บทที่2 ของขวัญวันเรียนจบ

1625 คำ
“หากเกลียดขวัญมากก็หย่ากันเลยสิค่ะ” “ฉันหย่าแน่ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้” พระเพลิงก้มหน้ากระซิบบอกภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ชายหนุ่มลงทุนลงแรงไปเสียซะเปล่า เขาต้องแก้แค้นคนทำให้พี่ชายเขาเกิดอกหัก เท่าที่รู้ว่าขวัญข้าวบอกพี่ลมก่อนวันแต่งงานก็เพราะเธอคิดแค่พี่ชายแสนดี เขาต้องมองเธอใหม่ กวาดสายตามองน้องขวัญวัยเด็กที่สองพี่น้องตระกูลอัครวารินทร์รักและเอ็นดู โดยเฉพาะชอบปั่นหัวเขากับพี่ชายแอบรักเด็กหญิงในบ้าน แต่นั่นแหละเป็นความรักวัยเด็ก และเขาก็ประจักษ์ว่าเธอคืออสรพิษดีๆ นี่เอง “สวมแหวนให้น้องขวัญรึยังจ๊ะ” ก่อนบรรยากาศงานแต่งจะเปลี่ยนแปลงเป็นสถานการณ์ตึงเครียดของคู่บ่าวสาว คุณหญิงแพทเห็นว่านิ้วนางข้างซ้ายไร้แหวนเพชรน้ำหนึ่งสีขาว ซึ่งก็คือแหวนเพชรที่แม่เคยได้รับจากพ่อ แล้วก็ส่งต่อให้พวกลูกเอาไว้ใช้กับผู้หญิงที่รักและจะแต่งงาน “แต่ว่า…” เจ้าบ่าวเอ่ยปากกำลังจะขัดแย้ง แหวนแต่งงานของพ่อที่เคยให้ต่อแม่เขา ผู้หญิงเพศยาคนนี้ไม่สมควรรับแหวนนั้น คนเป็นพ่อทำหน้าเข้มดุใส่ แม้จะไม่เอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา ก็พอรู้ว่าพระเพลิงไม่ควรขัดใจความประสงค์ต้องการแต่แรกของพวกพ่อแม่ “ครับ ยื่นมือมาสิ” สั่งเจ้าสาวใบ้ ถามคำพูดคำ เจ้าสาวขวัญข้าวนั่งนิ่งก้มหน้าอยู่สักพักใหญ่หลังจากเจ้าบ่าวทำสีหน้าชักรำคาญตลอดเวลา แล้วยื่นมือเรียวสวยจ่อตรงหน้าชายหนุ่ม รับสัมผัสความเย็นจากแหวนเพชรน้ำหนึ่งราคาแปดหลักสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายเท่ากับว่าเธอคือลูกสะใภ้เดียวของตระกูลอัครวารินทร์ พวกผู้หญิงเห็นต่างอิจฉาตาร้อนต่อวาสนาของขวัญข้าว... ได้ผัวรวยและผัวหล่อ แถมยังเป็นสะใภ้คนโปรดของแม่สามี ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะโชคดีเท่าเธอ หากดูในสายตาของคนภายนอกเท่านั้น “ไหว้พี่ไฟสิหนูขวัญ” “ค่ะคุณป้า” คำตอบนั้นทำเอาอีกฝ่ายชักสีหน้าตึง “เรียกใหม่ เรียกคุณแม่เหมือนเดิม” “ค่ะคุณแม่” เจ้าบ่าวหน้าหล่อทว่าสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอาการว่าดีใจหรือตื่นเต้น เสมองทางอื่นราวกับไม่สนใจการกระทำของเจ้าสาวพนมมือกราบไหว้ลงบนตักแกร่งตามขนบธรรมประเพณีการแต่งงานในไทย “ขอให้พวกลูกอยู่ครองรักกันอย่างมีความสุข หนักนิด เบาหน่อย ถึงจะมีบางส่วนที่ทะเลาะ ไม่ตรงกันใจบ้างก็ช่วยถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน แม่ขอให้ลูกทั้งสองรักและเข้าใจก็พอ” แม่สามีพูดจบก็หันมาทางคนเป็นสามีกล่าวคำอวยพรต่อ “ส่วนพ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก หนูขวัญ ตอนนี้หนูไม่ใช่หลานสาวแม่นมหรือเด็กอุปการะของพ่อกับแม่ แต่หนูคือลูกสาวอีกคนหนึ่ง ต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวอัครวารินทร์ ส่วนลูก ไฟ ดูแลเมียตัวเองให้ดี หากวันไหนที่ทำให้น้องมีน้ำตา ลูกจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต” พระเพลิงทำหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออกกับคำอวยพรเชิงคำตักเตือนจากคนพ่อโหด ดุ เถื่อนและห่ามมากที่สุด เขาพยักหน้ารับคำส่งไป แต่ไม่คิดทำตามคำพูดของพ่อ ระหว่างงานเลี้ยงตอนเย็นช่วงค่ำ มีจังหวะหนึ่งที่เจ้าสาวขวัญข้าวอาศัยช่วงคนเยอะปลีกขอตัวเดินเข้าห้องน้ำ หญิงสาวเห็นสามีหนุ่ม(ด้านนิตินัยหมาดๆ) แอบยืนพลอดรักกันกับผู้หญิงอื่น ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเขมิกาหรือเค้ก อดีตคู่ควงของผู้ชายเพลย์บอยเจ้าชู้ “ผู้ชายมักมาก เห็นแก่ตัว!” คนบ่นอุบอิบ พลางสับเท้าก้าวหนีเข้าห้องน้ำก็เพราะไม่อยากทนเห็นภาพบาดตาบาดใจ ขวัญข้าวหรือน้องขวัญ อายุยี่สิบสองปี ซึ่งเธอเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี คว้าใบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคณะบัญชีการบริหารตามคำสั่งพวกผู้มีพระคุณ และคำชักชวนของพี่ชายแสนดีอย่างเพชรพายุที่แนะนำ แต่ของขวัญเรียนจบที่เธอได้รับตอบแทนจากพวกเขาคืออะไร รู้ไหม ก็คือจับคู่หมั้นแต่งงานกับลูกชายคนโต ทั้งที่เธอและเขามองกันแค่พี่น้อง เพราะสายตาเพชรพายุดูออกว่าน้องขวัญแอบชอบพระเพลิง น้องชายเขา แต่เธอไม่กล้าบอกความในใจก็หวาดกลัวสายตาที่มองเปลี่ยนไปหรือกลัวสร้างความห่างเหินความเอ็นดูรักเพียงพี่น้องในบ้าน ก็เลยเก็บซ่อนงำความรู้สึกแอบชอบเขาฝ่ายเดียวไว้ส่วนลึกข้างในหัวใจ เพราะคิดว่าพระเพลิงคงชอบผู้หญิงสวย หน้าตาดี เพียบพร้อมกว่าหลานสาวแม่นม และที่เธอรู้คำตอบก็เขาแสดงออกชัดว่าเกลียดชิงชัง เพราะสาเหตุโยนความผิดให้เธอทำเอาพี่ชายต้องตาย ทั้งที่เธอถูกพี่ลมบอกคืนก่อนแต่งงานว่าไม่ได้คิดกับเธอแค่ชู้สาว บอกพระเพลิงแล้ว แต่เขามีอคติ ไม่ฟังคำของคนขี้โกหก เหนื่อยขี้เกียจคร้านจะพูด! “ทำไมขวัญต้องแต่งงานกับคุณด้วย คุณไฟ” มองหน้าตัวเองอยู่ตรงหน้ากระจกห้องน้ำ ดวงหน้าหวานแต่งตัวเนรมิตเป็นนางฟ้าจนเจ้าตัวแอบคาดคิดไม่ถึง “พี่ลม! ขวัญต้องทำยังไง” จัดแจงตัวเองให้เสร็จสรรพ ฝืนยิ้มรับงานแต่งงานที่เป็นวันมีความสุข เธอเองก็ไม่อยากแต่งกับคนที่เขาไม่ได้รัก ทว่าคุณหญิงแพทขอร้องไว้ เพียงออกมาจากห้องน้ำ แวบแรกสายตามองเห็นสามียืนคุยกระหนุงกระหนิงกับผู้หญิงอื่น หัวใจเจ็บแปลบ รู้ดีว่าผู้หญิงคนที่ได้รับการกระทำแสนอ่อนโยนจากคุณไฟนั้นต้องไม่ใช่เธอ! “หนูขวัญ” “แม่นม” ขวัญข้าวร้องโฮสวมกอดคนเลี้ยงดูเธอแต่เด็ก แม่นมอ่อนเห็นใจหลานสาวต้องแต่งงานกับคนที่แอบรักเขาฝ่ายเดียว “งานแต่งตัวเองทั้งที หนูขวัญร้องไห้ทำไม” “ขวัญแค่ดีใจมากเกินค่ะ” “แน่ใจเหรอ” หรี่ตามองจับจ้องผิดของร่างเจ้าสาวทำสีหน้าอมทุกข์ “ค่ะ” ของขวัญเรียนจบที่คุณหญิงแพทบอกว่าจะมอบให้ก็คือแต่งงาน เป็นเมียของลูกชายท่าน แม่นมอ่อนประคองร่างเจ้าสาวมีขอบตาช้ำผ่านจากการร้องไห้หนักหน่วงมาทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาภายในห้องรับรองแขก เธอเองก็สงสารหลานสาว แต่เพราะเป็นความต้องการของคุณท่านจึงทำอะไรไม่ได้ “แม่นมมาหาขวัญมีอะไรเหรอคะ” “แม่จะมาอวยพรหนูขวัญนะ เรื่องการใช้ชีวิตคู่ มีความสุขกับคู่ครองตัวเอง แต่พอมาเห็นแบบนี้ แม่ไม่รู้จะอวยพรยังไงดี” ความอบอุ่นจากฝ่ามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะของหลานสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวแสนแผ่วเบา “ขวัญมีความสุขดีค่ะ แม่นมไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “หากหนูขวัญพูดแบบนั้น แม่ก็สบายใจ” “หนูขวัญ แม่นม มาหลบอยู่ตรงนี้นี่เอง” แม่สามีเดินกวาดสายตาสอดส่องมองหาลูกสะใภ้คนโปรด หลังจากไม่เห็นลูกชายตัวดีน่าตีอยู่งานเลี้ยงด้วยซ้ำ “ถึงเวลาเข้าห้องหอแล้วจ้ะ แม่นม ฉันขอตัวพาหนูขวัญไปหาเจ้าบ่าวก่อนนะจ้ะ” คุณหญิงแพทพูดต่อ ขณะขออนุญาตจากคนเลี้ยงดูแลลูกชายสองคนตั้งแต่เกิดมา แล้วพาเจ้าสาวแสนสวยแต่ติดทำหน้าเศร้าไปหน่อย “แม่นมคะ” ขวัญข้าวยังไม่อยากเผชิญหน้ายอมรับความจริงเห็นภาพบาดตาบาดใจ เห็นสามีอยู่กับอดีตคู่ควงที่เคยคิดแต่งงานกัน มองขอความช่วยเหลือ “หนูขวัญ หนูโตพอที่จะมีสามีแล้วนะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน ชีวิตคู่ต้องประคับประคองถึงจะอยู่รอด อย่าใช้อารมณ์ร้อนตัดสินใจง่ายๆ แล้วกัน” “แม่นม ขวัญรักแม่นมมากนะคะ” คุณหญิงแพทปล่อยให้แม่นมสวมกอดกับหลานสาว นึกเห็นใจขวัญข้าวต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ถึงอย่างไร เธอก็ยังไปมาหาสู่แม่นมอ่อนได้ สามีหนุ่มไม่กีดกัน จนกระทั่งถึงเวลาเข้าห้องหอ ขวัญข้าวปรายตามองหน้าผู้เป็น สามีนิตินัย ข้างกายไร้เขมิกา อดีตคู่ควงมาร่วมงานแต่ง ซึ่งมีพ่อแม่ทางฝ่ายชายและแม่นมอ่อน ผู้ปกครองฝ่ายหญิงร่วมกันให้คำอวยพรแก่คู่บ่าวสาว “กว่าจะเสร็จ โคตรอึดอัดชะมัด” ขวัญข้าวนั่งพนักผิงหัวเตียงคนเดียวเงียบๆ ขณะมองเจ้าบ่าวถอนหายใจทิ้งอย่างเอือมระอา หลังจากฝ่ายพ่อแม่ต่างออกจากห้อง โดยพระเพลิงไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายนั่งนิ่งเงียบเป็นใบ้มาตั้งแต่เมื่อกี้นี้ “คุณไฟ คุณมาถอดเสื้อผ้าอะไรที่นี่คะ” “อ้าว พูดได้แล้วเหรอ ขอโทษที พอดีฉันเคยอยู่คนเดียวจนชิน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร” เขาทำตัวสบาย เหมือนเธอคือธาตุอากาศที่มองข้าม “แต่ขวัญอยู่ที่นี่ พี่ไฟควรให้เกียรติขวัญบ้างนะคะ” อีกฝ่ายยักไหล่ทำเป็นเฉยชาต่อคำพูดของภรรยา “ใครใช้เธอเรียกฉันว่าพี่ไฟอย่างสนิทสนม” “คุณหญิงแม่ค่ะ อีกอย่างขวัญเรียกพี่ไฟจนชินปาก จะให้เรียกว่าคุณไฟมันก็ไม่ค่อยชิน” “นี่เธอกล้ายอกย้อนฉันเหรอ!” เขาคงต้องมองภรรยาตัวเองใหม่ เห็นหน้าตาเงียบๆ ติ๋มๆ แต่ซ่อนพิษร้ายแรงตอบโต้กลับได้เจ็บแสบทุกเมื่อ และเพียงคืนเข้าห้องหอแต่งงาน เจ้าสาวก็เอ่ยปากถาม “เราจะเริ่มหย่ากัน เมื่อไหร่ดีคะ” “ขวัญข้าว นี่เธอพูดอะไรออกมา!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม