วายุ....
"ทานเยอะๆ นะคะพี่วายุ"
"ของโปรดพี่ทั้งนั้นเลยใช่มั้ยคะนกยูงก็ชอบเหมือนกันเลยค่ะ"
"อันนี้ก็อร่อยนะคะนกยูงไปช่วยป้าแม่ครัวทำด้วย"
"พี่วายุคะอัน..." ผมแม่งเริ่มรำคาญยัยนี่ละ วุ่นวายอะไรกับผมนักหนาวะ
"พี่อิ่มละขอตัวก่อนนะ" ผมตัดปัญหาวางช้อนแล้วลุกออกมาจากโต๊ะทานข้าวโดยไม่สนว่าทั้งโต๊ะจะว่าอะไรหรือเปล่า
"อิ่มแล้วเหรอคะ พี่วายุยังไม่ได้ทานของหวานเลยนะคะ" ยัยนี่ก็ยังจุ้นไม่เลิก ผมถอนหายใจก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้ยัยนี่
"พี่อิ่มแล้วครับไม่อยากทาน" เพราะของหวานที่เธอจะให้ผมกินมันคือกล้วยบวชชี มันเป็นของหวานที่ผมเคยชอบมากตอนที่ผมยังเด็กเพราะแม่ผมชอบทำให้ทานแต่พอแม่ผมเสียไปผมก็ไม่คิดที่จะกินมันอีกเลยเพราะผมจะคิดถึงแม่
"ว๊าา นกยูงอุตส่าห์ทำสุดฝีมือเลยเสียใจจัง>ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใคร" ผมตะโกนออกไป
"นกยูงเองค่าพี่วายุ"
"เห้อออ ผมถอนหายใจอีกครั้งจนจำไม่ได้ว่าผมถอนหายใจกับยัยนี่ไปกี่รอบตั้งแต่ก้าวขาเข้าบ้านมา
"มีอะไรกับพี่เหรอ" ผมเปิดประตูก็เจอนกยูงยืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าประตูและเหมือนเธอจะเอาอะไรซ่อนไว้ข้างหลัง
"พอรู้ว่าพี่จะกลับมานกยูงก็คิดว่าอยากให้ของขวัญต้อนรับการกลับมาของพี่แต่นกยูงไม่มีเงินที่จะซื้อของแพงๆ ให้นกยูงก็เลยทำของขวัญที่นกยูงทำมันด้วยตัวเอง นี่ค่ะ" นกยูงยื่นอะไรบางอย่างมาให้ผมมันคือภาพวาดมีคนสี่คนอยู่ในภาพนั้นผมมองอย่างไม่เข้าใจจนกระทั่งนกยูงอธิบาย
"ในภาพที่นกยูงวาดมีคุณพ่อรุจมีแม่ดาวเรืองมีพี่วายุแล้วก็มีนกยูง ภาพนี้มันคือภาพครอบครัวของเราค่ะ^^" หึ ครอบครัวของเรา ไม่ถามผมสักคำเลยหรือไงว่าอยากเป็นครอบครัวเดียวกันกับเธอหรือเปล่า
"ขอบใจ แค่นี้ใช่ไหมพี่อยากนอนแล้ว"
"เอ่อก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ พี่วายุพักผ่อนเถอะค่ะนกยูงไม่รบกวนแล้ว หลับฝันดีนะคะ^^"
นกยูง....
ฉันยิ้มสดใสให้พี่วายุก่อนที่เขาจะปิดประห้องหลังจากพี่วายุปิดประตูฉันก็หุบยิ้มทันทีเพราะรู้สึกได้ว่าเขาไม่ค่อยอยากคุยกับฉันสักเท่าไหร่เลยตั้งแต่ที่โต๊ะอาหารแล้วเหมือนเขาพูดตามมารยาทเท่านั้นถามคำตอบคำ หรือฉันจะคิดไปเองเขาอาจจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วก็ได้ ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้
วันต่อมา....
ที่โต๊ะอาหารเช้า...
"นกยูงคิดหรือยังลูกว่าจบมอหกแล้วอยากเรียนต่อที่ไหน" คุณพ่อรุจถามขณะที่เรากำลังทานอาหารเช้ากันอยู่รวมถึงพี่วายุด้วย
"นกยูงว่าจะลองไปสอบเข้ามหาลัยXXXดูค่ะคุณพ่อแต่ไม่รู้จะสอบเข้าได้มั้ยเห็นเค้าว่ามหาลัยนี่สอบเข้ายากมากเลย>วายุ....
พอนกยูงลงจากรถผมก็ขับรถออกมาเพื่อตรงไปยังบริษัท ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมผมถึงทำดีกับนกยูง....ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำผมมีเหตุผลของผมก็แล้วกัน
"สวัสดีค่ะคุณวายุพี่ชื่อพี่ศรีนะคะเป็นเลขาของคุณรุจค่ะ" พอมาถึงบริษัทพี่ศรีเลขาของพ่อก็เดินมาต้อนรับรวมถึงพนักงานคนอื่นๆ ที่ยืนต้อนรับผมเป็นทางยาว
"สวัสดีครับพี่ศรียังไงผมก็ขอพี่ศรีช่วยสอนงานผมด้วยนะครับ"
"ได้เลยค่ะ" จากนั้นผมก็เดินตามพี่ศรีไปยังห้องทำงานที่พ่อจัดไว้ให้ผม ซึ่งผมต้องเข้ามาบริหารงานแทนพ่อเพราะพ่อบอกอยากพักงานพ่อบอกเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้วซึ่งตอนแรกผมก็สงสารพ่อนะท่านคงเหนื่อยจริงๆ แต่ที่ผมไปได้ยินมาเมื่อเช้ามันทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดที่พ่ออยากพักไม่ใช่เพราะอะไรหรอกพ่ออยากพาเมียใหม่ไปเที่ยวต่างประเทศ
"ถ้าตาวายุสามารถดูแลบริหารงานที่บริษัทได้แล้วผมว่าจะพักแล้วล่ะ"
"คุณทำงานมาตลอดคงเหนื่อยมากเลยสินะคะ"
"อืมม ผมสร้างบริษัทนี้มาด้วยสองมือของผมจนมันเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมโชคดีที่มีลูกชายที่สามารถดูแลงานแทนผมได้ ถ้าถึงตอนนั้นผมจะพาคุณไปเที่ยวนะคุณอยากไปไหนผมจะพาไปทุกที่เลยไปประเทศสวิสเซอแลนด์ดีมั้ยอากาศที่นั่นดีมากๆ เลยนะผมอยากพาคุณไปในที่ๆ สวยงาม"
"ขอบคุณนะคะคุณรุจดาวคิดไม่ผิดเลยที่แต่งงานกับคุณคุณดีกับดาวมากๆ เลยค่ะ"
"เพราะผมรักคุณไง แต่คงต้องอีกสักพักนะ ผมขอมั่นใจก่อนว่าวายุสามารถบริหารงานได้ผมถึงจะเบาใจ" หึแล้วก็โยนภาระทุกอย่างมาให้ผมเพื่อที่จะพาเมียใหม่ไปเที่ยว แต่ผมไม่ได้อิจฉาหรอกนะที่พ่อจะพาเมียใหม่ไปเที่ยวแต่มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าตอนที่แม่ยังอยู่ แม่เคยบอกพ่อว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศแต่พ่อก็อ้างงานตลอดบอกไม่มีเวลาบ้างงานเยอะบ้างบริษัทมีปัญหาบ้างไม่อยากทิ้งรอให้ว่างก่อนจะพาไปจนกระทั่งแม่ผมเสียท่านก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวตามที่พ่อเคยให้สัญญาเลยทั้งที่แม่อยู่เคียงข้างพ่อมาตลอดหลายสิบปี ปากพ่อบอกว่ารักแม่ห่วงแม่ซึ่งตอนนั้นผมยังเด็กผมก็เชื่อแบบนั้นว่าพ่อรักแม่มากที่สุดแต่ตอนนี้ผมชักไม่มั่นใจแล้วว่าพ่อเคยรักแม่บ้างไหมหรือรักแต่งาน แต่ทำไมกับผู้หญิงคนนี้ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นานพ่อกลับดูแลเอาใจใส่มากว่าแม่ของผม