บทนำ.1

1351 คำ
บทนำ เสียงโทรศัพท์ที่ส่งเสียงกรีดร้องอย่างไม่หยุดหย่อนปลุกให้แสนหวานต้องลืมตาตื่นขึ้นในยามวิกาล ร่างเล็กผุดลุกขึ้นนั่ง มือเรียวควานหาโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ที่โต๊ะเล็กข้างเตียงอย่างสะเปะสะปะ คิ้วได้รูปที่พาดเหนือดวงตากลมโตขมวดมุ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก สีหน้าก็ฉายแววหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดเหตุจากถูกรบกวนเวลาพักผ่อน เปลือกตาสีอ่อนที่หนักอึ้งพยายามเปิดขึ้น แต่ชั่วพริบตาดวงตากลมโตพลันเบิกกว้าง เมื่อแสงสว่างวาบบนหน้าจอโทรศัพท์โชว์หมายเลขที่คุ้นเคยเด่นหรา “คุณเมษฐ์” แสนหวานรีบกุลีกุจอกดรับสายเมื่อเห็นว่าปลายสายคือบารเมษฐ์ เจ้านายสุดเนี๊ยบที่ขยับโทร.จิกหาเรื่องไหว้วานให้เธอทำอย่างไม่มีว่างเว้นแม้กระทั่งในช่วงเวลาพักผ่อนอย่างเช่นตอนนี้ แต่ที่แสนหวานอดทนมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะค่าล่วงเวลาที่ได้รับทุกครั้งที่อีกฝ่ายมีเรื่องไหว้วานและความหล่อเหลาแบบลอยมา หล่อแบบเหมือนไม่มีอยู่จริง หล่อแบบเบ้าหน้าฟ้าประทานของท่านประธานบริษัท อย่างน้อยก็ถือเสียว่ามีอาหารตาดีๆ ให้ได้มอง “ค่ะคุณเมษฐ์ มีอะไรให้หวานรับใช้คะ” “ช่วยมารับผมหน่อย” เสียงแปร่งๆ จากปลายสายทำให้แสนหวานรู้ได้ทันทีว่าบารเมษฐ์กำลังเมาอยู่แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แสนหวานต้องทำภารกิจพิเศษเช่นนี้นอกเหนือจากเวลางานปกติ หากนับจากช่วงเวลาปีเศษที่เธอเข้ามาทำงานที่บีเอสกรุ๊ป ครั้งนี้เป็นครั้งที่สิบแล้วกระมังที่เธอต้องไปรับบารเมษฐ์ในยามที่เขาเมามาย “คุณเมษฐ์อยู่ที่ไหนคะ” “ผมอยู่ที่ร้านXXXแถวทองหล่อ” “โอเคค่ะ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงหวานไปถึงแน่นอนค่ะ” “สิบห้านาที” “คะ” “ผมให้เวลาคุณสิบห้านาที อีกสิบห้านาทีผมต้องเห็นคุณ” แสนหวานได้แต่แยกเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่หน้าจอโทรศัพท์ ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างข่มกลั้นโทสะที่คุกรุ่นหน่อยๆ ก่อนจะตอบออกไปเสียงหวานหยดอย่างจงใจพยายามปั้นแต่ง “ได้เลยค่ะคุณเมษฐ์ อีกสิบห้านาทีหวานจะปรากฏกายอยู่ตรงหน้าคุณเมษฐ์ราวกับว่าหวานหายตัวได้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะหวานมีเวทมนตร์” ที่หน้าไนต์คลับดังย่านทองหล่อ แสนหวานถอดหมวกกันน็อคส่งคืนให้วินมอเตอร์ไซค์วัยใกล้เกษียณแต่ยังดูแข็งแรงบึกบึน พร้อมควักเงินจ่ายอีกฝ่ายด้วยท่าทางเร่งรีบ “ขอบคุณนะคะ” บอกแล้วก็จ้ำอ้าวเข้าไปในตัวอาคารหลังใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย บ่งบอกได้ตั้งแต่ทางเข้าร้านว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่ต้องกระเป๋าหนักพอสมควร ร่างเล็กกำลังจะก้าวเข้าไปด้านใน แต่เท้าต้องชะงักเมื่อการ์ดหน้าร้านกางแขนขวางไม่ให้หญิงสาวก้าวเข้าไปด้านในอย่างที่ใจปรารถนา “ขอตรวจบัตรด้วยครับ” น้ำเสียงที่เข้มงวดกับสายตาที่มองมาอย่างกดดันทำให้แสนหวานต้องรีบหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วควักบัตรประชาชนยื่นให้การ์ดตัวโต “อายุยี่สิบห้าแล้วค่ะ” แสนหวานบอกด้วยเสียงประชดประชันหน่อยๆ เธอไม่ได้หงุดหงิดที่ถูกขอตรวจบัตร แต่เป็นเพราะเกรงว่าจะไม่ทันสิบห้านาทีที่บารเมษฐ์ขีดเส้นตายเอาไว้ต่างหาก “ขอโทษทีครับ พอดีเห็นว่าคุณผู้หญิงดูยังเด็ก ผมคิดว่าอายุยังไม่ถึงเกณฑ์เลยต้องเข้มงวดหน่อย ต้องขออภัยจริงๆ ครับ” อารมณ์ที่คุกรุ่นก่อนหน้าปลิวหายไปเป็นปลิดทิ้ง แสนหวานกระแอมในลำคอตอนที่รับบัตรประชาชนมาเก็บใส่กระเป๋า “เข้าใจค่ะว่าพวกพี่ๆ ต้องทำตามหน้าที่ ขอตัวเข้าไปด้านในก่อนนะคะ” “เชิญครับ” แสนหวานเดินคอตั้งบ่าหลังเหยียดตรงเข้าไปในร้านด้วยมาดนางพญาทว่าบนหน้าเรียวนั้นเจือด้วยรอยยิ้ม แต่ครู่เดียวก็รีบสับเท้าตรงดิ่งไปยังมุมประจำของบารเมษฐ์ ซึ่งเจ้าตัวนั่งอยู่ที่โซฟาหรูหราอย่างที่แสนหวานคิดเอาไว้จริงๆ “หวานมาแล้วค่ะ” บารเมษฐ์ที่นั่งก้มหน้าเล็กน้อยในตอนแรกค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นมองเลขานุการสาว สีหน้าของเขาดูเรียบนิ่ง แต่ที่แสนหวานทราบดีว่าอีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมนั่นก็คือนัยน์ตาคมปลาบที่ดูหวานเชื่อมมากกว่าปกติ มองแสนหวานแวบเดียวบารเมษฐ์ก็ก้มลงมองนาฬิการาคาแปดหลักบนข้อมือตัวเอง ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “ตรงเวลาดีนี่” “ค่ะ เลขบัญชีเดิมนะคะหรือถ้าคุณเมษฐ์สะดวกพร้อมเพย์หวานก็ยินดีค่ะ” สายตาของบารเมษฐ์ยังจับจ้องอยู่ที่แสนหวานตอนที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากด้านในเสื้อแจ็คเก็ต บารเมษฐ์ในวันนี้ไม่เหมือนบารเมษฐ์ที่แสนหวานคุ้นตายามที่เขาอยู่ในที่ทำงานที่อีกฝ่ายมักจะสวมชุดสูทที่ตัดเย็บอย่างประณีตและเซ็ทผมอย่างดีชนิดที่ว่าลมแรงๆ ก็ไม่อาจทำให้เส้นผมของท่านประธานหนุ่มเสียทรงได้ ทว่ายามนี้บารเมษฐ์ในวัยสามสิบเอ็ดปีดูราวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แต่งกายด้วยเสื้อยืดคอวีสีขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตยีนส์ กางเกงสแล็คก็ถูกเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าคัชชูที่เข้ากับชุดสูทที่แสนหวานมักจะคุ้นตาก็ถูกแทนที่ด้วยรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดัง และในรูปลักษณ์นี้ของบารเมษฐ์ก็ทำเอาแสนหวานเผลอใจสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ราวกับนายแบบหลุดออกมาต่กปกนิตยสารชัดๆ “มองอะไรขนาดนั้น แพ้ความหล่อของผมเหรอ” นี่คือสิ่งที่บารเมษฐ์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยไม่ว่าเขาจะอยู่ในรูปลักษณ์แบบไหนนั่นก็คือความปากดี ปากร้าย และจิกกัดเก่งราวกับแม่ไก่ แต่ก็เอาเถอะ แสนหวานก็ไม่อาจถกเถียงออกไปได้ ในเมื่ออีกฝ่ายหล่อมากจริงๆ หล่อแบบวัวตายควายล้ม หล่อแบบลูกรักพระเจ้า หญิงสาวแสร้งกระแอมในลำคอเบาๆ แก้เก้อ “โอนเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ หวานจะได้พาคุณเมษฐ์ไปส่งที่คอนโดฯ” แสนหวานรู้ดีว่าบารเมษฐ์พักอยู่ที่ไหน เจ้านายของเธอพักอยู่ที่คอนโดฯ ย่านสุขุมวิทที่ราคาสูงถึงแปดหลัก และเธอก็มีคีย์การ์ดคอนโดฯ ของอีกฝ่ายอยู่ในมือ ไม่ใช่ว่าเธอพิเศษกว่าคนอื่นหรืออะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายจะได้เรียกใช้เธอได้อย่างสะดวกต่างหาก เรียกใช้กันชนิดที่ว่าเธอคือร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่งที่เปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง “ฮึ” บารเมษฐ์กระตุกยิ้มมุมปากเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์ของแสนหวานได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินเข้าพอดี แสนหวานเห็นแจ้งเตือนบนหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังสว่างวาบก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจ เก็บโทรศัพท์แล้วก็รีบขยับเท้าเข้ามาใกล้บารเมษฐ์ให้มากขึ้นกว่าตอนแรก “คุณเมษฐ์เดินไหวไหมคะ ถ้าไม่ไหว…” “ไม่ไหว” แสนหวานยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยคดีบารเมษฐ์ก็เอ่ยแทรกขึ้นมา หญิงสาวรีบปรี่เข้าไปประคองให้บารเมษฐ์ลุกขึ้นยืน จัดแจงให้ท่อนแขนแกร่งข้างหนึ่งพาดอยู่บนไหล่ของตัวเอง “หวานขออนุญาตนะคะ” แสนหวานบอกตอนที่จำเป็นต้องสอดแขนเข้าไปโอบเอวของอีกฝ่ายเพื่อช่วยในการประคองเดิน ส่วนมืออีกข้างก็จับข้อมือของบารเมษฐ์ข้างที่พาดอยู่บนไหล่ของตัวเอง บารเมษฐ์ตอบรับด้วยการพยักหน้าก่อนที่แสนหวานจะประคองบารเมษฐ์ออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม