นกยูง...
"เราอายุเท่าไหร่ตอนนี้" จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องพูดแต่ฉันก็ยังตอบเขาอยู่ทั้งที่ตอนนี้ฉันรับรู้ได้ถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเองแล้ว
"เอ่อ สิบแปดแล้วค่ะ พี่ถามทำไมเหรอคะ"
"ถามไว้ก่อนพี่ไม่อยากถูกจับข้อหาพรากผู้เยาว์" พูดจบพี่วายุก็ก้มใบหน้าลงมาซุกอยู่ตรงซอกคอของฉัน
"พี่วายุจะทำอะไรคะ นกยูงอยากกลับห้องแล้วค่ะ" ฉันพยายามใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดพยายามช่วยตัวเองแต่ดูเหมือนยิ่งทำมันจะยิ่งไปกันใหญ่เพราะตอนนี้ผ้าห่มที่กั้นกลางระหว่างเรามันกำลังเลื่อนหลุดลงไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มันอยู่ที่ปลายเตียงเรียบร้อยแต่ชุดนอนของฉันมันยังกองอยู่ที่เดิม พี่วายุขยับใบหน้าออกแล้วก้มลงมองดู ฉันไม่รู้ต้องทำยังไงจะดึงมันลงไปก็ทำไม่ได้เพราะถูกเขาจับไว้ทั้งสองข้าง
"ลายการ์ตูนซะด้วย เรานี่ยังเด็กน้อยอยู่เลยนะ"
"พี่วายุคะนกยูงอยากกลับไปนอนแล้วค่ะนกยูงง่วงค่ะ เอ่อคือพรุ่งนี้นกยูงมีสอบอยากกลับไปอ่านหนังสือค่ะ" ฉันหาข้ออ้างสารพัดเผื่อเขาจะยอมปล่อยให้ฉันกลับห้อง
"ตกลงง่วงอยากนอนหรือจะกลับไปอ่านหนังสือเอาดีๆ"
"เอ่อก็..ทั้งสองอย่างค่ะ"
"ไม่กลับได้มั้ยพี่อยากนอนกอดใครสักคน พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเราทั้งนั้นถ้าเราไม่ยินยอม พี่สัญญา" พูดจบพี่วายุก็ยอมปล่อยมือฉันจนเป็นอิสระ ฉันรีบลุกออกจากที่นอนแต่ขาไม่ทันจะถึงพื้นเอวฉันก็ถูกพี่วายุกระชากให้ลงไปนอนแต่ครั้งนี้ตัวฉันไปอยู่บนตัวของพี่เขาแบบพอเหมาะพอเจาะใบหน้าของเราใกล้กันอีกครั้ง ลมหายใจของเขาทำไมมันถึงร้อนแบบนี้ล่ะฉันเพิ่งจับสังเกต
"พี่วายุไม่สบายเหรอคะ" ด้วยความที่เป็นห่วงฉันก็เลยเอามือแตะที่หน้าผากกับคอของพี่เขา ปรากฏว่าตัวพี่วายุร้อนมากจริงๆ
"เมื่อกี้พี่นอนแช่น้ำนานไปหน่อยน่ะออกมาก็เจอแอร์เย็นๆ ไม่ป่วยก็แปลกละ"
"พี่ต้องทานยานะคะแต่พี่ยังไม่ได้ทานข้าวเลยจะทานยาก็ไม่ได้เดี๋ยวยาไปกัดกระเพาะถ้างั้นเดี๋ยวนกยูงออกไปทำข้าวต้มมาให้พี่ดีมั้ยคะแล้วพี่ก็ค่อยทานยา"
"แน่ใจว่าออกไปแล้วจะกลับเข้ามาอีก"
"นกยูงพูดคำไหนเป็นคำนั้น พี่วายุก็เหมือนกันนะคะสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอะไรนกยูงก็ต้องทำตามที่พูดนะคะ"
"ครับ" พอได้ยินแบบนั้นฉันก็ลุกออกจากตัวพี่เขาแล้วออกไปจากห้องแต่ก่อนออกก็แอบมองซ้ายมองขวาก่อนเพราะกลัวแม่กับคุณพ่อหรือใครมาเห็นว่าฉันออกมาจากห้องพี่วายุแล้วมันจะดูไม่ดี
วายุ...
ผมยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ผมรู้อยู่แล้วว่ายัยนี่ยังไงก็ต้องขึ้นมาหาผมแน่ๆ ผมก็เลยตั้งใจทำให้ตัวเองป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจ เด็กแบบนกยูงผมดูไม่ยากหรอกแล้วก็รู้ด้วยว่ายัยนี่คิดอะไรกับผม ผมดูออกตั้งแต่วันแรกที่ผมก้าวขาลงจากรถแล้ว สายตาของนกยูงที่มองผมทำไมผมจะดูไม่ออกว่ารู้สึกยังไงแต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะไม่ได้อะไรกับยัยนี่มากไปกว่าคนอาศัยในบ้าน
ผมนอนเล่นมือถือคุยกับเพื่อนสนิทผมกับพวกมันนัดกันว่าจะหาเวลาไปดื่มเพราะไม่ได้เจอกันนานมากก็ตั้งแต่ผมตัดสินใจไปเรียนต่อเมืองนอก
แอร๊ดดดด เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างช้าๆ และเบามือผมรู้ทันทีว่าเป็นนกยูงผมรีบเก็บมือถือแล้วทำทีเป็นนอนหนาวอยู่ในผ้าห่ม นกยูงถือถาดอาหารเข้ามาเพราะเสียงจานเสียงแก้วน้ำมันดังกระทบกันแม้ว่าเธอจะพยายามไม่ให้มันเสียงดังก็ตาม นกยูงเปิดไปจนมันสว่างทั่วห้องก่อนจะเดินมาหาผมที่เตียงแล้วเอาถาดข้าวถาดยาวางไว้ข้างๆ เตียง
"พี่วายุตื่นมาทานข้าวทานยาก่อนค่ะนกยูงทำมาให้แล้ว พี่วายุ" นกยูงจับแขนผมเขย่าเบาๆ ผมก็ทำเป็นสะลึมสะลือเหมือนกำลังตื่น
นกยูง....
"เดี๋ยวนกยุงป้อนนะคะ พี่คงทานเองไม่ไหว" ฉันบอกด้วยความสงสารเพราะดูพี่วายุจะไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ ฉันป้อนข้าวต้มพี่วายุเขาก็เอาแต่จ้องหน้าฉันไม่หยุดจนฉันต้องหลบสายตาเพราะเขินพี่เขามาก
"พี่วายุอย่าเอาแต่จ้องหน้านกยูงแบบนี้สิคะนกยูงก็เขินเป็นนะคะ><"