สักวันคงได้เจอกัน

1435 คำ
คุณสุกัญญาแจ้งเรื่องรับพนักงานใหม่ไปยังแผนกบุคคลเพื่อจัดเตรียมเอกสารและสัญญาต่างๆ ไว้รอหญิงสาวที่จะมาทำงานในวันจันทร์ หลังจากคุยกับหัวหน้าฝ่ายบุคคลเสร็จแล้วเธอก็เดินกลับมาจากแผนกระหว่างนั้นก็เจอกับภาวินท์เจ้าของบริษัทที่ออกจากห้องประชุมมาพอดี “สวัสดีค่ะคุณภาวินท์” “สวัสดีครับพี่สุ เรื่องรับพนักงานฝ่ายบัญชีเป็นยังไงบ้าง” เขาเรียกสุกัญญาด้วยความสนิทสนมเพราะเธอเป็นพนักงานสิบคนแรกที่เขารับเข้ามาทำงานตั้งแต่เปิดบริษัท ชายหนุ่มนับถือสุกัญญาเสมือนพี่สาวคนหนึ่ง “สุเรียกเข้ามาคุยวันนี้แล้วค่ะ” “แล้วเป็นยังไงบ้างครับถูกใจพี่สุหรือเปล่า” “พี่ว่าเด็กคนนี้หน่วยก้านใช้ได้เลยนะคะเธอเคยทำงานในบริษัทXXXมาก่อน” สุกัญญาบอกข้อมูลของพนักงานคนใหม่ให้กับเจ้านายได้รับทราบ “ถ้าเธอเคยทำงานในบริษัทใหญ่ขนาดนั้นแล้วทำไมถึงมาสมัครที่บริษัทเราล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าพี่สุสืบดูแล้วใช่ไหม” “พี่สืบดูแล้วค่ะ ในส่วนของการทำงานเธอเป็นคนทำงานใช้ได้เลยทีเดียวหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่นั่นพี่ก็พอรู้จักอยู่บ้าง” “แล้วเขาบอกไหมครับว่าทำไมเธอถึงลาออกแล้วมาทำงานกับเรา” “จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันเป็นความลับของพนักงานแต่พี่จะบอกคุณภาวินท์ก็ได้เพราะยังไงคุณก็เป็นเจ้านาย” “ความลับอะไรเหรอครับพี่สุ” “ก็คือเธอเลิกกับแฟนน่ะ ก็เลยไม่อยากทำงานที่เดียวกับแฟน” “ถ้าเธอแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออกแบบนี้ ผมกลัวว่าถ้าเกิดมาทำงานที่นี่แล้วทะเลาะกับแฟนขึ้นมาเธอจะไม่ลาออกอีกเหรอครับพี่สุ” ภาวินท์กลัวว่าพนักงานใหม่จะมีปัญหาและเขาก็ไม่อยากจะเปลี่ยนพนักงานบัญชีบ่อยๆ “ถ้ามีแฟนแล้วเลิกกันธรรมดาก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะแต่เท่าที่พี่ฟังมาคือแฟนของเธอคบกับอีกคนหนึ่งในบริษัท ถ้าเจอแบบนี้พี่ก็คงจะลาออกเหมือนกันใครจะทนมองแฟนเก่ากับแฟนใหม่ได้ทุกวันล่ะคุณภาวินท์ว่าจริงไหม” “ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็น่าเห็นใจเธอเหมือนกันนะครับ ผมถึงไม่มีแฟนไงล่ะมีแล้วปวดหัวเปล่าๆ” “ถึงคุณภาวินท์จะไม่มีแฟนแต่เดี๋ยวคุณท่านก็คงจะหาแฟนให้คุณภาวินท์เองแหละค่ะ” “พี่สุอย่าพูดแบบนั้นสิผมยิ่งกลัวๆ อยู่” “พี่พูดความจริงคุณภาวินท์พร้อมทุกอย่างแล้วพี่ว่าควรจะมีครอบครัวได้แล้ว” “ผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลย” “เปิดใจหน่อยสิคะ ถ้าคุณภาวินท์ยังไม่คบหาใครเดี๋ยวคุณท่านก็ต้องหาผู้หญิงมาให้ พี่พูดแบบนี้พูดในฐานะคนที่รู้จักกับคุณมานานอย่าโกรธกันนะคะ” “ผมไม่โกรธพี่สุหรอกครับพี่สุก็เหมือนพี่สาวของผมคนหนึ่ง” “ถ้าไม่อยากให้คุณท่านหาแฟนให้จะให้พี่ช่วยหาก็ได้นะคะ” “แม่ผมต้องให้พี่สุมาพูดเรื่องนี้กับผมแน่ๆ เลย ผมไม่อยากจะคุยกับพี่สุแล้วขอตัวก่อนนะครับ ว่าจะเข้าไปดูโครงการบ้านจัดสรรสักหน่อย” “ทำไมเดี๋ยวนี้คุณภาวินท์ไปดูโครงการเองบ่อยจังคะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าแล้วโฆษิตล่ะคะ” “เพลิงมีปัญหาทางบ้านนิดหน่อยนะผมเลยไปดูงานแทน” “แบบนี้ก็คงเหนื่อยแย่ พี่ว่าคุณภาวินท์น่าจะหาผู้ช่วยสักคนเวลาออกไปดูไซต์งานจะได้ไม่ต้องขับรถเองให้เหนื่อย” “ผมไม่อยากยุ่งยากนะครับพี่ ไปทำงานคนเดียวมันคล่องตัวกว่า อีกอย่างผมก็มีเลขาที่คอยรับงานอยู่ที่ออฟฟิศแล้วถ้ารับผู้ช่วยมาเพิ่มอีกก็เกรงว่าหน้าที่จะซ้ำซ้อนกัน” “นั่นสิคะ พี่ก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลยถ้ายังไงคุณภาวินท์ก็หาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ” “ขอบคุณครับพี่สุ แต่พรุ่งนี้ก็เสาร์อาทิตย์แล้วผมคงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ว่าแต่พนักงานคนใหม่จะเข้ามาเริ่มงานได้ตอนไหนล่ะ” “เธอจะเข้ามาวันจันทร์ค่ะ” “เร็วอย่างงั้นเชียวเหรอครับ” “ก็เธอว่างงานมาถึงสองเดือนแล้วนะ พี่สังเกตว่าเธอมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเริ่มงาน” “ผมหวังว่าคนที่รับเข้ามาใหม่จะช่วยงานพี่สุได้มากนะครับ” “พี่เองก็หวังอย่างนั้นเหมือนกันพนักงานบัญชีที่ทำงานเก่งๆ มีความซื่อสัตย์และทำงานเข้าขากันได้ดีมันหายาก” “ผมเห็นด้วยกับพี่นะครับ” “พี่ยังนึกเสียดายอยู่เลยที่หญิงเขาลาออกไปแบบนั้น” สุกัญญาหมายถึงพนักงานชื่อหญิงที่ลาออกไปอย่างกะทันหันเพราะจะไปแต่งงานกับแฟนหนุ่มและย้ายตามไปทำงานที่ต่างจังหวัด “มันก็ไม่แน่นะครับพี่สุบางทีพนักงานคนใหม่ที่พี่สุรับเข้ามาทำงานครั้งนี้จะทำงานได้ดีกว่าคนที่ลาออกไปก็ได้” “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิเพราะพี่รู้สึกถูกชะตากับเธอมากๆ” “ผมชักอยากจะรู้จักพนักงานคนใหม่แล้วสิ ถ้ายังไงมีโอกาสผมจะแวะไปที่แผนกนะ” “ให้พี่พาเธอมาแนะนำให้คุณภาวินท์รู้จักดีไหม” “ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวคนอื่นจะมองว่าเธอมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เอาไว้ผมจะแอบไปสังเกตเองก็แล้วกัน” “ได้ค่ะถ้ายังงั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อคุยกับสุกัญญาเสร็จแล้วภาวินท์ก็ลงมายังลานจอดรถเขาขับรถไปดูโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีปัญหาเมื่อครั้งก่อนชายหนุ่มคุยกับโฟร์แมนอยู่พักใหญ่ก่อนจะเข้าไปนั่งพักในตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นออฟฟิศชั่วคราว ภาวินท์ดูรายงานต่างๆ รวมถึงสรุปความคืบหน้าของการก่อสร้างแล้วสีหน้าก็เครียดเพราะโครงการล่าช้าไปกว่าที่คิดเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาฝนตกอย่างหนักทำให้การก่อสร้างทำได้อย่างไม่เต็มที่ ฤดูฝนถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการทำงานลักษณะนี้แต่จะให้หยุดทำไปเลยมันก็เป็นไปได้ยากเพราะคนงานยังต้องกินต้องใช้จะให้หยุดอยู่บ้านเฉยๆ ระหว่างฤดูฝนก็คงเป็นไปไม่ได้ ชายหนุ่มตรวจเอกสารบางอย่างเสร็จจากนั้นเขาออกมาเดินดูคนงานและแวะคุยกับโฟร์แมนอีกเล็กน้อยก่อนจะขับรถออกมาจากโครงการ ภาวินท์จอดรถที่หน้าก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมแต่ยังไม่ลงจากรถเพราะเขาจะรอเจอผู้หญิงคนเมื่อวานซึ่งเขาพลาดมากที่ไม่ได้ถามชื่อและขอเบอร์โทรศัพท์เธอไว้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงอยากจะเจอเธออีกครั้งบางทีอาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มกับดวงตากลมโตที่เห็นแล้วรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลองทำความรู้จักเธอดู ภาวินท์นั่งอยู่ในรถนานนับชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นเธอมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ชายหนุ่มจึงคิดว่าจะมาดักรอเจอเธออีกครั้งในวันอื่นเพราะตอนนี้เขาทั้งเหนื่อยและง่วงอยากจะพักผ่อนเต็มทีเนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาทำทั้งงานที่ออฟฟิศเลยขับรถมาดูไซต์งานก่อสร้างเกือบทุกวัน เมื่อกลับมาถึงห้องก็พักอาบน้ำและเตรียมเข้านอนแต่ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นก็ยังอยู่ในความทรงจำ นานแล้วที่ภาวินท์ไม่เคย รู้สึกอยากจะทำความรู้จักกับใครมากๆ แบบนี้มาก่อน ถ้าจำไม่ผิดครั้งสุดท้ายที่ก็ตั้งแต่ตอนที่เรียนจบและเข้าทำงานใหม่ๆ ผ่านมาตอนนี้ก็หลายปีแล้ว ภาวินท์รู้สึกว่าเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้เขาอยากทำความรู้จักมากขึ้นและเขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ชายหนุ่มคิดว่าคงมีสักวันที่จะมีโอกาสได้เจอกับหญิงสาวอีกครั้งเพราะดูแล้วเธอน่าจะอาศัยอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น มันคงมีสักวันที่เธอออกมาทานก๋วยเตี๋ยวร้านเดิม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม