ก็ใหม่ทั้งคู่

1820 คำ
เช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวายเมญาวีตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ เพราะตื่นเต้นที่จะได้ไปทำงานวันแรก หญิงสาวเลือกสวมเสื้อเชิ้ตคอปกสีครีมแขนยาวขนาดพอดีตัว ด้านหน้าแต่งด้วยกระดุมสีเดียวกับตัวเสื้อ ปลายเชิ้ตสอดในกระโปรงเอวสูงแหวกทางด้านหน้าเล็กน้อยความยาวเลยเข่ามาเพียงนิด ดูแล้วเสริมบุคลิกให้ดูคล่องแคล่ว เครื่องประดับมีเพียงนาฬิกาสีเงิน ที่มารดาซื้อให้เป็นของขวัญในวันจบการศึกษา วันนี้เมญาวีแต่งหน้าอ่อนปัดแก้มเพียงนิด เปลือกทาทับด้วยสีพีชดูเป็นธรรมชาติ เรียวปากบางแต่งแต้มด้วยลิปสติกราคาแพงซึ่งรินรดาเป็นคนซื้อมาให้ ผมสีดำขลับถูกรวมเป็นทรงหางม้า ผูกด้วยโบผ้าสีขาวขนาดใหญ่ทำให้ดูเก๋ขึ้นไปอีกนิด มือเรียวเล็กหยิบรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีดำมาถือไว้ก่อนจะปิดประตูห้องและรีบเดินออกไปรอรถเมล์ที่หน้าปากซอย เพราะกลัวว่าการไปทำงานวันแรกจะสายเธอจึงออกจากห้องพักตั้งแต่ยังไม่หกโมงเช้า มาถึงหน้าบริษัทก็เพิ่งเจ็ดโมงพอดี หญิงสาวเดินไปสำรวจบริเวณใกล้ๆ ว่ามีร้านอาหารอะไรบ้าง เผื่อตอนกลางวันจะได้ลงมาทาน ระหว่างนั้นก็เดินผ่านร้านขายปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ เธอจึงนั่งลงยังโต๊ะที่ว่าง สั่งน้ำเต้าหู้หนึ่งแก้วและปาท่องโก๋อีกสามตัวเป็นอาหารมื้อเช้าของการทำงานวันแรก วันนี้มีพนักงานใหม่เข้ามาพร้อมกันเกือบสิบคน หัวหน้าฝ่ายบุคคลเลยเรียกให้ไปรวมตัวกันที่ห้องประชุมเล็กเพื่อชี้แจงรายละเอียดและกฎระเบียบในการทำงาน พอหัวหน้าฝ่ายบุคคลชี้แจงเสร็จ คุณอาธรก็เข้ามาแนะนำตัวและกล่าวต้อนรับแทนทานประธานซึ่งวันนี้ท่านติดธุระสำคัญจึงไม่ได้เขามาพบกับพนักงานใหม่เหมือนทุกครั้ง จากนั้นทุกคนก็ตรงไปยังแผนกของตัวเองซึ่งจะคอยมีพนักงานเก่ารอรับอยู่แล้วเว้นแต่เมญาวีและณิชาภาเพราะทั้งสองคนต้องไปยังชั้นของผู้บริหาร คุณวนิดาหัวหน้าฝ่ายบุคคลพาณิชาภาไปพบกับผู้จัดการก่อน จากนั้นจึงพาเมญาวีไปยังห้องทำงานของเวหา “คุณวนิดาคะ คุณเวหาดูไหมคะ” “ไม่หรอกค่ะ” วนิดาตอบพนักงานใหม่ไปแบบนั้นทั้ง ๆ ที่เธอเองก็เคยเจอเวหาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น บริเวณหน้าห้องของเจ้านายคนใหม่มีหญิงวัยกลางคนนั่งทำงานอยู่ “เกสร นี่เมญาวี ผู้ช่วยคุณเวหา” “สวัสดีค่ะ คุณเกสร” เมญาวียกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ เรียกพี่สรนะคะ แล้วน้องมีชื่อเล่นไหมคะ” “เมยค่ะ” “พี่นิเข้าได้เลยค่ะคุณเวหารออยู่แล้ว” เกสรบอกกับวนิดาเพราะเมื่อครู่เขาแจ้งไว้แล้วว่าวันนี้จะมีผู้ช่วยเข้ามาทำงานวันแรก วนิดาเคาะประตูสองครั้งแล้วเปิดเข้าไปทันที ภายในห้องทำงานของเจ้านายคนใหม่ตกแต่งอย่างเรียนง่าย มีโต๊ะทำงานอยู่สองตัว ตัวหนึ่งเป็นของเจ้านายอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะตอนนี้เขานั่งอยู่ตรงนั้น ส่วนอีกตัวเมญาวีไม่แน่ใจว่าจะใช่ของเธอหรือเปล่า “คุณเวหาคะ ฉันพาผู้ช่วยมาส่งค่ะ” “สวัสดีค่ะคุณเวหา ฉันชื่อเมญาวีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้น เธอสบตาคบปราบของเจ้านายหนุ่มแล้วรู้สึกเย็นยะเยือก ท่าทางของเขาดูเย็นชา เธอประหลาดใจเล็กน้อย เจ้านายของเธอไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลยสักนิด เมญาวีจินตนาการไว้ว่าคุณเวหาคงเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน แต่ที่เธอเห็นตอนนี้นั้นกลับกลายเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ ใบหน้าคม ผิวสองสี ช่วงไหล่กว้าง ดูเหมือนนายแบบมากกว่าจะมาเป็นเจ้านายของเธอ “พี่ไปก่อนนะ มีอะไรก็ถามเกสรได้” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เวหาลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาสำรวจผู้ช่วยคนใหม่ หญิงสาวคนนี้ดูยังเด็กอยู่มาก ถ้าไม่เห็นแฟ้มประวัติก็คงคิดว่าเธอยังเป็นนักศึกษาอยู่แน่ ๆ ใบหน้าสวยเนียนประดับด้วยตวงตากลมโต จมูกเล็กรั้นเชิดขึ้นเล็กน้อยรับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน โดยรวมแล้วเธอเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียว พอเดินเข้ามาใกล้แล้วรู้สึกเลยว่าผู้ช่วยของเขาเป็นคนตัวเล็ก แต่เวหาก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเธอตัวเล็กหรือเพราะเขาตัวโตกันแน่ “คุณนั่งโต๊ะตัวนั้นนะ อึดอัดไหมที่ต้องนั่งร่วมห้องกับผม” “ไม่ค่ะ คุณเวหาคะ ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ” “วันนี้ศึกษาข้อมูลในแฟ้มก่อน ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถาม” “ค่ะ” เมญาวีนั่งอ่านไปก็ง่วงไปเพราะเมื่อคืนเธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับและยังตื่นตั้งแต่เช้า “ถ้าไม่ไหวจะไปล้างหน้าก่อนก็ได้นะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ไหวค่ะ” เมญาวีตั้งสติอีกครั้ง เธออ่านข้อมูลได้เกือบครึ่งก็ถึงเวลาพักกลางวัน “คุณเวหาคะ ฉันเพิ่งมาทำงานเป็นวันแรก เลยไม่รู้ว่าเรื่องอาหารกลางวันฉันต้องเตรียมให้คุณหรือเปล่า แต่ก่อนคุณไปทานที่ไหนคะ” “คุณเห็นร้านข้างตึกไหม สั่งขึ้นมาให้ผมทานในห้องนี้แหละ” เขาชี้ไปยังมุมหนึ่งของห้องที่มีชุดโซฟารับแขกอยู่ “ร้านไหนคะ มันมีหลายร้าน” “ร้านไหนก็ได้ผมไม่ใช่คนเรื่องมาก” “ทานเผ็ดได้ไหมคะ แพ้อาหารหรือเปล่าแล้วชอบทานอะไรเป็นพิเศษคะ” “ถามเยอะจัง ลงไปด้วยกันเลยไหม” “อะไรนะคะ” “ผมบอกว่าลงไปทานด้วยกันเลยไหม คุณจะได้รู้ว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไร” “ได้เหรอคะ” “ไม่รู้สิ ผมไม่เคยมีผู้ช่วย คุณคิดว่ายังไงล่ะ” “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ฉันก็ไม่เคยเป็นผู้ช่วยใครมาก่อนเหมือนกัน” “งั้นก็ใหม่กันทั้งคู่ ไปทานด้วยกันเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” “ค่ะ” ทั้งสองคนเดินมายังร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับบริษัท แม้จะเป็นช่วงกลางวันแค่คนก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด เพราะพนักงานของบริษัทส่วนใหญ่ก็ไปทานกันที่ร้านค้าสวัสดิการเพราะที่นั่นมีอาหารขายในราคาพนักงาน “คุณเวหามาทานที่นี่ประจำเหรอคะ” “ไม่หรอกครับพี่เกสรจะสั่งขึ้นไปให้ หรือบางครั้งผมก็ลงมาหาอะไรทานเอง เจอร้านไหนว่างก็เข้าไปนั่ง ผมเองก็มาทำงานก่อนคุณไม่ถึงเดือน เลยลองไปเรื่อย ผมเป็นคนกินง่าย” “ค่ะ” เมญาวีให้เขาเป็นคนสั่งอาหารเพราะอยากรู้รสนิยมของเจ้านาย ระหว่างนั้นเธอก็ถ่ายรูปเมนูอาหารและเบอร์โทรศัพท์ของทางร้านเก็บไว้ ครั้งต่อไปจะได้โทรมาสั่งก่อนจะเข้ามาที่ร้าน “คุณเมญาวีมีชื่อเล่นไหมครับ” “เมยค่ะ ฉันชื่อเมย” “อ้อ ผมเรียกเมยแล้วกันนะสั้นดี” “ค่ะ คุณเวหา” “เรียกเวย์ก็ได้” “ค่ะคุณเวย์” นับว่าเป็นการเริ่มต้นร่วมงานกันได้ค่อนข้างดี แม้ว่าเจ้านายจะมีสีหน้าและแววตาที่เย็นชาแต่เขาก็ไม่ได้เอาแต่เงียบทำให้เมญาวีไม่ได้อึดอัดมาก การทำงานวันแรกผ่านไปได้ด้วยดี เมญาวีเลิกงานตรงเวลาเพราะเจ้านายบอกกับเธอว่าเขาต้องกลับไปทานอาหารมื้อค่ำกับมารดา หญิงสาวกลับถึงห้องก็รีบโทรไปหารินรดาทันที “ว่าไงจ้ะเมย ทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้างเจ้านายใจดีไหม” “ยังไม่รู้เลยว่าจะใจดีไหม เพราะวันนี้เพิ่งเริ่มงานเอง” “อือ แล้วงานหนักไหม” “ไม่เลย รินรู้ไหมว่าเมยได้เลิกงานตรงเวลาด้วยนะ” “ดีจัง รินนึกว่าตำแหน่งผู้ช่วยจะเหมือนเลขาเสียอีกที่ต้องเลิกงานไม่เป็นเวลาแล้วแต่อารมณ์เจ้านาย” “เมยโชคดี เพราะเจ้านายต้องรีบกลับไปทานข้าวกับแม่” “แม่หรือแม่คุณกันแน่จ๊ะ” “นั่นสิ เมยก็ลืมคิดไปเลย” “ดีแล้วที่เจ้านายของเมยมีแฟนเพราะรินยังอยากเมยมาเป็นพี่สะใภ้อยู่นะ” “พูดอย่างนี้ถามพี่ชายตัวเองหรือยังว่าอยากให้เมยเป็นแฟนไหม” “ไม่ต้องถามหรอกน่ารินรู้ว่าพี่ชายของรินแอบชอบเมยอยู่แต่ไม่กล้าพูดก็เท่านั้นเอง” “อย่าเชียร์ให้เสียเวลาเลย คนหล่ออย่างพี่ชายรินคงไม่โสดอยู่หรอก” “พี่ชายรินก็ควงหญิงไปทั่วนั่นแหละ ไม่เห็นจริงจังกับใครสักที เมย รินเกือบลืมถามเลยว่าเจ้านายเมยหล่อไหมอายุมากหรือยัง” เมญาวีนิ่งไปสักพัก เธอกำลังคิดถึงใบหน้าหล่อคมของเจ้านายที่ตลอดทั้งวันมานี้หญิงสาวได้แต่แอบมองอยู่ตลอด “เมยไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ แต่คงไม่เกิน 30 หรอก คุณเวหาเจ้านายของเมยหล่อมาก หล่อแบบวัวตายควายล้มเลยแหละ” “จริงเหรอ แต่น่าเสียดายนะมีแฟนแล้ว” “นั่นสิ แต่ก็ดีแล้ว เมยจะได้ไม่ไขว้เขวไง” “เมยคิดเหรอว่าพี่ชายใจที่เล่าให้รินฟังเขาจะยังโสดและรอแต่งงานกับเมยเหมือนที่เมยรอเขา” “ไม่รู้สิตอนนี้เมยเข้าใกล้เขาอีกขั้นแล้ว ถ้าเมยทำงานที่นี่โอกาสที่ได้จะได้ข่าวคราวของเขาก็คงจะมีบ้าง” “เมยลืมอะไรไปหรือเปล่า” “ลืมอะไร” “เมยรู้จักชื่อเขา แล้วเมยจะรู้ได้ยังไงว่าเมยเจอเขาแล้ว” “ไม่รู้สิ ถ้าเจอใครที่คิดว่าใช่เมยก็จะลองถามเขาไปตรง ๆ เลยดีไหม” “จะบ้าเหรอเมย จะไปถามเข้ายังไง พี่คะ พี่จำสัญญาของเราได้ไหมคะว่าเราจะแต่งงานกัน” “ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง” “แล้วยังไง แล้วถ้าเกิดเจอกับพี่ชายคนนั้นแล้วเขาเป็นคนไม่ดีขึ้นมาล่ะ เมยจะเสียใจเอานะ” “เมยก็เคยคิดเรื่องนั้นเหมือนกัน” “อย่าเพิ่งคิดมากเลย เอาไว้เจอแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันดีไหม” “อือ เมยก็ว่าอย่างนั้นแหละ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม