบบนั้นล่ะคะ” “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ คือหน้าหนูคุ้นๆ น่ะ เหมือนพี่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วนี่จะไปชั้นล่างเหมือนกันเหรอ” “ค่ะ หนูจะลงไปซื้อกาแฟให้พี่หัวหน้าฝ่าย” “พอดีเลย พี่ก็จะไปหาขนมกินเหมือนกัน ตั้งใจจะซื้อไปฝากพี่จิณณ์ด้วย แต่พี่บอกพี่เจษฎ์ไว้ว่าจะขึ้นไปภายในยี่สิบนาที ยังไงฝากน้องเอาขึ้นไปให้พี่จิณณ์หน่อยละกันนะจ๊ะ บอกว่าพี่ฝากมา” “เอ่อ...คือว่าหนู...” “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ถ้าหัวหน้าฝ่ายการตลาดเค้าถามก็บอกว่าพี่ฝากให้ทำ เค้าไม่ว่าหรอก แต่หนูต้องส่งให้ถึงมือพี่จิณณ์เลยนะ พี่จะได้มั่นใจว่าไม่มีใครฉกของเค้าไปกินก่อน” “ค่ะคุณชมพู่” นักศึกษาสาวพยักหน้ารับด้วยความลำบากใจ เห็นอย่างนั้นภูษิตาก็มั่นใจว่าระหว่างสองคนนี้จะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างแน่นอน ส่วนคนที่จิณณ์บอกว่าเป็นแฟนนั้นก็ไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงหรือพามาแนะนำให้เธอรู้จักเลยสักครั้ง ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... จิณณ์ เงยหน้าจากกองเอกสารแล้วมองไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ “เข้ามา” “ขออนุญาตครับ มีนักศึกษาฝึกงานมาส่งขนมครับ” เลขาฯ ของจิณณ์เข้ามาแจ้งและนั่นก็ทำให้เขาประหลาดใจ “นักศึกษา? มาส่งขนมอะไร” “เธอบอกว่าคุณชมพู่ส่งเธอมาครับ” “งั้นก็ให้เข้ามา” “ครับ เชิญครับ” เลขาฯ ของเขาเปิดประตูห้องให้กว้างขึ้น และในตอนนั้นเองที่จิณณ์ได้เห็นหน้านักศึกษาคนที่ว่า ดารภา หรือ ดาว ก้าวเข้ามาพร้อมกับกาแฟแก้วใหญ่พร้อมกับขนมคุกกี้หลายถุง เธอเดินตรงมาที่เขาก่อนจะวางของทุกอย่างลงบนโต๊ะแล้วหมุนตัวกลับโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไปไหน เขาก็เรียกไว้เสียก่อน “เดี๋ยว” หญิงสาวหันกลับมามองสบตากับเขา “ท่านรองฯ มีอะไรรึเปล่าคะ” “แน่ใจเหรอว่าพี่สะใภ้ฉันส่งเธอมา” “ค่ะ คุณชมพู่ฝากของพวกนี้มาให้คุณค่ะ” “แล้วตอนนี้เค้าอยู่ไหน” “กลับขึ้นไปบนห้องของท่านประธานแล้วค่ะ” “งั้นเธอลองแกะคุกกี้นี่กินก่อน” “แต่ว่าคุณชมพู่...” “ฉันบอกให้กินก็กินไปเถอะ ฉันจะได้รู้ว่าคุกกี้นี่ปลอดภัย อ้อ กาแฟแก้วนี้ด้วย” “คุณคงไม่คิดว่าคุณชมพู่จะวางยาคุณหรอกนะคะ” “ฉันไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ฉันกลัวคนส่งของต่างหากที่จะคิดร้ายต่อกัน” “คุณก็รู้ว่าหนูไม่มีวัน...” “ไม่มีวันอะไร” จิณณ์จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง ดารภาจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอแค่แกะหลอดดูดแล้วเสียบลงในแก้ว ก่อนจะยกขึ้นมาดื่มต่อหน้าเขา จากนั้นก็แกะคุกกี้ถุงหนึ่งแล้วกินไปหนึ่งชิ้น “ไม่มีพิษค่ะ คุณสบายใจได้” “คุกกี้มีตั้งหลายถุง แต่เธอแกะแค่ถุงเดียว” “นี่คุณ...” ดารภามองเขาด้วยความน้อยใจ แต่สุดท้ายก็ยอมแกะคุกกี้ทุกถุงแล้วกินไปถุงละชิ้นจนครบ “พอใจหรือยังคะ” “ยัง” “แล้วคุณจะให้ดาว...เอ่อ...ให้ดิฉันทำอะไรอีกคะ” “นั่งเล่นแถวนี้ไปก่อน” “คะ?” “เผื่อว่ายาจะยังไม่ออกฤทธิ์ ครบสิบห้านาทีเมื่อไหร่เธอถึงจะออกไปได้” “แต่หนูมีกาแฟที่ต้องไปส่งให้พี่เจี๊ยบหัวหน้าฝ่ายการตลาดนะคะ” “เดี๋ยวฉันให้เลขาฯ ไปส่งเอง บอกให้นั่งก็นั่งสิ หรืออยากจะย้ายไปฝึกงานที่อื่นกันล่ะ” เขาเอนหลังกับพนักพิงแล้วกอดอกพลางมองเธออย่างท้าทาย แล้วคนที่เหลือเวลาอีกเดือนเดียวก็จะฝึกงานจบยังมีทางเลือกอะไรเหลือให้เดินอีก นอกจากต้องนั่งลงตามคำสั่งของเขา เพียงเท่านั้นจิณณ์ก็หันไปกดอินเตอร์คอมแล้วเรียกเลขาฯ ของเขาเข้ามา เพื่อไปส่งกาแฟให้หัวหน้าฝ่ายการตลาดแทนนักศึกษาสาวคนสวยที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงนี้ ตลอดเวลาสิบห้านาที เขาก็ไม่พูดอะไรสักอย่างเอาแต่ก้มหน้าทำงานอย่างเดียว ส่วนเธอก็นั่งนิ่งและพยายามทำตัวเหมือนเป็นเพียงอากาศธาตุ เมื่อเห็นว่าครบเวลาตามที่เขาบอก เธอจึงได้เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น “ดิฉันไปได้หรือยังคะ สิบห้านาทีแล้ว” คำถามนั้นดึงสายตาของเขาจากกองเอกสารตรงหน้าให้เงยมองสบตากับเธอ “อยู่กับฉันมันทำให้เธอทรมานใจมากหรือไง ดารภา” “ดิฉันมีงานต้องไปทำค่ะ” “เธอตอบไม่ตรงคำถาม” “ดิฉันแค่อธิบายค่ะ” “ฉันไม่ต้องการคำอธิบายอะไร แค่อยากได้ยินคำตอบ” “ค่ะ” “นี่คือคำตอบ? หมายถึงเธอทรมานใจ?” “ค่ะ” และคำยืนยันนั้นก็ทำให้เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วก้าวเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ เธอจึงได้รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปทางประตูแต่เขาก็คว้าข้อมือบางเอาไว้ได้ ก่อนจะกระชากร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขน “คุณจิณณ์ ปล่อยดิฉันนะคะ” เธอพยายามดันอกแกร่งให้ออกห่างแต่เขากลับยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้นไปอีก “อยากให้ปล่อยงั้นก็ทำตามที่ฉันต้องการสิ” “คุณจะให้ดิฉันทำอะไรอีก ขนมกับกาแฟดิฉันก็กินไปแล้วไงคะ” “เธอชื่อดาวไม่ใช่เหรอ” “ละ...แล้วทำไมคะ” “เรียกแทนตัวเองว่าดาวสิ ฉันเกลียดเวลาเธอเรียกแทนตัวว่าดิฉัน มันดูไม่มีมารยาท” “แต่ดิฉัน...” เห็นเขามองตาขวางเธอก็คิดว่าการต่อต้านเขาคงไม่ใช่เรื่องดีนัก “คุณจะให้ดาวทำอะไรอีกคะ” “จูบฉัน” “นี่คุณ!” “ทำไมล่ะดาว เมื่อก่อนเราสองคนทำกันมากกว่าจูบอีกนะ เธอลืมแล้วหรือไง” “คนที่ลืมคือคุณต่างหากค่ะ คุณลืมไปรึเปล่าว่าเคยพูดอะไรกับดาวเอาไว้” “ฉันไม่เคยลืม” “งั้นก็ปล่อยดาวไปสิคะ จะมายุ่งกับดาวอีกทำไม” “เพราะว่าฉัน...อยากเห็นเธอทรมานไงล่ะ” “คุณจิณณ์” ดารภาน้ำตาคลอ เธอคงหวังมากเกินไปที่คิดว่าเขาทำทุกอย่างเพราะความผูกพัน ทั้งที่เขาก็แค่เห็นเธอเป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น “จูบฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป” “ทำไมต้องทำกับดาวแบบนี้คะ เกลียดดาวมากหรือไง ดาวไปทำอะไรให้คุณนักหนา คุณถึงได้...” “ฉันบอกให้จูบไม่ได้บอกให้มาตั้งคำถาม อ้อ...ลืมไป คนอย่างเธอน่ะ ถ้าไม่เห็นเงินก่อนก็คงไม่ยอมให้แตะสินะ จะเอาเท่าไหร่ล่ะสำหรับจูบเดียว หนึ่งหมื่น หนึ่งแสน หรือว่าหนึ่งล้าน” ฉาด! ใบหน้าคมหันไปตามแรงมือนั้นทันทีเมื่อเธอฟาดมือบางลงบนซีกแก้มซ้ายของเขาและเมื่อเขาหันกลับมามองก็เห็นว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ “ดาวไม่รู้หรอกนะคะว่าเผลอไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือรังเกียจกันนักหนา แต่ในเมื่อคุณไล่ดาวออกไปจากชีวิตแล้วก็ขอให้เรื่องทั้งหมดมันสิ้นสุดลงไปซะทีเถอะค่ะ อย่าทำให้ดาวต้องรู้สึกเกลียดคุณ เหมือนที่คุณเกลียดดาวเลย” บอกแล้วเธอก็ผลักอกเขาออกอย่างสุดแรงก่อนจะก้าวออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว ทุกก้าวที่เดินออกห่างจากเขา เรื่องราวในวันนั้นก็ย้อนเข้ามาในความทรงจำราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ คงเป็นเพราะเธออยากจะย้ำเตือนตัวเองว่าอย่าไปหวังอะไรที่มันไม่มีทางเป็นจริง “จำวันแรกที่เราคุยกันได้มั้ย หน้าที่แฟนของเธอมันเป็นของปลอม เพราะฉะนั้น...อย่าอินเกิน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม