คุณดวงกมลและลูกสาวที่เพิ่งกลับมาจากการทานอาหารกลางวัน อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นว่าตอนนี้หน้าห้องของลูกชายมีผู้หญิงสวมชุดนักศึกษานั่งรออยู่ แต่พอเดินเข้ามาใกล้หายสงสัย
“มีนา”
“สวัสดีค่ะคุณดวงกมล คุณฤดี มีนามาเยี่ยมคุณดลค่ะ”
“มาเยี่ยมแล้วทำไมไม่เข้าไปในห้องล่ะ มานั่งอยู่ตรงนี้ทำไมแล้วมาถึงนานหรือยัง”
“มาถึงได้สักพักแล้วค่ะ มีนาไม่กล้าเข้าไปเยี่ยม”
“กลัวอะไร”
“มีนาไม่รู้ว่าเหมาะสมไหมที่มีนามาเยี่ยม มีนาเป็นแค่เด็กทุนไม่ได้เป็นญาติก็เลยไม่กล้าเข้าไปค่ะ”
“หมอไม่ได้ห้ามเยี่ยมสักหน่อยเข้าไปเถอะ” ดลฤดีชวน
หญิงสาวเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยที่ตอนนี้บนเตียงมีผู้ชายร่างสูงนอนอยู่ แขนของเขาเข้าเฝือกยาวตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก ส่วนจุดอื่นเธอไม่เห็นบาดแผลเพราะเขาห่มผ้าไว้
“คุณฤดีคะ มีนาถามได้ไหมว่าคุณดลเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกจ้ะ ก็แค่กระดูกแขนกับกระดูกหน้าแข้งและกระดูกข้อเท้าร้าว แล้วก็มีแผลไฟไหม้ที่หัวไหล่”
“ไฟไหม้เหรอคะ มีนานึกว่าคุณดลโดนรถชน” ตอนที่คุยกับพี่ชบาเธอรู้แค่ว่าเขาเกิดอุบัติเหตุก็คิดเอาเองว่าจากรถยนต์
“จ้ะ พอดีไฟไหมที่โรงงานน่ะ แล้วมีนารู้ได้ยังไง”
“เมื่อวานพี่ชบาไปที่ร้านค่ะ มีนาเป็นห่วงก็เลยมาเยี่ยม มีนาขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้ซื้ออะไรมาเยี่ยมเลย”
“ขอบใจจ้ะ แค่มาเยี่ยมก็พอแล้ว ของเยี่ยมน่ะเยอะแยะไปหมด” ดลฤดีชี้ไปยังมุมห้องที่มีกระเช้าของเยี่ยมอยู่เต็มไปหมด
“นี่ยังแบ่งให้พยาบาลไปหลายกระเช้าแล้วนะ แล้วยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลยจะต้องกลับไปเรียนไหม” คุณดวงกมลถามอย่างเอ็นดู
“ไม่ต้องแล้วค่ะ มีนาสอบเสร็จวันนี้วันสุดท้ายพอดี”
“เรียนปีไหนแล้วนะมีนา” คุณดวงกมลถามต่อ
“ปี 2 แล้วค่ะคุณท่าน”
“อีกแค่สองปีเอง ตั้งใจเรียนนะ แล้วเมื่อไหร่จะเลิกเรียกป้าว่าคุณท่านสักที คนอื่นที่ได้ทุนเขาเรียกป้ากันทั้งนั้น มีแต่มีนานี่แหละเรียกคุณท่านตลอด ฟังดูเหมือนเราห่างเกินกว่าคนอื่นเลยนะ”
“มีนาเกรงใจนี่ค่ะ”
“จะเกรงใจอะไร ต่อไปเรียกป้านะ แล้วก็เรียกพี่ฤดี ไม่ต้องเรียกคุณแล้ว”
“ได้เหรอคะ”
“ได้สิ ป้าอนุญาต”
“ขอบคุณค่ะ”
“มีนา หนูปิดเทอมกี่เดือน” ดลฤดีถาม
“4 เดือนค่ะ ตอนแรกมีนาว่าจะไปทำงานพิเศษ แต่แม่บอกให้มีนามาถามพี่ฤดีก่อนค่ะว่ามีงานอะไรให้มีนาช่วยทำไม แต่ไม่ให้รับเงินค่าจ้างนะคะ”
“ถ้ามาช่วยงานก็ต้องได้ค่าจ้างสิ เดี๋ยวพี่ดูก่อนนะว่ามีอะไรที่มีนาช่วยได้บ้าง”
“ถ้าไม่มีงานที่เหมาะสมให้มีนาทำ มีนาช่วยเฝ้าคุณดลให้ก็ได้นะคะ” มีนารีบอาสา
“ดีเหมือนกันนะ ให้มีนาช่วยเฝ้าอีกคน” คุณดวงกมลเห็นด้วยกับความคิดเด็กสาว ถึงแม้ว่าเธอจะจ้างพยาบาลพิเศษไว้แล้ว แต่ก็มีบางอยากที่อยากหาใครสักคนคอยอยู่ใกล้ๆ เพราะเรื่องไฟไหมโรงงานเธอก็ยังหาคนผิดไม่ได้ แต่ครั้นจะจ้างคนอื่นก็กลัวว่าเรื่องจะไปเป็นความลับ
“มีนาไหวแน่นะ”
“ค่ะ”
“ถ้าอยากดูแลจริงๆ เดี๋ยวพี่จะให้มีนาคุยกับคุณพยาบาลดูนะว่าต้องดูแลยังไงบ้าง มีนาไม่กลัวเลือดใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ดี เพราะบางทีมีนาอาจจะต้องเป็นคนทำแผลให้ เดี๋ยวตอนเย็นพยาบาลจะมาเปลี่ยนผ้าก๊อซ มีนาก็ดูตัวอย่างไว้ ถ้าคิดว่าไหวพี่จะให้ไปฝึกทำแผลเพิ่ม”
“ค่ะพี่ฤดี”
“เดี๋ยวพี่กับแม่จะคุยกับหมอนะ มีนาอยู่เฝ้าพี่เขาไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็กดออดที่หัวเตียงนะ”
หลังจากทั้งสองคนเดินออกไปแล้วมีนาก็ยืนมองหน้านฤดลอย่างไม่ยอมละสายตา มันนานมาแล้วที่เธอไม่เจอเขา จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เจอก็ตอนที่เธอเรียนจบชั้น ม.6 แม้เวลาจะผ่านมาสองปีแล้วแต่ดูเหมือนหน้าของเขาจะไม่แก่เลยสักนิด
ไม่รู้ว่าเผลอจ้องเขานานไปหน่อยจนเขารู้สึกตัวตื่นหรือเพราะถึงเวลาที่เขาตื่นกันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือตอนนี้เขากำลังมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“เธอ...” นฤดลตกใจที่ตื่นมาก็เจอกับหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน ดวงตากมลโตกำลังจ้องมองอยู่
“คุณดลตื่นแล้วเหรอคะ”
“ใช่สิ ฉันตื่นแล้ว แล้วเธอเป็นใคร มาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง เป็นพยาบาลเหรอ” เขาถามพลางสำรวจหญิงสาวตัวแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง
ผู้หญิงคนนี้เขาคุ้นหน้ามาก แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน เธอยังสาวชุดนักศึกษาอยู่ก็ไม่น่าจะใช่พยาบาล เพราะเมื่อเช้าพยาบาลที่มารดาของเขาจ้างมาเฝ้าไข้ขอลาช่วงบ่าย
“คุณดลจำมีนาไม่ได้เหรอคะ” เสียงถามแผ่วเบาเมื่อคิดว่าเขาจำตนเองไม่ได้ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะได้คุยกันเป็นการส่วนตัวแต่ก็เคยเจอกันอยู่หลายครั้ง
“มีนาเองเหรอ ขอโทษที ฉันไม่เจอเธอนานก็เลยนึกไม่ออก” ใช่เขานึกไม่ออก แต่พอเธอบอกชื่อก็เลยรู้ว่าหญิงสาวเป็นหนึ่งในเด็กทุนที่มารดาเขามอบให้ ก็เมื่อก่อนเธอไม่ได้สวยขนาดนี้หรือเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจมองกันแน่
“ไม่เป็นหรอกค่ะ เราไม่ค่อยได้เจอกัน คุณดลจำไม่ได้ก็ไม่แปลก”
“ฉันว่าเธอสวยขึ้น ฉันเลยจำไม่ได้ แล้วนี่มาเยี่ยมฉันเหรอ”
“ค่ะ มีนามาเยี่ยม” หญิงสาวตอบแต่ไม่กล้าสบตาคมคู่นั้น ตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากออกเพราะได้ยินเขาชมว่าสวย
“ช่วยปรับเตียงให้หน่อยได้ไหม นอนคุยไม่ถนัดเลย”
“ค่ะ” มีนาเดินมาปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น ก่อนจะขยับเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียง
“ไม่เจอกันนานเลย น่าจะสองปีแล้วนะ แม่เป็นไงบ้างสบายดีไหม ฉันขับรถผ่านเห็นที่ร้านขายดีตลอด”
“แม่สบายดีค่ะ คุณดลเจ็บตรงไหนบ้างคะ” มีนายิ้มออกเมื่อเขาพูดถึงแม่เพราะนั้นหมายความว่าเขาจำเธอได้จริงๆ หญิงสาวจึงชวนเขาคุยต่อ
“ก็เจ็บหลายที่อยู่เหมือนกันทั้งขาท่อนล่าง ข้อเท้า แขนแล้วก็แผลที่หัวไหล่”
“ก่อนที่คุณดลจะตื่นมีนาบอกแม่คุณดลว่าจะเฝ้าคุณดลเอง”
“แต่แม่ฉันจ้างพยาบาลแล้วนะ ไม่รบกวนเธอหรอก”
“มีนารู้ แต่มีนาก็อยากเฝ้า เผื่อว่าพยาบาลไม่ว่างเหมือนตอนนี้ไงคะ”
“มาเฝ้าฉันแล้วไม่ไปเรียนเหรอ” นฤดลมองคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาแล้วถามขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอสวมชุดแบบนี้ เมื่อนึกย้อนไปตอนที่เธอยังอยู่ในชุดนักเรียนมันแตกต่างกันจนเขาได้แต่มองอย่างชื่นชม มีนาสวยขึ้นมากและไม่ใช่แค่สวยเพียงอย่างเดียวหากแต่รูปร่างของเธอก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน
หญิงสาวไม่ได้สูงเก้งก้างอย่างเดิมแต่หุ่นของเธอมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ใครเห็นก็ต้องมองอย่างห้ามไม่ได้
“สอบเสร็จแล้วค่ะ”
“ถ้าเธอมาเฝ้าฉันเธอจะได้อะไร ปิดเทอมทั้งทีเธอน่าจะพักผ่อนนะมีนา”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ให้มีนามาเฝ้านะคะ รับรองจะไม่กวนใจคุณดลค่ะ”
“งั้นก็ตามใจ” ที่นฤดลยอมให้มีนามาเฝ้าเพราะเขาอาจจะต้องให้เธอช่วยเหลืองานเอกสารบางอย่าง เนื่องจากตัวเองคงยังทำอะไรไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่