ยิ่งคบก็ยิ่งเสียใจ

1221 คำ
เมื่อนึกตามคำพูดของอรนลินแล้วพิมพ์พริมาก็เริ่มคิดหนักเพราะเธอลาออกจากงานมาได้เกือบจะสองเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้เริ่มงานที่ไหนถ้าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เงินเก็บที่สะสมมาก็คงจะหมดลง ก่อนหน้านี้หญิงสาวทำงานเป็นพนักงานบัญชีอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เมื่อมีปัญหากับแฟนหนุ่มที่ทำงานในบริษัทเดียวกันหญิงสาวจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพราะไม่อาจจะทนมองหน้าเขาอีกต่อไปได้ เธอคบกับปิติภัทรตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานในบริษัทและคุยกันเอาไว้ว่าจะเก็บเงินสักก้อนจากนั้นทั้งสองแต่งงานกัน แต่หญิงสาวก็ไม่คิดเลยว่าแฟนของเธอจะแอบคบกับพนักงานในบริษัทอีกแผนกหนึ่ง ซึ่งพอเธอรู้ก็บอกให้เขาเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ปิติภัทรก็ทำตามตอนนั้นเธอยอมรับว่าดีใจมากที่เขาสำนึกผิดและกลับตัวได้แต่ผ่านไปไม่นานเขาก็แอบกลับไปคบกันอีก หญิงสาวทนคบกับเขาต่อไปไม่ไหวจึงตัดสินใจบอกเลิกเพราะยิ่งคบก็ยิ่งเสียใจ เงินที่ทั้งสองฝากร่วมกันเพื่อจะจัดงานแต่งงานพิมพ์พริมาก็เอาคืนมาทุกบาททุกสตางค์ และเมื่อดูยอดเงินฝากแล้วส่วนใหญ่จะเป็นตัวเธอเองมากกว่าที่โอนเข้าบัญชีเกือบทุกเดือนส่วนเขานานๆ ครั้งถึงจะโอนเข้าซึ่งก่อนหน้านั้นพิมพ์พริมาไม่ได้สนใจจะดูยอดเงินในบัญชีเลย เนื่องจากไว้ใจและรักเขามากแต่เมื่อเขานอกใจเธออีกเป็นครั้งที่สองพิมพ์พริมาก็ตัดสินใจเลิกอย่างเด็ดขาดและเอาเงินในส่วนของตนเองกลับคืนมาทุกบาททุกสตางค์ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเธอ หลังจากลาออกจากงานแล้วหญิงสาวก็ยังไม่ได้เริ่มสมัครงานที่ไหนเพราะยังเสียใจและรู้สึกเบื่อกับระบบการทำงาน แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็คิดว่าการใช้ชีวิตอยู่โดยไม่ได้ทำอะไรมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก วันนี้เธอจึงเข้าไปสมัครงานที่บริษัทแห่งหนึ่งถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าบริษัทเดิมแต่เธอก็คิดว่ายังดีกว่าอยู่ห้องเฉยๆ เธอมองแล้วว่าถ้าได้ทำงานที่นี่มันก็จะสะดวกสบายกับตนเองมากเนื่องจากบริษัทอยู่ไม่ไกลห้องพักต่างจากบริษัทเดิมที่อยู่ค่อนข้างไกลและใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน พิมพ์พริมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าตอนนี้มีแต่คนสนใจว่าเธอกำลังคบหากับใครอยู่ หญิงสาวยิ้มเพราะหนึ่งในคนที่ถามก็คือเพื่อนสนิทของปิติภัทรซึ่งเดาว่าน่าจะมาสืบข่าวไปบอกให้ฝ่ายนั้นรู้แต่พิมพ์พริมาไม่ได้ตอบข้อความของใครเลยสักคนเพราะอยากให้ทุกอย่างมันเป็นปริศนาเธอยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าผู้ชายที่นั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวด้วย เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อแต่งตัวดี หุ่นดีตรงกับสเปกผู้ชายที่เธอชอบ หญิงสาวไม่คิดว่าเขาเป็นพวกมิจฉาชีพหรือพวกที่หลอกรับประทานฟรีเพราะดูท่าทางแล้วเขาก็น่าจะเป็นคนไปทำงานเหมือนกับเธอ ซึ่งมันมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่คนทำงานหนักมากจนลืมพกกระเป๋าสตางค์ออกจากบ้านหรือทำงานจนลืมชาร์จแบตโทรศัพท์ เรื่องนี้มันก็เคยเกิดขึ้นกับเธอมาแล้วและตอนนั้นก็มีคนจ่ายค่าข้าวให้กับเธอที่เธอยอมช่วยเขาก็เพราะนึกถึงตนเองในอดีตที่เคยได้รับความช่วยเหลือ แต่ที่ขอถ่ายรูปก็เพราะนึกอยากจะทำอะไรที่มันสนุกๆ ดูบ้างและไม่คิดเลยว่ารูปถ่ายของเขาจะได้รับความสนใจจากเพื่อนในโซเชียลมากมายขนาดนี้ พิมพ์พริมานอนคิดอะไรเพลินๆ จนกระทั่งเผลอหลับและตกใจตื่นเมื่อได้ยินข้างห้องโวยวายตั้งแต่เช้า ห้องพักของเธอเป็นห้องพักราคาถูกมีห้องนอนหนึ่งห้องในห้องน้ำเล็กๆ กับระเบียงสำหรับตากเสื้อผ้า คนที่พักอาศัยก็เป็นวัยทำงานซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะใช้ชีวิตข้างนอกและใช้หอพักเป็นแค่ที่พักผ่อนหลับนอน เสียงโวยวายยังคงดังมาเรื่อยๆ ทำให้คนที่คิดว่าจะตื่นสายต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินลงไปหาอะไรทานในตอนเช้าก่อนจะกลับมาที่ห้องอีกครั้ง วันนี้เธอคิดว่าจะลองหางานในอินเตอร์เน็ตดูว่ามีที่ไหนรับสมัครพนักงานบัญชีเพิ่มอีกหรือเปล่า แต่ยังไม่ทันได้เปิดแท็บเล็ตเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน หญิงสาวมองเบอร์ที่โทรเข้ามาซึ่งไม่ใช่เบอร์ที่เธอบันทึกไว้ พิมพ์พริมาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย “สวัสดีค่ะ” เธอรับสายและไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะกลัวว่าฝ่ายที่โทรศัพท์เข้ามานั้นจะเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ “ใช่เบอร์คุณพิมพ์พริมาไหมคะ” “ใช่ค่ะดิฉันกำลังพูดอยู่ คุณโทรมาจากไหนคะ” “ฉันโทรจากฝ่ายบุคคลบริษัทพีวีคอนสตรัคชั่นค่ะ เมื่อวานคุณมายื่นใบสมัครไว้ใช่ไหมคะ” “ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าเอกสารมีปัญหาหรือขาดเหลืออะไรหรือเปล่าคะ” “เอกสารไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ทางเราอยากจะเชิญคุณมาสัมภาษณ์วันนี้สะดวกหรือเปล่า” “สะดวกค่ะ” “เราจะให้เวลาคุณเตรียมตัวแล้วนัดมาเจอกันในตอนบ่ายวันนี้นะคะ” “ได้ค่ะ” พิมพ์พริมารีบตอบตกลงทันทีเธอไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกโทรศัพท์ตามเข้าสัมภาษณ์งานเร็วขนาดนี้ แต่เมื่อโอกาสมาถึงก็ต้องรีบคว้าไว้ “ฉันต้องเตรียมเอกสารอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ” หญิงสาวรีบถามด้วยความตื่นเต้นเธอยากเตรียมทุกอย่างให้พร้อม “เอกสารที่คุณยื่นมาเมื่อวานก็น่าจะครบแล้ว คงไม่ต้องเตรียมมาแล้วล่ะค่ะ บ่ายโมงคุณมาแต่ตัวเปล่าได้เลย” ฝ่ายบุคคลย้ำกับเธออีกครั้ง “ได้ค่ะฉันจะเข้าตามเวลานัดค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เมื่อวางสายจากฝ่ายบุคคลแล้วพิมพ์พริมาก็รีบศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างซึ่งก่อนหน้านี้เธออยู่ในบริษัทใหญ่มาก่อนการเข้าไปสัมภาษณ์งานในบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ที่หญิงสาวตื่นเต้นก็เพราะนานแล้วที่เธอไม่ได้สัมภาษณ์งาน เธอจำได้ดีว่าตอนเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ เธอไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหนเลยเพราะเธอเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จึงได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ซึ่งจองตัวมากับทางมหาวิทยาลัยมันจึงทำเธอตื่นเต้นมากกับการไปสัมภาษณ์งานในครั้งนี้แต่พิมพ์พริมาก็คิดว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมามันคงช่วยเธอได้มาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม