แต่แผนการไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อซีเยว่พาสาวใช้มาตามคำขอของอู๋ซื่อที่เรือนพักของกู้หยาง แม่นมจินที่มาดักรอเพื่อพาสาวใช้ไปส่ง กลับปล่อยให้นางยืนรออยู่ที่ข้างเรือน เพื่อจะพาสาวใช้ไปทำธุระก่อน
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!!!” เสียงคำรามราวกับฟ้าร้องดังขึ้นด้านหลังของนาง
เมื่อนายท่านเว่ยเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย ด้านหลังของนายท่านเว่ยมีอู๋ซื่อที่มองมาทางนางอย่างเรียบเฉย และหลิวชิงที่ก้มหน้านิ่งอยู่กับพื้นไม่กล้าจะมองมาทางนาง
ยังมีแม่นมและสาวใช้ที่นางหลอกล่อมาอยู่ในกลุ่มคนด้วย ซีเยว่มองที่พวกเขาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะมีเสียงหยานคางเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลังของนางอีกเสียง
“เสียงดังอันใดกันขอรับ” กู้หยางที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยเดินออกมาจากเรือนพักของเขา ซีเยว่มองไปด้วยความตกตะลึง เพราะตอนนี้ตัวเขาอยู่ใกล้นางไม่น้อย
“หึ งามหน้านัก คุณชายกู้ หากท่านพึงใจในบุตรสาวอกตัญญูของข้า เหตุใดในตอนแรกถึงได้ต้องการจะแต่งกับชิงชิงด้วยเล่า”
จบคำต่อว่าของนายท่านเว่ย กู้หยางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เมื่อครู่มีสาวใช้มาแจ้งให้เขารีบเตรียมตัว เพื่อออกไปพบฮูหยินเว่ย แต่เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
เมื่อเขามองมาที่ซีเยว่ที่ใบหน้าซีดขาว และมองสาวใช้ที่มาแจ้งข่าวก้มหน้าหลบสายตาก็พอจะมองออกว่าเรื่องราวเป็นเช่นใดกันแน่
“หึหึ จวนตระกูลเว่ยครึกครื้นไม่น้อย ข้าได้เปิดหูเปิดตาเสียแล้ว” เขายกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน
ด้วยรู้แล้วว่าการเดินทางมาที่เมืองหลวงเพื่อทวงสัญญาตามคำสั่งเสียสุดท้ายของผู้เป็นปู่ครั้งนี้จะเกิดเรื่องราวไม่น้อย แต่ไม่คิดว่าคนตระกูลเว่ยที่ตกปากรับคำอย่างดีในยามแรกจะกล้าสร้างเรื่องเช่นนี้
“คุณชายกู้ พูดเช่นนี้ก็เห็นจะไม่ถูก เป็นท่านที่ลอบพบกับอาเยว่ที่เรือนพัก หากต้องการแต่งนางเหตุใดถึงไม่เอ่ยออกมาเสียตั้งแต่แรก” อู๋ซื่อรีบเอ่ยออกมาก่อนที่กู้หยางและเว่ยซีเยว่จะได้แก้ตัว
กู้หยาง จ้องมองอู๋ซื่อด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว จนนางต้องก้มหน้าหลบสายตาเด็กรุ่นลูกด้วยความหวาดกลัว ไม่คิดว่ากู้หยางจะมีพลังอำนาจทางสายตามากถึงเพียงนี้
“เจ้าลูกชั่ว สร้างเรื่องไม่เว้นวัน จับตัวนางไปขังไว้เสีย ส่วนเจ้าข้าจะไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว!!!” เขาชี้นิ้วที่สั่นเทาไปที่ใบหน้าของกู้หยาง
แม่นมจินรีบผ้าสาวใช้เข้ามาจับตัวซีเยว่ ก่อนที่นางจะได้เอ่ยร้องแก้ตัว ปากของนางถูกยัดผ้าไว้จนไม่อาจส่งเสียงลอดออกมาได้
นางมองไปที่อู๋ซื่อและหลิวชิงอย่างโกรธแค้น ในตอนนี้นางรู้แล้วว่าสตรีที่ต้องการให้ตกหลุมพรางเป็นตัวนางเอง ไม่ใช่สาวใช้อย่างที่เอ่ยบอกนางไว้ในตอนแรก
“อื้อ...อื้อ” นางพยายามส่งเสียงร้อง เพื่อให้บิดาสนใจ แต่เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองมาทางนางสักนิด
กู้หยางมองตามซีเยว่ที่ถูกลากตัวออกไป ตัวเขาเดินทางมาอยู่ที่ตระกูลเว่ยได้หลายวันแล้ว เมื่อบิดามารดาเดินทางมาถึงก็จะจัดงานหมั้นทันที เพียงแต่ว่า...เขาไม่เคยเจอซีเยว่เลยสักครั้ง
ตัวเขาถูกอู๋ซื่อรั้งให้พักอยู่ที่จวนตระกูลเว่ยในวันนี้เสียก่อน ด้วยเห็นว่าเพิ่งจะเดินทางมาถึงยังมิทันได้หาที่พักจึงยอมรับปากอย่างว่าง่าย
ไม่คิดว่าเขาจะตกหลุมพรางของคนตระกูลเว่ย ทันทีที่เดินทางมาถึงเมืองหลวง
เว่ยซีเยว่ นางเป็นบุตรอนุของท่านใต้ท้าวเว่ย มารดาของนางเสียไปตั้งแต่คลอดนางออกมา นางถูกเลี้ยงดูมาจากแม่นมจิน ที่เป็นคนของอู๋ซื่อ
นางได้รับการสั่งสอนมาอย่างผิดๆ จนนิสัยของนางร้ายกาจจนไม่มีคุณหนูนางใดในเมืองหลวงจะเทียบได้ บางเรื่องที่นางไม่ได้ทำ บิดาก็ยังเหมารวมไปว่าตัวนางเป็นคนก่อ ด้วยนิสัยของนางที่ขี้อิจฉา โวยวาย และชอบแย่งชิง
ต่างจากหลิวชิง ที่เรียบร้อยอ่อนหวาน ท่าทางของนางไม่ว่าจะทำอันใดก็ดูน่าทะนุถนอมยิ่งนัก
ไม่รู้ว่านานเพียงใดที่ซีเยว่นางถูกคุมขังไว้ให้อยู่เพียงในห้องเก็บฟืน เสียงฟ้าด้านนอกก็ยังคงร้องไม่หยุด สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้เสื้อผ้าที่นางสวมใส่เปียกชื้นไม่น้อย
ฟ้าด้านนอกมืดสนิทแล้ว แม้แต่อาหารหรือน้ำดื่มก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะเอามาให้นาง เสียงฝีเท้าเบาบางด้านนอกทำให้ซีเยว่ชันตัวขึ้นอย่างมีความหวัง
ประตูห้องเก็บฟืนถูกเปิดออก แสงสว่างจากสายฟ้าที่ผ่าลงมาทำให้เห็นว่าเป็นแม่นมจินที่เดินเข้ามาหานาง พร้อมกับถาดอาหารและน้ำดื่ม
“บ่าว แอบเอามาให้ คุณหนูรองท่านกินรองท้องเสียหน่อย พรุ่งนี้เช้านายท่านคงเรียกท่านเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นเจ้าค่ะ”
ซีเยว่ มองแม่นมที่เปลี่ยนท่าทีไปจากตอนแรกอย่างแปลกใจ หรือว่าเมื่อครู่ตอนที่นางมาพบก่อนหน้านี้ จะมีคนนอกอยู่ด้วยจึงได้พูดเช่นนั้น เพื่อให้นางยอมรับความผิดไว้
“ท่านพ่อว่าเช่นใดบ้าง แม่นม ท่านพาข้าออกไปเลยได้หรือไม่ ข้าหนาวยิ่งนัก” ปากนางซีดขาว ทั้งยังสั่นเล็กน้อยทำให้แม่นมจินที่เลี้ยงดูนางมาอดที่จะสงสารไม่ได้
ใบหน้าของแม่นมที่มองมาทางนางอย่างปวดใจ ทำให้ซีเยว่ เชื่ออย่างสนิทใจว่าแม่นมกลับมาเป็นเช่นคนเก่าที่หวังดีกับนางแล้ว
ถึงนางจะเป็นคนของอู๋ซื่อ แต่ในเมื่อนางเลี้ยงดูซีเยว่มาตั้งแต่นางได้หนึ่งเดือน ย่อมต้องมีความผูกพันไม่น้อย นางบรรจงถอดเสื้อคลุมของนางออกคลุมไปที่ร่างเล็กที่สั่นเทาของซีเยว่
“หากบ่าวขัดคำสั่งนายท่าน คุณหนูก็รู้ว่าบ่าวคงถูกโบยจนตาย อดทนหน่อยเถิดเจ้าค่ะ” นางสวมกอดซีเยว่พร้อมทั้งลูบหลังให้นางอย่างแผ่วเบา
“อืม ข้าไม่ผิด อย่างไรท่านพ่อก็ต้องให้อภัยข้า” ด้วยที่ผ่านมาไม่ว่านางจะดื้อรั้นเพียงใด นายท่านเว่ยที่สงสารที่นางไร้มารดาก็ยอมปิดตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด
“คุณหนูท่านกินอันใดเสียหน่อยเถิด น้ำชาร้อนๆ จะช่วยให้ท่านอุ่นขึ้น” แม่นมจินประคองถ้วยชาด้วยมือที่สั่นเทาส่งให้ซีเยว่อย่างใส่ใจ
“เหตุใด แม่นมท่านถึงได้มาตามสาวใช้นางนั้นไปเล่าเจ้าคะ” ซีเยว่รับชาไปถือในมือ พร้อมทั้งเอ่ยสิ่งที่สงสัยออกมา
“เอ่อ...บ่าวจะพานางไปสั่งความเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เรื่องแผนการผิดพลาด” แม่นมหลบสายตาที่จ้องมองมาของซีเยว่
“อืม...” นางไม่ได้โง่ถึงขั้นจะเชื่อแม่นมทั้งหมด แต่ยังหาเหตุผลมาหักล้างไม่ได้ว่า เหตุใดถึงกลายเป็นนางที่โดนกล่าวหาเช่นนี้
ซีเยว่ที่หนาวเสียดเข้าไปในกระดูกก็ยกน้ำชาดื่มเพื่อคลายความหนาว เพียงแค่น้ำชาไหลลงลำคอของนาง ความเจ็บปวดก็วิ่งวนไปทั่วทั้งร่างกาย
ถ้วยน้ำชาตกลงสู่พื้น ใบหน้างามจ้องมองแม่นมที่เลี้ยงดูนางมาตั้งแต่เล็กอย่างไม่เชื่อสายตา
“ทะ ท่าน” นางจับคอของตนเองแน่น เมื่อรู้ตัวว่าถูกพิษเข้าเสียแล้ว
ซีเยว่พยายามล้วงคออย่างหนักแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อไม่มีสิ่งใดออกมา
“คุณหนูรอง ท่านอย่าได้โทษบ่าวเลยเจ้าค่ะ บ่าวต้องทำตามคำสั่ง ไม่เช่นนั้นคนที่ตายคงต้องเป็นตัวบ่าว” แม่นมจินร่ำไห้ตัวโยนออกมา
“...” ซีเยว่ที่กำลังขาดอากาศหายใจ นางล้มไปนอนดิ้นทุรนทุราย สายตาของนางยังมองมาที่แม่นมตลอดเวลา
“พรุ่งนี้นายท่านก็คงเชื่อในคำพูดของคุณหนูเช่นเดิม หากบ่าวไม่ทำเช่นนี้ เรื่องที่ฮูหยินนางทำก็จะถูกเปิดเผย”