เมื่อรักใครสักคน ทุกคนก็อยากเรียกคนที่เราตกหลุมรักว่าที่รักกันทั้งนั้น แต่สำหรับอ้อนรักไม่ใช่
อ้อนรัก รักพี่ชายข้างบ้านมานานหลายปี แต่ไม่เคยเรียก ‘ที่รัก’ ได้เลย
หญิงสาวในชุดนักศึกษาคณะการจัดการ เดินปาดน้ำตาออกจากบ้านหลังใหญ่ หลังจากได้รับรู้ข่าวร้ายสำหรับเธอ แต่มันเป็นข่าวดีสำหรับแม่ เพราะว่าคุณย่าสร้อยระย้า หรือคุณย่าของชายหนุ่มที่เธอหลงรัก จ้างให้เป็นแม่ครัวทำกับข้าวเลี้ยงในงานแต่งของบ้านจงพิทักษ์
วันนี้เธอไม่มีเรียน เนื่องจากอยู่ปีสี่ใกล้จะเรียนจบอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เธอก็รับรู้ว่าเขาแต่งงานกับรุ่นพี่ต่างคณะชื่อปลายฝนที่ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินดังของประเทศในอาหรับสายการบินหนึ่ง แน่นอนว่าเธอฝันอยากเป็นเจ้าสาวของเขามานานแสนนานแล้ว ก่อนที่เขาจะพบกับผู้หญิงคนนั้น...คนที่ได้หัวใจของเขาไปครอง
เธอหลงรักหนุ่มหล่ออย่างรามสูรตั้งแต่แตกเนื้อสาว เพราะเขาชอบมานั่งทานข้าวแกงที่ร้าน ซึ่งบ้านของเธออยู่ติดกับบ้านของเขาที่มีขนาดหลังใหญ่แทบจะเป็นเศรษฐีเลยก็ว่าได้ แต่บ้านเธอเป็นเพียงแค่ทาวน์เฮาส์ติด ๆ กันแต่ว่าเป็นหลังริม และหน้าต่างห้องของเธอก็มองไปเห็นในบ้านของ เขาที่ชอบมานั่งเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง วาดรูป
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายตกเธอได้ตั้งแต่เขาอยู่ปีหนึ่ง รามสูรเป็นนักศึกษาคณะสถาปัตย์สุดเท่ห์ ซึ่งใครก็ใฝ่ฝันอยากเข้าคณะนี้กันทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมเข้าไม่ได้ ด้วยระดับสมองและไอคิวกาก ๆ ของตัวเองจึงเลือกเรียกได้แค่คณะการจัดการ ซึ่งไม่ได้สอบเข้ายากเย็นนัก
เธอคุยกับเขาทุกเรื่อง เรียกว่าทุกเรื่องจริง ๆ ทั้งส่วนตัวและไม่ส่วนตัวเขาชอบหยอกเย้าประหนึ่งว่าจีบเด็กสาวกะโปโลอย่างเธอ แต่พึ่งเข้าใจตอนนี้เองว่าก็แค่หมาหยอกไก่
กริ่ง...กริ่ง...!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเมื่อเธอบอกแม่ว่าวันนี้ปวดหัวและจะขอเข้ามาพักก่อน มือเล็กควานหาโทรศัพท์แล้วก็กดรับมันด้วยน้ำเสียงอู้อี้ขึ้นจมูก
“ฮัลโหล” เสียงปลายสายเอ่ยขึ้นก่อน
“ค่ะพี่ราม” เธอตอบกลับกลั้นเสียงสะอื้นสุดกำลัง ทั้งที่เป็นเพียงแค่เธอคิดไปเองคนเดียว เพราะเขาไม่เคยชัดเจนเรื่องสถานะกับเธอเลยสักครั้ง แต่เธอก็อยากเสี่ยง แม้สุดท้ายจะกินข้าวคลุกน้ำตาก็ยอม
“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม รู้ว่าพี่แต่งงานต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ” คนปลายสายพูดกลั้วหัวเราะ กับอีกคนที่ไม่รู้ว่าไปร้องไห้เรื่องอะไร หรือใครอกหักมากันแน่
“พี่รามหยุดพูดไปเลย มีอะไรคะ” แม้จะเจ็บปวดใจแต่ทุกครั้งที่เป็นเขาโทรมา หรือขอร้องให้เธอทำอะไรเธอก็พร้อมทิ้งทุกอย่างเพื่อไปหาเขาทันที
“เย็นนี้ปลายฝนมากินข้าวที่บ้าน คุณย่าไม่อยู่จัดอาหารมาให้พี่สักสามสี่อย่างสิ....เอาอร่อย ๆ นะ”
“ค่ะ” เธอรับคำตอบสั้น แล้วกำลังจะวางสาย แต่ก็โดนเขาเรียกไว้เสียก่อน
“ยังไม่ได้บอกเลยเป็นอะไร จะวางไปแบบนี้ได้ยังไงพี่เป็นห่วงรู้ไหม”
‘เป็นห่วงฐานะอะไรอีก’ (!__!)
“อกหัก!” เธอตอบเขาไปตามตรง
“ไอ้หนุ่มหน้าไหนมาหักอกน้องพี่...บอกมาพี่จะไปจัดการให้”
‘แค่น้อง...น้องข้างบ้าน!’ เธอได้แต่ท่องเอาไว้ในใจ
“ช่างมันเถอะค่ะ...คนใกล้ ๆ แถวนี้แหละ” เธอพูดจบก็วางสายไป เข้าห้องน้ำเช็ดหน้าเช็ดตา ดูสภาพตัวเองก็เหมือนเด็กกะโปโลจริง ๆ ใครที่ไหนจะมารักกันเล่า
อ้อนรักจัดการอาบน้ำรวบผมจัดทรงให้ดูดีเหมือนที่เพื่อน ๆ เคยสอนบอกว่าหากแต่งตัวแบบนี้รับรองหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาขายขนมจีบกันเต็ม
แต่มีเพียงคนเดียวที่เธออยากให้เขาจีบคือ ‘รามสูร’
“แต่งตอนนี้สายไปหรือเปล่าอ้อนรัก” เธอพูดกับตัวเองในกระจก แล้วก็ถอนหายใจตัดใจทำเหมือนเดิม เหมือนที่ตัวเองเคยทำ เดินลงมาผัดเครื่องแกงกับจัดทำอาหารอีกสองสามอย่างใส่ปิ่นโต
เธอเป็นคนมีฝีมือทำอาหารเหมือนกับแม่ ด้านล่างของบ้านเธอเปิดเป็นร้านอาหารให้นั่ง ส่วนชั้นลอยจะเป็นห้องเก็บของ และชั้นสองจะเป็นห้องนอนของเธอและแม่
ตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแค่แม่ ไม่เคยรู้ว่าใครคือพ่อของตัวเอง แต่เธอก็ไม่เคยถามและไม่อยากถามด้วย เพราะอยู่กับแม่ก็มีความสุขดีไม่ได้เดือดร้อนอะไร และคิดว่าแม่ก็ไม่สะดวกใจจะพูด
“ยายอ้อน นั่นจะเอาปิ่นโตไปไหน” จงอรผู้เป็นมารดาถามลูกสาวที่ดูเร่งรีบ เดินออกไปพร้อมกับปิ่นโตเถาใหญ่
“คุณรามโทรมาสั่งจ้ะแม่ เดี๋ยวเดินเอาไปให้แล้วจะรีบกลับ”
เธอเดินเข้าไปในบ้านของรามสูรผ่านประตูเล็กด้านข้าง เมื่อมองไปในโรงจอดรถเห็นมีรถยุโรปจอดอยู่ น่าจะเป็นพี่ปลายฝนแฟนของพี่รามเป็นแน่ เธอจึงเลี่ยงหลบไปด้านหลังที่เป็นทางเดินเข้าไปในครัว เพราะมาคุยเล่นกับคุณย่าสร้อยระย้าบ่อยครั้งจึงรู้ทางเข้าทางออกของบ้านหลังนี้ดี
“อื้ม...รามคะ...เดี๋ยวใครมาเห็นเข้านะคะ หิวน้ำก็กินสิคะ” เสียงหวานครางกระเส่าอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์น้ำที่ติดกับห้องครัว เพราะรามบอกว่าหิวน้ำ จึงเดินมาหยิบน้ำเทให้ แต่กลับโดนเขารุกด้วยการจับเธอขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ แล้วดึงเพนตี้ตัวจิ๋วออก สอดนิ้วเข้าไปในโพรงนุ่มขยับเรียกน้ำหวานของเธอให้ออกมา
“หิวน้ำนี้ต่างหากล่ะ” ชายหนุ่มผู้คลั่งรักแฟนสาวที่กำลังจะเป็นภรรยาที่ถูกต้องในอีกไม่นาน เขาจึงไม่รั้งรอที่จะรักเธออีกต่อไป
มือหนาฉีกขาเธอออกแล้วรูดซิปกางเกงลงงัดความเป็นชายขึ้น จับประคองแล้วกระแทกแก่นกายเข้าไปในโพรงสีหวาน พร้อมทั้งขยับเข้าระรัว
“ฝนจ๋า...รามคิดถึงฝนใจจะขาด ฝนบินถี่ทุกวันเลย”
เสียงบอกรักพร้อมกับการเคลื่อนเข้าหานั้นดังไปถึงในครัวที่มีร่างคนหนึ่งยืนเอามือปิดปากกลั้นสะอื้น ความรู้สึกของอ้อนรัก ราวกับแฟนมีกิ๊ก สามีมีชู้ก็ไม่ปาน มันเจ็บปวดมันรวดร้าวเหมือนหัวใจจะขาดรอน ๆ
คนที่แอบรักแต่งงานก็ว่าเจ็บแล้ว แต่ได้ยินเสียงกำลังร่วมรักกันอย่างนี้ ยิ่งกว่ามีมีดเป็นพันเล่มแทงเข้าสู่กลางใจ
เธอกลั้นใจวางปิ่นโตอย่างเบามือที่สุด แล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องครัวของบ้านไปอย่างรวดเร็ว
เจ็บ...เจ็บให้พอแล้วเธอจะเข้มแข็งเข้าสักวัน...