หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกหลายวัน
"รุ่นพี่ไทเธย์ใช่ไหมคะ?" เสียงเธอเบาแต่พยายามชัดถ้อยชัดคำ เป็นครั้งแรกที่ชะเอมรวบรวมความกล้าเพื่อเข้ามาทักทายรุ่นพี่ที่เธออยากทำความรู้จักตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก แต่ไม่มีโอกาสเลย
"มีอะไร?" เขาตอบกลับเสียงเย็นเยียบ สีหน้าและแววตาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เลย
ชะเอมลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แถมยังขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยรับน้องใหม่เท่าไรด้วย ดูจากวันแรกที่รับน้องก็น่าจะรู้แล้ว
"เอ่อ...หนูชื่อชะเอมนะคะ เป็นรุ่นน้องของพี่ไทเธย์ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ!" เธอไม่รู้จะแนะนำตัวยังไง เพราะการกระทำของเขาทำเอาความมั่นใจของเธอที่พกมาแต่แรกมันหดหายไปหมดเลย
พรึ่บ!
หญิงสาวโน้มศรีษะลงเล็กน้อย เหมือนกำลังทำความเคารพรุ่นพี่ แต่ศีรษะของเธอก็ดันไปชนกับอกของเขาซะได้
"ขะ ขอโทษค่ะ เอมไม่ได้ตั้งใจ"
"......"
"รุ่นพี่..."
"ถอยไป" น้ำเสียงนั้นแข็งและเย็นชามาก สายตานี่ไม่ต้องพูดถึง เหมือนกำลังมองท่อนไม้อยู่เลย
"เอ่อ...เอ่อ..."
ชะเอมพูดไม่ออกเธอได้แต่ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น ขณะที่รุ่นพี่ไทเธย์เดินออกไปไกลแล้ว เธอได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออก ทั้งเขินทั้งอาย หน้าแตกไปหมด อุตส่าห์เข้ามาแนะนำตัวกะว่าจะฝากฝังตัวเป็นรุ่นน้อง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย ก็รู้สึกเหมือนโดนปฏิเสธไปแล้ว
"ชะเอม! มายืนอะไรอยู่ตรงนี้"
"หึ๋ย! ตกใจหมด" ได้สติเพราะเสียงของเพื่อน
"มายืนเอ๋ออะไรอยู่ตรงนี้?" เพื่อนถามย้ำอีกครั้ง
"เปล่าไม่มีอะไร"
"อย่าบอกนะ ว่ามาดักรอรุ่นพี่คนนั้นอีกแล้วอ่ะ"
"......" ชะเอมไม่ได้ตอบ เธอหันมองหน้าของเพื่อนสนิทก่อนจะพยักหน้าให้อย่างช้าๆ เพราะถูกจับได้แล้วเธอก็ไม่รู้จะปกปิดไปเพื่ออะไร
"รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นยังไง เดี๋ยวก็โดนด่าเอาหรอก"
"เขาเป็นผู้ชายนะ ไม่ด่าผู้หญิงหรอก" พูดเหมือนกำลังให้กำลังใจตัวเอง แต่หลังจากที่ได้คุยกับเขาไม่กี่คำ ก็ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ ถ้าขืนทำอะไรให้เขาไม่พอใจ หรือขัดใจเขามากๆ มีหวังโดนด่าแน่เลย
"กลับบ้านกัน"
"อือ..."
ชะเอมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเพื่อน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับตามปกติ บ้านของเธออยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมาก เธอก็เลยใช้การเดินเท้ากลับเอา ไม่ถึง 10 นาทีเธอก็กลับมาถึงบ้านแล้ว แต่กลับมาด้วยสภาพสีหน้าบูดบึ้งมากกว่าทุกวัน
"พ่อแม่ เอมกลับมาแล้วค่ะ"
"หน้าบูดอะไรขนาดนั้น หือ?" ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม
"ไม่มีอะไรค่ะ วันนี้เอมไม่กินข้าวเย็นนะ มีงานต้องทำค่ะ"
"จ้ะๆ"
หลังจากนั้นชะเอมก็ขึ้นไปด้านบน ก่อนที่เธอจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง นอนมองเพดานสีขาวอยู่อย่างนั้น ที่บอกว่ามีงานต้องทำเธอโกหกแม่ เพราะไม่อยากบอกแม่ว่าที่หน้าบูดกลับมาแบบนี้ก็เพราะผู้ชาย
#สักพักต่อมา
หลังจากที่เหมือนจะคิดอะไรได้ ชะเอมก็รีบหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูในทันที ก่อนที่เธอนั้นจะเลื่อนดูอะไรบางอย่าง และก็ได้เจอกับสิ่งที่เธอกำลังหา
*ชมรมหุ่นยนต์*
เป็นชื่อชมรมที่ไทเธย์เป็นหัวหน้าชมรมของที่นี่ เพื่อนของเธอไปหาเจอและส่งให้เธอดูเมื่อหลายวันก่อน ทีแรกเธอก็ไม่คิดจะเข้าไปหรอก เพราะฟังดูแล้วมันแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอกลับมีความคิดอีกแบบ
เธอจะสมัครเข้าชมรมนี้ เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เธอเข้าใกล้รุ่นพี่ไทเธย์ได้มากที่สุด โดยไม่ต้องหาข้ออ้างใดๆ
#วันถัดมา
ตอนบ่าย ณ ตึกคณะวิศวกรรม
"พะ พี่ไทเธย์! พี่ไท เดี๋ยวก่อนค่ะ เดี๋ยวก่อน!" ชะเอมรีบวิ่งตามหลังพร้อมกับส่งเสียงเรียกดังก้องขณะที่กำลังเดินลงบันได
"มีอะไรอีก?" เขาหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงเย็นอีกเช่นเคย ที่จริงไม่อยากจะคุยด้วยด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอคงได้ตะโกนเรียกจนเขารำคาญ
"เอ่อ...พอดีเอมไปรู้มาว่ารุ่นพี่ไทมีชมรมหุ่นยนต์ด้วย คือเอมชอบชมรมของพี่มาก ก็เลยอยากขอเข้าร่วมชมรมค่ะ" เธอพูดด้วยความมั่นใจและฉะฉาน
"เต็ม"
"....." รู้สึกเหมือนหน้าแตกและร่วงเหมือนเศษกระจกร่วงลงพื้นเลย ขณะที่เธอยังไม่ทันจะได้เก็บกวาดเศษหน้าที่มันแตกอยู่กับพื้น เธอก็นึกอะไรบางอย่างออกขึ้นมาอย่างทันควัน "ตะ แต่ว่าชมรมของพี่มีสมาชิกไม่ถึงสิบคนเลยนะคะ จะเต็มได้ไง?"
"ยุ่งจัง..." เขาพูดเสียงเรียบ สีหน้าและท่าทางเหมือนกำลังรำคาญเอามากๆ
"หา?" ชะเอมเลิกคิ้ว
"เธอน่ะจอมยุ่งจุ้นจ้าน!" เสียงเขาตัดบท ก่อนจะเดินหนีไปอย่างไม่ใยดี
ชะเอมยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง
"จอมยุ่งหรอ จุ้นจ้านเหรอ?" เธอเกาหัวแกรกๆ ไม่เข้าใจว่าเธอจุ้นจ้านตรงไหน แค่ขอเข้าร่วมชมรมเอง ปกติรุ่นพี่มีแต่จะอยากรับรุ่นน้องเข้าร่วมชมรมนี่นา บางคนถึงขั้นทำใบประกาศรับสมัคร นี่อะไรไม่เต็มใจอยากให้รุ่นน้องเข้าร่วมชมรมเลย
เปลี่ยนจากชมรมหุ่นยนต์ เป็นชมรมหัวหน้า introvert ไม่ดีกว่าเหรอ?
แต่แม้จะเป็นแค่คำว่า 'จอมยุ่งจุ้นจ้าน' จากเขา แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันกำลังเริ่มต้นอะไรบางอย่างในหัวใจเธออย่างแปลกประหลาด เหมือนกับว่าเธอกำลังรู้สึกดี กับความแปลกของรุ่นพี่คนนี้
"เป็นยังไงบ้างวะเอม?"
ชะเอมเดินกลับมาแต่ยังไม่ทันที่จะหย่อนก้นนั่งลง เพื่อนก็เอ่ยถามดักก่อนแล้ว
"รุ่นพี่บอกเต็มอ่ะ"
"ห๊ะเต็ม? ชมรมแบบนี้เขารับรุ่นน้องเป็นร้อยๆ คนเลยนะ เต็มไวจัง"
"มีสมาชิกไม่ถึงสิบคน แต่เต็มแล้ว"
ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่งง พูดออกไปแบบนี้เพื่อนสนิทเองก็งงไม่ต่างกัน มันจะเต็มได้ยังไงในเมื่อสมาชิกมียังไม่ถึงครึ่งเลย
"แล้วจะเอายังไงต่อ ไม่สมัครแล้วหรอ"
"ไม่ดิ! เดี๋ยวต้องตามตื๊อ น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อนเลย นับประสาอะไรกับตามตื๊อ เดี๋ยวรุ่นพี่เขารำคาญก็รับเองแหละ"
"คนอื่นอาจจะใช่ น้ำหยดลงหินทุกวันหินกร่อน แต่ไม่ใช่กับรุ่นพี่คนนี้นะกูว่า เพราะหินนี้น่าจะด่ามากกว่ากร่อนให้มึงนะเอม"
"อย่าพูดให้ใจเสียดิ ตะกี้ก็โดนปฏิเสธมา เก็บเศษหน้ามาเกือบไม่หมดแน่ะ"
"หึหึ แล้วยังจะชอบเขาไหม"
"ชอบดิ แปลกๆ แบบนี้ไม่ต้องกลัวใครแย่งดี"