ตอนที่ 20 อำนาจ

1892 คำ
ห้องพักพิเศษในโรงพยาบาล เสียงเครื่องวัดชีพจรดัง ติ๊ด~ ติ๊ด~ สม่ำเสมอ ธีร์ยังคงนอนนิ่งสงบด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว เขาถูกย้ายให้ออกมาอยู่ในห้องพักพิเศษที่ญาติสามารถมาคอยเฝ้าดูแลได้แล้ว ถึงแม้อาการจะดีขึ้นมากแต่เขาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้นมาเลย จากวันที่เกิดอุบัติเหตุ จนกระทั่งตอนนี้ มันก็หลายวันแล้ว ขนมหวาน นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่างสายตานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย และความหวังที่เขาจะฟื้นขึ้นมาในเร็วๆ นี้ ตอนกลางวันเธอจะคอยดูแลเขาอยู่ที่นี่ ตกเย็นก็จะกลับไปเลี้ยงลูกอยู่ที่เพ้นท์เฮ้าส์ เพราะเขายังเด็กเกินกว่าที่จะมาคลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาล และเธอก็ไม่อยากให้ลูกเสียงดังรบกวนด้วย ลูกน้องของธีร์ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องสองสามคนผลัดเปลี่ยนกันอยู่ทุกวันเช้าเย็น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างกับกำลังรักษาหัวหน้าแก๊งไว้ทั้งชีวิต เพราะขนมหวานได้ยินแว่วๆ มาจากคนสนิทว่า รถพ่วงคันนั้นไม่ได้เสียหลัก แต่ตั้งใจที่จะวิ่งย้อนศรทางตรงมาเลยมากกว่า "พักผ่อนสักหน่อยไหมครับนายหญิง หักโหมไปไม่ดีนะครับ" "ไม่เป็นอะไร ฉันปกติดี" "อันที่จริง นายน้อยสามารถมาที่โรงพยาบาลได้นะครับ แค่ไม่ต้องอยู่นาน" "ฉันรู้ แต่ฉันไม่อยากให้เขาเสียงดัง และฉันก็ไม่อยากให้ลูกเห็นด้วย ถ้าเขาเห็นพ่อเขาเรียกแล้วพ่อเขาไม่ตอบ คงร้องไห้เสียงดัง" "ฮ่ะฮ่ะ นั่นน่ะสิครับ ผมลืมคิดไปเลย" เลขาคนสนิทได้แต่หัวเราะแห้งๆ เพราะที่ขนมหวานพูดมามันก็มีเหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ดีเลยทีเดียวแหละ "เรื่องคดีไปถึงไหนแล้วคะ" "ตำรวจกำลังจัดการครับ" "ฉันอยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้ และก็ให้เขาถูกลงโทษอย่างถึงที่สุด" "ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พวกเราก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว" "จริงๆ เวลาพูดอะไรไม่ต้องปิดบังฉันก็ได้นะ ธีร์ยอมรับกับฉันหมดแล้วแหละ ว่าเขาเป็นใคร ทำงานอะไรบ้าง" "เอ่อ...ครับ" เลขาคนสนิททำหน้าเหวอเล็กน้อย แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ เพราะอยู่กับเจ้านายมานาน เลยรู้จักนิสัยใจคอของเขาดีและก็รู้ดีว่าเรื่องแบบนี้เขาไม่ใช่คนที่จะพูดออกไปง่ายๆ "เขาไม่อยากโกหกฉัน ไม่อยากปิดบัง กลัวว่าจะมีปัญหา ถ้าวันหนึ่งฉันรู้ความจริงขึ้นมาจากปากของคนอื่น" "ครับ" "ฉันถามอะไรหน่อยสิ" "ถามมาได้เลยครับ" "ธีร์เขาอายุน้อยจะตายไป ดูยังไม่เหมาะจะทำธุรกิจหรือเป็นเจ้านายใครเลย ทำไมพวกคุณถึงเคารพกันนักล่ะ" "เพราะเขาเป็นเจ้านายที่ดีครับ" "......" ขนมหวานเงียบ ความจริงเธออยากรู้เรื่องนี้มานานแล้วแหละ แต่ถ้าถามกับเจ้าตัวเลยเขาก็คงไม่รู้เรื่องอะไร ก็เลยต้องมาถามเอากับคนของเขา เพราะในบรรดาทุกคนเขาคือคนที่อายุน้อยสุด และก็เป็นเจ้านายของทุกคนด้วย ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะอายุเท่านี้เอง "กว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ นายก็ผ่านอะไรมาตั้งเยอะนะครับ ถ้าให้ผมตอบตรงๆ ผมก็คงพูดว่า นี่คือสิ่งที่เหมาะสมแล้วที่เขาจะได้รับครับ" "อื้ม...ฉันก็คิดแบบนั้นจริงๆ เขาคงผ่านอะไรมาเยอะ และนี่คือสิ่งตอบแทนที่เขาควรจะได้รับมัน เพราะมันเหมาะสมแล้ว" "ครับ" "เมื่อไหร่เขาจะฟื้น นอนนานไปแล้วหรือเปล่า" "น่าจะเพราะเสียเลือดมากครับ ตามที่หมอบอก" "ฉันอยากให้เขาฟื้น ไม่อยากให้เขานอนนิ่งเป็นผักแบบนี้เลย" "ผมก็เหมือนกันครับ" "อันที่จริง ฉันก็อยากเฝ้าเขาทั้งวันทั้งคืนเหมือนกันนะ แต่ฉันก็ยังมีลูกที่ต้องดูแล" "เชื่อผมเถอะครับ นายเข้าใจนายหญิงอยู่แล้ว" "ใช่ ไม่ว่าเรื่องอะไร เขาก็เข้าใจฉันหมดแหละ ไม่มีเรื่องไหนหรอกที่ไม่เข้าใจ ต่อให้เรื่องนั้นตัวเองไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม" ขนมหวานพูดพร้อมกับน้ำตาคลอ นึกถึงตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เธอชอบทำอะไรประชดประชันเขา เขาก็เลือกที่จะทำแบบเข้าใจที่เธอเป็นแบบนี้ เข้าใจและยอมรับ ไม่เถียง ไม่โต้ตอบ ไม่ทำร้าย ไม่ทำอะไรเลย นอกจากปล่อยให้เธอเป็นไปแบบนั้น จนถึงตอนนี้เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนเราจะสามารถรักใครภายในชั่วข้ามคืนได้ขนาดนี้เลยเหรอ แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ มันก็อาจจะมีก็ได้ อย่างที่เขาเรียกกันว่ารักแรก รักแท้ แค่เจอหน้ากันแค่เสี้ยววินาทีก็จำได้และหลงรักไปแล้ว มันก็อาจจะมีแหละ แต่ก็คงเป็นส่วนน้อย ที่จะรักกันก่อนแล้วค่อยศึกษาดูใจทีหลัง "ตอนที่ฉันกลับไปแล้ว ถ้าธีร์ฟื้นขึ้นมา ฉันรบกวนโทรหาฉันหน่อยนะคะ ต่อให้ดึกก็ตามโทรมาเถอะไม่เป็นไร" "ได้เลยครับ" @ด้านนอกห้องพักพิเศษ เสียงรองเท้าส้นสูงกระแทกพื้นดังมาจากทางเดินก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกอย่างแรง ตามด้วยร่างของหญิงวัย 50 ต้นๆ เดินเข้ามาภายในห้องด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่พอใจ "นี่เธอยังไม่กลับไปอีกเหรอ ใครใช้ให้เธอเสนอหน้าอยู่ที่นี่" "คุณหญิงครับ อย่าเสียงดังครับ" "ฉันรู้ไม่ต้องมาบอก!" "ฉันก็แค่มาเฝ้าธีร์ แต่เดี๋ยวก็กลับไปดูลูกแล้วค่ะ" ขนมหวานตอบ "ก็กลับไปซะสิ ทางที่ดีพาลูกของเธอออกไปจากชีวิตของลูกชายฉันด้วยจะยิ่งดีเลย" "เสียใจด้วยค่ะ เพราะลูกของฉันเขายังต้องการพ่อ" "หน้าด้าน! ทำให้ลูกฉันกลายเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะมีหน้าอยู่อีก" "แล้วแต่คุณหญิงจะคิดเถอะค่ะ ฉันไม่อยากอธิบายแล้ว พูดกับคนที่ไม่รับฟังเหตุผล เสียเวลาเปล่าค่ะ" "นี่เธอ!" "ถ้าจะมาเสียงดัง รบกวนออกไปเถอะนะคะ ธีร์ต้องการความเงียบเพื่อพักผ่อน" "แกนั่นแหละที่ต้องออก ฉันเป็นแม่ของเขา! แกมันก็แค่ผู้หญิงที่ทำให้ลูกฉันเกือบตาย!" "เชิญค่ะคุณหญิง" ลูกน้องของธีร์หันมองหน้ากันเหมือนกำลังคิดหนัก แต่แล้วก็เหมือนจะตัดสินใจได้ในทันที เพราะธีร์เคยสั่งเอาไว้ว่า ขนมหวานคือคนที่มีอำนาจเทียบเท่ากับเขา ไม่ว่าเธอจะสั่งอะไรก็ให้ทำตาม และให้เคารพเธอเหมือนกับที่ทุกคนเคารพเขา "เชิญครับคุณหญิง" "นะ นี่เธอกล้าทำแบบนี้กับฉันเลยเหรอ?" "ถ้าคุณหญิงจะยังเสียงดังไม่หยุด และพยายามที่จะให้ฉันเป็นคนผิดให้ได้ ฉันก็คงต้องทำแบบนี้ค่ะ" "อย่ามาจับ!" คุณหญิงหันไปตวาดใส่ลูกน้องของธีร์ที่จะเข้ามาจับตัวคุณหญิงตามคำสั่งของขนมหวาน "ฉันเป็นแม่ของเขานะ แม่ที่คลอดเขาออกมา ถ้าเขารู้ว่าพวกแกทำแบบนี้กับฉัน เขาไม่ปล่อยพวกแกเอาไว้แน่" "เชื่อเถอะค่ะ ว่าธีร์คงอยากให้ฉันทำแบบนี้เหมือนกัน ที่ผ่านมาคุณหญิงก็เห็นแล้วนี่คะ" "นี่ลูกของฉันไปหลงรักงูพิษอย่างแกได้ยังไง" "......" "แกมันงูพิษชัดๆ งูพิษที่พยายามจะทำร้ายครอบครัวของฉัน พยายามที่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก คงคิดจะให้ธีร์ตัดขาดจากฉันจริงๆ สินะ เธอจะได้ฮุบเอาสมบัติทุกอย่างไป" "คนอย่างฉันในสายตาของคุณหญิง ก็ไม่เคยดีอะไรอยู่แล้วนี่คะ ไม่ว่าฉันจะพยายามอธิบาย หรือพยายามพิสูจน์ตัวเอง คุณหญิงก็ยังมองว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจคนนึง" "ก็มันเรื่องจริงแกจะให้ฉันคิดยังไง" "พี่คะ พาคุณหญิงออกไปเถอะค่ะ" "ครับนายหญิง" "ปล่อยนะ! ฉันไม่ออกไป! พวกแกไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับฉันแบบนี้! ปล่อยนะ!" คุณหญิงถูกหิ้วปีกออกไปจากห้องพักพิเศษ ทุกอย่างเงียบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่คุณหญิงออกไป ขนมหวานได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง เธอไม่รู้ว่าจะต้องรับศึกหนักแบบนี้อีกนานแค่ไหน และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเป็นที่ยอมรับของแม่สามี เธอก็แค่อยากทำให้คุณหญิงเห็นว่า เธอไม่ได้ต้องการเงินหรือทรัพย์สมบัติ เธอก็แค่ต้องการมีชีวิตอยู่กับคนที่เธอรักอยู่กับครอบครัวที่เธอมี มันก็แค่นั้นเอง "เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วล่ะค่ะ ฝากคุณเลขาดูทางนี้ต่อด้วยนะคะ" "ได้ครับไม่ต้องเป็นห่วง" "เฮ้อ...ฉันเหนื่อยจังเลยค่ะ ถ้าต้องมาเจออะไรแบบนี้ทุกวัน ฉันคงเป็นประสาทตายก่อน" "ใจเย็นนะครับ คุณหญิงก็แค่มีอคติอยู่" "แต่ก็เป็นอคติที่เกาะแน่นเลยนะคะ ไม่ยอมปล่อยวางเลย ไม่ยอมรับเลยว่าความสุขของลูกคืออะไร" "ไม่ทราบว่า คุณหญิงเคยเห็นหน้าหลานหรือยังครับ" "ยังหรอกค่ะ ตั้งแต่คลอดคุณหญิงก็ไม่เคยมาดูเลย ธีร์เองก็ไม่เคยพาไปให้แม่เขาเห็น คงกลัวแหละค่ะ เลยไม่อยากยุ่งอะไรด้วยอีก" "ผมว่าถ้าคุณหญิงได้เห็นหน้าหลาน อคติทุกอย่างมันอาจจะหายไปก็ได้นะครับ คนแก่มักจะเด็กอยากเลี้ยงหลาน อยากเห็นหน้าหลาน อาจจะใจอ่อนก็ได้นะครับถ้าได้เห็น" "เรื่องนั้นน่ะ เอาไว้ก่อนเถอะค่ะ ฉันไม่มีกระจิตกระใจไปทำอะไรแบบนั้นหรอก ฉันอยากให้ธีร์รีบฟื้นขึ้นมาก่อน" "ครับ" "ฝากดูแลทางนี้ต่อด้วยนะคะ และถ้าคุณหญิงอยากจะเข้ามาเยี่ยมลูกชายก็ปล่อยเขาเถอะค่ะ ฉันให้คนพาออกไปเพราะคุณหญิงเสียงดังมากกว่า กลัวจะรบกวนการพักผ่อนของธีร์ ถึงจะอยากให้เขาฟื้นก็เถอะ แต่ฉันอยากให้เขาฟื้นเพราะสภาพร่างกายดีขึ้นแล้วมากกว่า ไม่ใช่เพราะมีคนมาเสียงดังรบกวน" "ครับ ให้ผมไปส่งไหมครับ" "ไม่เป็นไร ฉันมีคนขับรถมาให้ คนของธีร์แหละ" "ถ้าอย่างนั้นก็เดินทางปลอดภัยนะครับนายหญิง" "ถ้าเขาฟื้นแล้ว รีบโทรหาฉันเลยนะเข้าใจหรือเปล่า" "รับทราบครับนายหญิง" ใจจริงเธอก็ไม่ได้อยากกลับเลย อยากคอยดูแลเขาใกล้ๆ คอยเช็ดตัวให้จนกว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา แต่เธอก็ยังต้องกลับไปดูลูกน้อยอยู่ดี เรื่องที่เลขาคนสนิทของเขาพูด เธอเองก็เอากลับมาคิดเหมือนกัน ถ้าคุณหญิงได้เห็นหน้าของหลานที่หน้าตาคล้ายคลึงกับพ่อของเขาอย่างกับแกะ อาจจะใจอ่อนยอมรับในความสัมพันธ์นี้ก็ได้ และไม่บังคับให้ธีร์ต้องไปแต่งงานกับใครที่ไม่รู้จักอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม