​​​​​​​ใจเต้นแรง

1460 คำ
มีนากลับมาถึงโรงพยาบาลก็ถึงเวลาอาหารเย็นของนฤดลพอดี หญิงสาวเตรียมราดหน้าใส่จานให้เขาและตัวเองก่อนจะลากโต๊ะคร่อมมาเตียงให้เขา ส่วนตัวเองก็มานั่งทานที่โต๊ะทานข้าว ระหว่างทานนฤดดลก็แอบมองหน้ามีนาไปด้วย เขารู้สึกว่ามีนามีอะไรบางอย่างในใจ แต่ไม่กล้าถามเพราะคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หลังจากทานอาหารพยาบาลมาเช็ดตัวและพาเข้าห้องน้ำอย่างเคย เพราะลำพังมีนาคนเดียวคงไม่สามารถพยุงเขาลงจากเตียงใต้ “ผมขอออกไปข้างนอกไปสุดอาการข้างนอกได้ไหมครับ” นฤดลถามพยาบาลหลังจากที่เขาเข้าห้องน้ำเสร็จและยังนั่งอยู่บนรถเข็น “ได้ครับ คุณดลจะไปไหนเดี๋ยวผมพาไปครับ” “ผมไม่อยากขึ้นไปที่สวนบนดาดฟ้า เขาให้ขึ้นไปใช่ไหมครับ” “ขึ้นได้ครับ” “ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมให้มีนาพาไปเอง” “มีนา ว่าไงพาฉันขึ้นไปได้ไหม” “ได้ค่ะ บนนั้นสวยมากเลยค่ะ อากาศก็สดชื่นมากด้วย” “เคยขึ้นไปแล้วเหรอ” “ค่ะ มีนาขึ้นไปหลายครั้งแล้วตอนที่คุณดลให้พี่พยาบาลเช็ดตัว” “มีนา ถ้าไม่ไหวก็โทรลงมาตาพี่ได้นะ” “ค่ะพี่ก้อง” มีนากับพยาบาลพิเศษที่ชื่อก้องเกียรติเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะเจอกันทุกวัน ประตูลิฟต์เปิดออกบนชั้นดาดฟ้าที่เต็มด้วยต้นไม้และดอกไม้สร้างความสดชื่นให้กับคนที่อุดอู้อยู่แต่ในห้องมานานเกือบสิบวันอย่างนฤดลเป็นอย่างมาก เขาอยากออกจากห้องมาหลายวันแล้ว แต่ติดที่ยังมีสายน้ำเกลือระโยงระยางเต็มไปหมด แต่พอวันนี้เอาสายทุกอย่างออกหมดแล้วจึงได้ขอให้มีนาพาเข้าขึ้นมาด้านบน “ข้างบนนี้สวยเหมือนกันนะ” “ค่ะ สวยแต่เงียบไปหน่อย” “ปกติคนขึ้นมาเยอะไหม” “ถ้าเป็นเวลากลางวันก็เยอะค่ะ แต่ค่ำๆ แบบนี้มีนาก็เพิ่งเคยมาเหมือนกัน” “ฉันจะให้มีนาพามาบ่อยๆ ได้ไหม” “ได้สิคะ มีนารู้ว่าคุณอยู่แต่ในห้องก็น่าจะเบื่อ” เพราะเขาเอาแต่นอนแล้วอ่านเอกสารที่คุณดลฤดีเอามาให้ “แล้วมีนาเบื่อไหม” “ไม่ค่ะ ปกติมีนาไม่ค่อยชอบออกจากบ้านอยู่แล้ว มีนาชอบอ่านหนังสือหรือไม่ก็ดูซีรีส์มากกว่าค่ะ” “ฉันเห็นเธอชอบดูจัง มันสนุกมากเหรอ” “ค่ะ คุณดลอยากดูไหม” “ไม่ละ ฉันคงแก่เกินกว่าจะดูอะไรพวกนั้น” “แก่ที่ไหนคะ คุณดลยังไม่แกเลยนะคะ” “ฉันอายุเยอะแล้วนะ มากกว่าเธอสิบกว่าปีเลยนะมีนา” “มันก็แค่ตัวเลขค่ะ” “ขอบใจนะมีนา” “ขอบใจมีนาเรื่องอะไรคะ” “ก็เรื่องที่เธอมาดูแลฉันไง เธอทำให้ฉันรู้สึกดีนะมากๆ นะ การอยู่โรงพยาบาลของฉันไม่ได้เหงาอย่างที่กลัวเลย” “คุณดลพูดเหมือนจะไม่ให้มีนาดูแลคุณดลต่อ” “เปล่านะมีนา ฉันอยากให้เธอดูแลฉันต่อ” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธเพราะกลัวเธอเข้าใจผิด “คุณดลยังไม่รำคาญมีนาใช่ไหมคะ แล้วถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วให้มีนาไปดูแลต่อที่บ้านได้ใช่ไหมคะ” “ได้สิ แต่อีกหน่อยตอนกลางวันฉันก็ต้องไปทำงาน เธออยู่บ้านจะเหงาไหมล่ะ” “ให้มีนาไปทำงานด้วยก็ได้นะคะ หมอบอกว่ากว่าคุณดลจะลงน้ำหนักได้ปกติอย่างน้อยก็สามเดือน ถึงจะเอาเฝือกแล้วก็ยังต้องใส่ที่พยุงข้อเท้าไว้ด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นมีนาก็จะไปเป็นเบ้คอยรับใช้คุณดลจนกว่าจะเปิดเทอมดีไหมคะ” “เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว สรุปว่าจากนี้จนกว่าจะเปิดเทอมเธอจะอยู่กับฉันตลอดใช่ไหม” “ใช่ค่ะ” “เราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน เพราะฉะนั้นฉันก็อยากจะให้เขาทั้งสองคนเปิดใจคุยกันได้ทุกเรื่อง เธอว่าดีไหมล่ะ” “ค่ะ คุณดลมีอะไรไม่ชอบหรืออยากให้มีนาปรับปรุงเรื่องอะไรคุณดลบอกมีนาได้เลยนะคะ” “ไม่มีหรอก มีนาทำดีแล้ว ทำแผลก็เก่งขึ้น ฉันไม่เจ็บเลย” “จริงเหรอคะ” มีนาดีใจที่เขาไม่เจ็บ อันที่จริงการทำแผลเป็นหน้าที่ของพยาบาล แต่พอมีนาได้ฝึกทำแผลมาแล้วเธอก็เลยขอเป็นคนทำเองโดยมีพยาบาลคอยดูอยู่ใกล้ๆ “จริงสิ” “เรื่องที่คุณดลบอกว่าจะเปิดใจคุยคือเรื่องทำแผลเหรอคะ” “ฉันไม่ใช่คนที่จะเปิดใจแต่เธอต่างหากล่ะมีนา เธอมีอะไรอึดอัดใจหรือเปล่าตั้งแต่กลับมาจากบ้าน ฉันว่าเธอท่าทางแปลกๆ ไปนะ” มีนามองหน้าชายหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายของผู้มีพระคุณอย่างช่างใจ เรื่องที่เธอเจอมาวันนี้เธออยากจะเล่าให้ใครสักคนฟัง ครั้นจะโทรไปหาเพื่อน ตอนนี้ทุกคนก็กำลังเที่ยวช่วงปิดเทอมและเธอก็กลัวว่าเวลาเพื่อนมากินข้าวที่ร้านแล้วมีพิรุธ แต่ถ้าจะเก็บไว้คนเดียวก็รู้สึกอึดอัด ในเมื่อเขาบอกว่าเธอสามารถเปิดใจคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง มีนาก็จะลองคุยกับเขาเรื่องนี้ดีสักครั้ง บางทีการได้พูดออกไปก็คงจะทำให้หายอึดอัด หญิงสาวตัดสินใจเล่าเรื่องที่เธอไปเจอกับกิตติศักดิ์และรวมถึงคำพูดและกิริยาที่เขาแสดงออกต่อเธอให้เขาฟังอย่างไม่มีปิดบังเพราะอยากฟังความคิดเห็นของเขา และอยากจะรู้ว่าในมุมมองของผู้ชายการแสดงกิริยาแบบนั้นมันมีความหมายอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า “มีนาบอกเรื่องนี้กับแม่หรือยัง” “ยังค่ะมีนาไม่กล้าบอก” “แต่มีนาจะหลบเขาแบบนี้ไม่ได้ตลอดนะ” “มีนาจะไม่กลับไปอยู่ที่นั่นแกแล้วค่ะ มีนาตัดสินใจไปอยู่ที่บ้านคุณดลแล้ว พี่ฤดีบอกว่าให้มีนาอยู่ที่นั่นจนเรียนจบ” “แล้วไม่คิดถึงแม่เหรอ” “คิดถึงสิคะ” “แล้วคิดไหมว่าแม่อยู่คนเดียวจะเหงา” “คิดค่ะ แต่แม่ก็ไม่ได้ห้ามถ้ามีนาจะออกมาอยู่ข้างนอก” “ถ้าเธอตัดสินใจแล้วฉันก็ไม่ว่าอะไร แล้วเธอรู้สึกยังไงเวลาที่เขาเข้ามาใกล้” “บอกไม่ถูกค่ะ ทั้งกลัวทั้งขยะแขยง” “เขาใกล้มากแค่ไหน” “ก็ใกล้จนมีนาได้กลิ่นลมหายใจของเขา มันน่าขนลุกมาก” “ลองมานั่งบนตักฉันสิ ฉันจะให้เปรียบเทียบความรู้สึก” “ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้มีนาก็รู้แล้ว คุณดลไม่เหมือนเขาเลยสักนิด” “ไม่เหมือนยังไง ฉันก็ผู้ชายเหมือนกันนะ เธอลองมานั่งบนตักก่อนแล้วค่อยตอบอีกที” “แต่คุณดลเจ็บขาอยู่นะคะ” “กระดูกน่องฉันร้าวแต่ขาฉันไม่เป็นอะไร นั่งแป๊บเดียวไม่เป็นไรหรอก” “ถ้าเจ็บอย่ามาโทษมีนานะคะ” พูดจบหญิงสาวก็มานั่งบนตัดเขา นฤดลใช้มือข้างที่ไม่เจ็บกอดเอวไว้หลวมๆ รั้งให้หญิงสาวพิงมาบนหน้าอกแกร่งด้านที่ไม่มีแผล “ใกล้ฉันแบบนี้ รู้สึกยังไงบ้าง ขยะแขยงไหม” เขากระซิบเบาๆ “ไม่ค่ะ แต่มีนาใจเต้นแรงมาก” “ตื่นเต้นเหรอ” “ประมาณนั้นค่ะ มีนาลุกได้หรือยังคะ” “ขอห้านาทีได้ไหม ขอฉันอยู่แบบนี้ห้านาทีนะมีนา” นฤดล เกยศีรษะลงบนไหล่มน มีนานั่งนิ่ง หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่รินรดต้นคอเธอกลับรู้สึกดีจนอยากให้เขาพิงอยู่แบบนี้ไปนานๆ ชายหนุ่มหลับตานิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนจะปล่อยให้เธอลุกขึ้น ชายหนุ่มเห็นว่ามีนาหน้าแดงซ่านก็เลยไม่ได้พูดอะไรเพราะเหมือนกับว่าหญิงสาวกำลังอายที่ได้ใกล้ชิดกับเขามากขนาดนี้ นฤดลเองก็หาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อครู่ทำไมถึงทำแบบนั้น แต่ถ้าว่าอยากทำอีกไหม เขาตอบได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่า เขาอยากทำเหมือนเดิม อยากใกล้ชิดกับเธออย่างให้เธออุ่นใจว่าอย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังมีเขาอยู่ข้างๆ แม้ว่าสภาพร่างกายของเขามันจะยังไม่เต็มร้อยก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม