หนูยังไม่เคย

927 คำ
ตอนที่ 2 ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มนลดา กำลังยืนรออยู่หน้าห้องพักฟื้นผู้ป่วยด้วยหัวใจที่บีบรัด คุณย่าของเธอเกิดล้มในห้องน้ำและถูกเพื่อนบ้านช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่ออยู่นานเกือบชั่วโมง ก่อนจะเห็นคุณหมอที่ตรวจอาการให้คุณย่าของเธอเดินออกมา “หนูเป็นญาติคนไข้ใช่ไหมครับ” “ค่ะคุณหมอ คุณย่าของหนูเป็นยังไงบ้างคะ” มนลดารีบถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คุณหมอในชุดกราวน์สีขาวยิ้มให้เธอเล็กน้อย แต่ในแววตากลับฉายชัดถึงความจริงจัง “อาการของคุณย่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทครับ...” มนลดาใจตกไปอยู่ตาตุ่ม “ทางที่ดีควรรีบผ่าตัด เพราะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้อาจเป็นอัมพาตได้ เดี๋ยวหนูไปจองคิวผ่าตัดเอาไว้ก่อนนะ” คุณหมออธิบายด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทุกคำที่ออกมาล้วนเป็นเหมือนค้อนที่ทุบลงกลางใจของมนลดา “แล้วต้องรอคิวนานแค่ไหนคะ” มนลดาถามต่อพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอ “ถ้าใช้สิทธิ์บัตรทองตามระบบ คิวอาจจะยาวหน่อย ต้องรอประมาณเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเลย หรืออาจจะนานกว่านั้น อันนี้หมอก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดแบบเร่งด่วนก็ต้องสำรองจ่ายก่อน และค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง” คุณหมอพูดจบก็ถอนหายใจเบา ๆ “ประมาณเท่าไหร่คะ คุณหมอ” เด็กสาวถามเสียงสั่น “ก็หลักแสนปลายๆ ครับ” มนลดายืนนิ่งราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เงินจำนวนมากขนาดนั้นเธอจะไปหาที่ไหนได้ทัน “แต่ถ้าหนูและคุณย่ายังไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายจริงๆ ระหว่างที่รอคิวผ่าตัด หมอแนะนำให้ทำกายภาพไปก่อนครับ” คุณหมอเสนอทางเลือกสุดท้าย แต่ในเมื่อการผ่าตัดคือความหวังที่คุณย่าจะหายเป็นปกติ มนลดาก็ต้องพยายามทุกวิถีทาง “ขอบคุณค่ะคุณหมอ...” มนลดาตอบพร้อมกับยกมือไหว้คุณหมออย่างนอบน้อม จากนั้นเธอก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที เพื่อโทรหาใครบางคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าจะสามารถเบิกได้จากสิทธิ์บัตรทอง แต่คิวในการผ่าตัดก็ต้องรอนานเป็นเดือน ซึ่งเธอไม่อาจเสี่ยงที่จะรอจนถึงวันนั้น มนลดาเดินคอตกกลับไปที่บ้าน ก่อนจะเตรียมเสื้อผ้า เพื่อมาเฝ้าคุณย่าของเธอในคืนนี้ ระหว่างจัดเตรียมเสื้อผ้าของใช้อยู่ภายในห้อง มนลดาก็ตัดใจโทรไปขอยืมเงินจากรุ่นพี่คนสนิทที่เคยร่วมงานกันเมื่อครั้งเธอยังเป็นพริตตี้ เพื่อจะนำเงินมาเป็นค่าผ่าตัดให้กับคุณย่าของเธอ “พี่ก็ไม่มีเงินให้หนูยืมมากขนาดนั้นหรอก แต่พี่ช่วยหางานให้หนูได้นะ” เสียงนุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความนัยของเอมมี่ดังออกมาจากโทรศัพท์ที่แนบหู “ใช่งานพริตตี้ที่หนูเคยทำหรือเปล่าคะ่...พี่เอมมี่” “ไม่ใช่หรอกค่าาาา..” โมเดลลิ่งสาวลากเสียงยาว “งานแบบนั้นนาน ๆ จะมีอีเว้นท์สักทีหนึ่ง เอางานนี้ดีกว่า ง่าย ๆ สบาย ๆ ได้เงินเยอะ ๆ ดีกว่า” “มันคืองานที่พี่เคยเสนอให้หนูหรือเปล่าคะ” มนลดาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “อืม...ก็นั่นแหละ รับรองว่า พี่จะหาลูกค้ากระเป๋าหนัก ๆ ให้หนูเอง ถ้าหนูตกลง” “ถ้างั้นหนูขอทำแค่งานนี้งานเดียวได้มั้ยคะ” เธอต่อรองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน มนลดานั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ภายในห้องที่คับแคบของเธอ มือเรียวบางสั่นระริก “ก็แล้วแต่หนูเลยจ้ะ แต่ส่วนใหญ่เด็กในสังกัดพี่ ครั้งแรกก็พูดแบบหนูกันทั้งนั้นแหละ” ปลายสายหัวเราะเบาๆ “งั้นหนูขอคิดก่อนได้ไหมคะ” เธออ้อนวอนราวกับขอเวลาเพื่อซื้อลมหายใจให้ตัวเอง “ก็ได้ แต่รีบ ๆ หน่อยนะ เพราะลูกค้ารายนี้ของพี่เค้าจะอยู่เมืองไทยอีกไม่นาน” “เค้าเป็นคนต่างชาติเหรอคะ” “ใช่... เค้าเป็นคนอเมริกัน” เพียงเท่านั้น มนลดาก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนอีกครั้ง เธอวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบาแล้วนั่งนิ่งอยู่กับที่ ไม่เคยเลยที่เธอจะคิดว่าชีวิตจะพาเธอมาถึงจุดที่ต้องยอมแลกศักดิ์ศรีของตัวเองกับเงินทอง เธอจำคำพูดของเอมมี่ที่เคยได้เล่าให้ฟังเมื่อครั้งก่อน ๆ ว่างานที่ชวนให้ไปทำ ก็คล้าย ๆ กับเป็นเมียเช่า คอยเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว และเป็นคู่ควงให้คนต่างชาติ มันเป็นงานที่สบาย ได้เงินดี แค่แต่งตัวสวยๆ พูดจาหวานๆ เอาใจเก่งๆ ก็พอ เด็กสาวเงยหน้ามองรูปถ่ายของคุณย่าที่วางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้ายิ้มแย้มของท่านในรูปทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ถ้าคุณย่าตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร ท่านจะเสียใจแค่ไหน ‘แต่หนูยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายเลยนะคะ’ คำพูดที่เธอเอ่ยออกไปก่อนหน้านี้ยังก้องอยู่ในหัว ‘ตอนแรกๆ ก็อาจจะกลัว เมื่อก่อนพี่ก็กลัวเหมือนหนูนั่นแหละ’ ‘แต่หลังๆ ก็ชินไปเอง แถมยังสนุกอีกด้วย’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม