หญิงสาวร่างอรชรในชุดพรอมเดรสกลิตเตอร์สีนู้ดเกาะอก ข้างหน้าสั้นด้านหลังยาวเดินขึ้นบันไดในบ้านจงพิทักษ์ สายตาเหลือบไปเห็นห้องของเขาที่มีประตูเปิดอยู่ยังไม่ได้ปิด พร้อมทั้งเห็นร่างของชัยวัฒน์ที่นั่งบนเตียงนอนตบที่บ่าเขาเบา ๆ กับอีกคนที่นั่งร้องไห้อย่างเงียบ ๆ
“พี่เล็ก” เสียงกระซิบแผ่วเรียกเพื่อนของรามสูรให้รู้ว่าเธอเข้ามานะ เมื่อพี่เล็กของเธอหันมาก็ส่ายหน้าบอกว่าอาการไม่ค่อยดีเลย
เธอพยักหน้าให้ พร้อมกับเดินเข้าไปหาเขา และนั่งลงที่ด้านหน้า ส่วนชัยวัฒน์ก็ออกจากห้องไปพร้อมทั้งปิดประตูให้ ทั้งคู่คุยกัน
“พี่ราม...ไม่เป็นไรนะคะ” อ้อนรักเอื้อมมือนุ่ม ๆ ของตัวเองที่ได้รับการดูแลอย่างดี จับที่มือของเขาไว้
“เขาทิ้งพี่ไปแล้วอ้อน...เขาไม่รักพี่แล้ว” เสียงแหบโหยสั่นเครือขณะรำพันทำให้เธอเจ็บปวดใจแทนเขา
เขารักใครเธอก็เจ็บ เขาเสียใจเธอก็เจ็บ หรือเธอเกิดมาเพื่อเจ็บปวดกันแน่นะ หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิดเดียว
“เขาไม่รักก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ...ยังมีคนอื่นที่รักพี่มากมายอย่าง...”
“พี่ไม่ต้องการใครทั้งนั้น...พี่รักปลายฝนคนเดียว” เสียงประกาศชัดของรามสูรทำเอาคนรักเขาข้างเดียวอย่างอ้อนรักสะอึก
ขนาดความรักของคนอื่นเขายังไม่ต้องการ แล้วนับประสาอะไรกับความรักของเธอกัน...
“โถ...พี่ราม” เธอได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆ ปลอบเขา ความเงียบเข้าปกคลุมในห้อง ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรจนเวลาผ่านไปจนเย็นย่ำ เขาและเธอก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนตำแหน่ง
“กลับบ้านไปก่อนพี่อยากอยู่คนเดียว” ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเอ่ยออกมาทำลายความเงียบ จนอ้อนรักต้องขยับลุกขึ้น
‘เขาไม่ต้องการแม้ให้เธอนั่งเคียงข้างเป็นกำลังใจ’ เธอควรรับความจริงข้อนี้ให้ได้ ร่างเล็กลุกขึ้นแต่ทว่านั่งนานจนเซล้มไปชนกับเขาเข้า
“อุ้ย...พี่รามอ้อนขอโทษนั่งนานเป็นตะคริว” หญิงสาวบอกเขา แต่ชายหนุ่มใบหน้าและแววตาเรียบเฉยเสียจนเธอต้องรีบพาตัวเองออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
รามสูรปิดห้องห้ามให้ใครเข้า เพราะเขาอยากทบทวนว่าตัวเองพลาดตรงไหน ถึงเธอเลือกจะเดินจากเขาไปในวันแต่งงานของเรา
ผู้ชายคนนั้นดีกว่าเขางั้นเหรอ...
ผู้ชายคนนั้นรวยกว่าเขาใช่ไหม...
เขายังรวยไม่พอใช่ไหม...
สารพัดคำถามถาโถมเข้ามาในใจของคนที่เปลี่ยนจากว่าที่เจ้าบ่าว เป็นหม้ายขันหมากที่เจ้าสาวหนีไปกับผู้ชายอื่นในวันแต่งงาน
เจ็บกว่าการถูกนินทา คือคนที่รักไม่เลือกตนเอง ชัยวัฒน์ต่อสายหาเขา และปลายสายคือคนรักที่ร้องไห้ พร้อมกับคำขอโทษ ที่ไม่อาจจะเป็นเจ้าสาวของเขาได้
ชายหนุ่มจมอยู่กับความเศร้ากับเหล้าที่ดื่มเหมือนอาบจนคุณย่าสร้อยระย้ายังไม่อาจจะห้ามได้เลย
“คุณย่า...พี่รามเป็นยังไงบ้างคะ”
“เหมือนเดิมเลยหนูอ้อน ย่าก็ปวดใจ”
“ขอขึ้นไปหาพี่รามหน่อยได้ไหมคะ” แม้ว่าผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ให้เธอพบหน้าเลย จากที่แอบมอง มองตรง ๆ เหล่เขาอยู่เป็นระยะ ไม่ได้พบหน้านานขนาดนี้เธอก็ทรมานเช่นกัน
แม้รู้ว่าเขาเสียใจ แต่ก็ต้องรักตัวเองบ้างนะ
“ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมออกมาเลย” สร้อยระย้าบอกด้วยน้ำเสียงเศร้า หลานชายคนเดียวที่เลี้ยงมาแต่เล็กหลังพ่อกับแม่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำไมจะไม่รักไม่ห่วง แต่ไม่รู้จะปลอบใจยังไงดี
“ให้อ้อนเข้าไปหาพี่รามหน่อยได้ไหมคะ” ต่อให้เขาไม่อยากเจอเธอก็อยากเข้าไปหาอยู่ดี ไปด่าไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นที่ยังไม่ยอมมูฟออนเสียที
“ลองเข้าไปนะลูก แต่ย่าไม่รับประกันนะว่าเขาจะพูดดีด้วย” เด็กในบ้านหลายคนโดนไล่กระเจิงออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าไป เห็นมีเพียงอ้อนรักนี่แหละที่อยากเข้าไปหาหลานชายของตนเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ อ้อนหน้าด้าน” มาสิด่ามาก็ด่ากลับทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงใช้ได้ที่ไหน
ปัง...!
เสียงเปิดประตูห้องของรามสูรดังขึ้น กับภาพคนที่จมอยู่กับความทุกข์กับขวดเหล้าของเขา ทั้งสภาพเหมือนไม่ใช่คน หนวดเครารกรุงรังหาแววความหล่อที่เธอชอบอยู่ไม่ได้เลยสักนิดเดียว หากว่าเขาอยู่ข้างถนนเหมือนคนไร้บ้านเธอเชื่อสนิทใจเลยทีเดียว
“พี่ราม...ตื่น”
“ออกไป...ฉันไม่อยากเจอใคร...ออกไปให้หมด” ลิ้นเปลี้ย ๆ ส่งเสียงอย่างคนเมา ตะโกนไล่ทั้งที่ตัวเองยังนอนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับออกไปไหน เพราะมึนหัวจนลุกไม่ไหวแล้ว
“สภาพดูได้ที่ไหน...ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ไปอาบน้ำ” อ้อนรักลากผู้ชายตัวอย่างควาย แต่ทำตัวเหมือนเด็กขึ้นมาเพื่อจัดการอาบน้ำให้เขา
“อย่ามายุ่ง...เธอไม่ใช่คนรักของฉัน”
“พี่ราม...อยู่กับปัจจุบันได้แล้วค่ะ”
“ไม่...ฉันจะอยู่กับปลายฝน”
“เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้เหรอพี่ราม เขาไม่ได้รักพี่ไง ถ้าเขารักพี่เขาจะไม่เลือกที่จะไป เรียนก็เก่งแต่ทำไมคิดเรื่องตื้น ๆ แค่นี้ไม่ได้...พี่รู้ไหมคุณย่าอายุเยอะแล้วก็ยังต้องมาคอยเป็นห่วงพี่ที่แข็งแรง แค่อกหักมันจะเป็นจะตายอะไรนักหนา ไม่มีเขาก็อยู่ได้ไหม แต่บริษัทพี่ไม่มีพี่มันจะไปรอดเหรอ”
“ไม่ต้องมายุ่ง...เธอไม่รู้จักความรักไม่ต้องมาสอน”
“อ้อนไม่รู้หรอกว่ารักของพี่มันแบบไหน รักของอ้อนต่อให้คนรักไม่รักตอบ อ้อนก็จะรัก...แม้ใครว่ามันโง่ไปหน่อย แต่เห็นเขามีความสุขต่อให้เจ็บ ยังยินดีกับเขา ดีกว่าทนเห็นเขาเสียใจร้องไห้เหมือนที่เป็นแบบนี้ แบบนี้พี่ไม่รักตัวเอง ไม่เป็นห่วงคุณย่า คนที่รักพี่มากมายทำไมพี่ไม่มอง”
“ไม่...ไม่มีใครรักพี่...”
เผียะ...!
อ้อนรักฟาดหน้าหล่อด้วยฝ่ามือไปหนึ่งฉาดเรียกสติให้เขาตื่นขึ้นมาเสียที
“ตบพี่ทำไม” เขาที่กำลังมึน ๆ เมื่อโดนฟาดเข้าอย่างนี้ก็หน้าสั่น แต่จะตบตอบก็ไม่ได้เพราะยายอ้อนตัวเล็กเท่านี้
“เจ็บไหมคะ”
“เจ็บสิ”
“แสดงว่ายังรู้สึก...ทำไมจะไม่มีคนรักพี่ อ้อนก็รัก พี่เล็ก คุณย่า คนอื่น ๆ อีกตั้งมากมายทำไมพี่ไม่คิดบ้าง กับแค่ผู้หญิงคนเดียวทำให้พี่เป็นบ้าขนาดนี้ไม่เรียกว่ารักหรอกค่ะ เรียกว่าหลงผิดเสียมากกว่า”
“อ้อน...เกินไปแล้วนะ”
“ไม่เกินไปหรอกค่ะ...ผ่านมากี่วันแล้วคะ พี่ยังไม่ได้สติเลย คนที่เขาไม่สนใจเราแล้ว ไปร้องไห้ให้ตายเขาก็ไม่ได้ยิน เพื่ออะไร?
เราเสียใจเพื่อเขามามากพอแล้ว แล้วยังต้องสูญเสียตัวตนให้เขาอีกเหรอ ทำตัวเองให้มีความสุขสิ ในเมื่อเขามีความสุขแล้วพี่ทุกข์ให้ได้อะไร” อ้อนรักตะโกนใส่หน้าไปก็หอบไป ใช้แรงเยอะเป็นบ้าเลย
“ออกไป...!”
“ไม่...จนกว่าพี่จะเลิกบ้าสักที!” เขาไล่แต่เธอก็ตะโกนใส่หน้าเขาตอบ
“อ้อน...พี่ให้ออกไปไง!!! แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตพี่อีก...เอาตัวเองให้รอดเถอะ” รามสูรไม่เคยขึ้นเสียงกับอ้อนรัก ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แล้วก็ทำให้หญิงสาวสะดุ้ง
เขาไม่ใช่พี่รามของเธออีกแล้ว ดวงตาเล็กเคลือบด้วยม่านน้ำใส ผิดหวังในตัวเขา แม้จะทำใจมาแล้วแต่ไม่คิดว่าเขาจะวีนใส่เธอขึ้นมาจริง ๆ
“ค่ะ...!” เธอรับคำเบา ๆ และออกไปง่าย ๆ ไม่กลับมายุ่งกับเขาอีก ปล่อยให้เขาจมอยู่กับความทุกข์และความรักบ้า ๆ ของเขาไปคนเดียว
หญิงสาวเดินน้ำตานองหน้าออกจากบ้านจงพิทักษ์ไป เธอสะอื้นไปทั้งตัวจนคนที่ยืนอยู่ด้านบนมองจากระเบียงเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร
เขาพูดแรงไปจริง ๆ
อ้อนรักไม่ได้เข้าไปที่บ้านจงพิทักษ์อีกเลย และอ้างกับแม่ว่าช่วงนี้ใกล้สอบ ขออ่านหนังสืออยู่ร้าน แม่จึงให้เด็กในร้านไปส่งอาหารที่บ้านนั้นแทน
ผ่านไปจวบจนสองเดือนวันสุดท้ายที่อ้อนรักสอบเสร็จ หญิงสาวก็กระโดดโลดเต้นเข้ามาในบ้าน
“แม่จ๋า...หนูสอบเสร็จแล้ว...ต่อไปก็จะหางานทำช่วยแม่ได้แล้วนะ” เด็กสาวในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอเสื้อรัดจนกระดุมหน้าอกปลิ้น และเธอก็ไม่รู้ว่ามีคนกำลังมองเธออยู่ในร้าน
“จริงเหรอลูก...”
“ค่ะ...โปรเจคจบก็เสร็จแล้ว ระหว่างรอเกรด คงช่วยแม่ขายข้าวแกงไปสักระยะ”
“ดีแล้วลูก...ขอให้ลูกแม่เจริญ ๆ นะลูก” จงอรลูบผมของลูกสาวเบา ๆ เดี๋ยวนี้ลูกเธอคงจะเป็นสาวเต็มตัวแล้วจริง ๆ ดูจากเสื้อผ้าการแต่งตัวแล้ว
“เสื้อมันหดหรือไงถึงได้ใส่แบบนี้” รามสูรที่นั่งกินข้าวอ้าปากค้างกับชุดนักศึกษาปีสี่อยู่นานแล้ว เขาแวะเวียนมาก็ไม่เจอสักวัน แต่ว่าวันนี้เจอเข้าแล้วก็รู้สึกขัดใจนักกับการแต่งตัวที่เปลี่ยนไปของเธอ
“พี่ราม...” เสียงแผ่วของอ้อนรักหันไปมอง ก่อนจะเมินหน้าแล้วเลี่ยงขึ้นไปบนห้อง
“ใบ้แดกหรือไงทำไมไม่ตอบ”
“ไม่ต้องยุ่ง”
“เหอะ...!!!”
จงอรส่ายหน้ารู้ว่าทั้งคู่คงมีเรื่องงอนกัน แต่เดี๋ยวสักพักก็คงดีกันเหมือนเดิม ที่เคย ๆ เป็น
อ้อนรักเลี่ยงเดินขึ้นไปด้านบนแต่ว่าเธอแอบดูเขาอยู่ตรงบันได ไม่ได้ขึ้นห้องไปอย่างที่บอก
เธอหลบหน้าไม่ได้เจอเขามาตั้งหลายเดือนแล้ว วันนี้ได้เจออีกครั้งน้ำตาที่เคยเหือดแห้งมันกลับปริ่มขึ้นมาอีกแล้ว
‘ทำไมเลิกรักพี่รามไม่ได้สักที!’