บทที่ 2
เจ้าหนี้เถื่อนหรือจะสู้เด็กเถื่อน
ต้นหอมนั่งรถประจำทางกลับห้องพักด้วยความเหนื่อยล้า นึกถึงข้อเสนอของภูผาแล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจอย่างหมดหนทาง ข้อเสนอแบบนั้นจะให้เธอตกลงยอมรับได้อย่างไร จะให้ไปนอนกับน้องชายและเพื่อนของน้องชายสมัยเด็กได้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่น้องชายแท้ๆ แต่ก็เห็นกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ต้นหอมทำแบบนั้นไม่ลงจริงๆ แต่ว่าเรื่องเงินเธอจะไปหาจากที่ไหนได้ทันเวลากัน...
...อีกสามวันก็ครบกำหนดแล้วด้วย...
ระหว่างทางเดินกลับหอพักนั่นเอง... เสียงฝีเท้าดังตามมาติดๆ ต้นหอมรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน ถึงแม้ว่านี่จะเป็นกลางวันแสกๆ ก็ตาม แต่รอบด้านของเธอไม่มีใครเลย เธอจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
ตึก ตึก ตึก
หมับ
“อื้อ!!”
ร่างบอบบางถูกใครคนหนึ่งใช้มือปิดปากเอาไว้ แล้วลากเข้ามุมอับ แม้ว่าต้นหอมจะพยายามขัดขืนสุดกำลังก็ตาม แต่กำลังของเธอจะไปสู้กำลังของชายชาตรีได้อย่างไร
ในตอนนั้นเองร่างของต้นหอมก็ถูกเหวี่ยงลงพื้นอย่างรุนแรง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าผู้ชายสามคนกำลังตั้งท่าจะทำมิดีมิร้ายเธอ หนึ่งในนั้นถือกล้องเอาไว้ด้วย ต้นหอมรู้ได้ทันทีว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
“ดะ เดี๋ยวก่อน!”
”อะไร? อีหนู?”
“พี่บอกว่าจะให้เวลาหนูเจ็ดวันไงคะ ตอนนี้เหลืออีกตั้งสามวันนะ” ต้นหอมพยายามต่อรองเท่าที่จะทำได้ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้
“งั้นตอนนี้มีอยู่เท่าไหร่?”
“เอ่อ ตะ ตอนนี้ไม่มีค่ะ...”
“ตอนนี้ไม่มี แล้วสามวันข้างหน้าจะไปเอาเงินมาจากไหนวะ แม่ง มึงคิดจะหนีล่ะสิ เฮ้ย จับมันถอดเสื้อผ้า จะได้อัพคลิปลงเว็บ”
“มะ มี หนูมี!!”
“อย่ามาตอแหล อีนี่!”
ผัวะ!
ใบหน้าของต้นหอมหันไปตามแรงปะทะ กลิ่นคาวเลือดและรสเค็มปร่าของเลือดทำให้ต้นหอมหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
“จริงๆ นะ เดี๋ยวหนูเอามาให้ตอนนี้เลยก็ได้”
ได้ผล ประโยคนี้ของเธอทำให้พวกเจ้าหนี้ชะงัก หนึ่งในนั้นหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นออกไปชิดที่ลำคอของเธอ ต้นหอมกลั้นหายใจด้วยความหวาดหวั่น มองดูคมมีดที่สะท้อนภาพของตัวเอง
“ได้ งั้นก็เอามาสิ ตอนนี้”
“แต่ว่าเงินนั่นไม่ได้อยู่กับหนู มะ มันอยู่ที่คนรู้จัก”
“มึงตอแหลนี่เอง ถ้ามึงมีคนที่ยืมเงินมาใช้หนี้ได้จริงๆ ทำไมมึงเพิ่งมาให้ตอนนี้วะ มึงแม่งจะล่อกูไปให้ตำรวจแน่ๆ”
“ไม่ใช่นะ หนูพูดจริงๆ”
“เฮ้ย งั้นเอาแบบนี้ มึงแก้ผ้า แล้วพวกกูจะถ่าบรูปไว้ ถ้ามึงไปเอาเงินจริงๆ กูจะยอมลบให้ แต่ถ้ามึงล่อกูไปให้ตำรวจล่ะก็... เว็บโป๊แม่งมีรูปมึงขึ้นเต็มแน่ๆ”
ไม่ทันที่ต้นหอมจะทันได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธ ผู้ชายสองคนก็จัดการปลดเสื้อผ้าของต้นหอมเอาให้ล่อแหลมที่สุด กดถ่ายรูปรัวๆ แม้ว่าต้นหอมจะกรีดร้องแค่ไหนก็ตาม
“แม่ง เด็ดว่ะ เอาไปปล่อยที่ซ่องน่าจะได้เงินดี”
หลังจากนั้นพวกมันก็ปล่อยต้นหอม คนตัวเล็กสะอึกสะอื้นร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว เธอจัดการเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วค่อยๆ พยุ่งร่างกายที่เหนื่อยล้าลุกขึ้น
“ให้เวลาถึงแค่เที่ยงคืน... ถ้ามึงไม่มีเงินก็ต้องเอาตัวแลก แล้วถ้ามึงแจ้งตำรวจ... มึงได้กลายเป็นนางเอกหนังโป๊แน่”
ต้นหอมพยักหน้าก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น เธอไม่คิดที่จะเข้าห้องแต่มุ่งตรงไปยังคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่อยู่ของภูผาและอชิ เธอรู้แต่เพียงเท่านี้แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยกลับไม่ยอมให้เธอเข้าไปได้ง่ายๆ
...ทำไงดี ไม่มีเบอร์ด้วย...
ขณะที่ต้นหอมกำลังกระวนกระวายใจอยู่นั้น รถคันสวยก็บีบแตรใส่เธอ ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้ง
“พี่หอม!” เจ้าของรถเปิดกระจกออกมาโบกไม้โบกมือให้เธอ ต้นหอมเห็นแบบนั้นแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
...แม่ง เกิดอะไรขึ้นวะ?...
ภูผาจัดการให้เธอเข้าไปในคอนโดกับเขา ส่วนอชิเอารถไปเก็บที่ลานจอดรถแล้วค่อยตามขึ้นไปทีหลัง
ต้นหอมนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาอยู่พักใหญ่ สองหนุ่มได้แต่นั่งรอให้เธอร้องไห้เสร็จ นั่นคือการปลอบของพวกเขา เพราะหนุ่มๆ ไม่เคยปลอบผู้หญิงร้องไห้มาก่อน ยิ่งเป็นกับคนที่แอบชอบมานานยิ่งไม่เคย ภูผาและอชิสังเกตร่างกายของต้นหอมพลางมองหน้ากันอย่างมีคำถาม
...เกิดอะไรขึ้นกับพี่หอม...
“ฮึก ขอโทษนะ ที่อยู่ดีๆ ก็มาหา แถมยังร้องไห้แบบนี้”
...มุมปากช้ำ แก้มบวม ร่างกายมีแผลถลอก เสื้อผ้ายับ...
นั่นคือสิ่งที่อชิสำรวจได้ทั้งหมด ไม่เพียงแต่อชิ ภูผาเองก็รู้สึกว่าต้องเกิดบางสิ่งขึ้นกับต้นหอม สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คงเป็นแก้มบวมๆ นั่นกับแผลที่มุมปาก
“คือว่า...” หลังจากที่นั่งร้องไห้อยู่นาน ต้นหอมก็คิดว่าไม่สามารถยื้อเวลาไปมากกว่านี้ได้แล้ว รูปของเธออยู่ที่เจ้าพวกนั้น ถ้าหากถูกเผยแพร่ออกไป ชีวิตนี้เธอคงไม่มีหน้าไปที่ไหนอีกแล้ว “ข้อเสนอที่นายให้มา ยังมีผลอยู่ใช่มั้ย?”
“มีสิ...” ภูผาว่าพลางยื่นมือออกไปสัมผัสที่มุมปากของต้นหอม คนตัวเล็กสะดุ้งด้วยความเจ็บ “อ่า โทษที เจ็บมากมั้ย?”
“อืม เจ็บก็เจ็บแหละ แต่ไม่เท่าไหร่...”
“ว่าแต่พี่จะเอาเงินนั่นเมื่อไหร่ล่ะ?” เป็นอชิที่เอ่ยถามออกมา จากการคาดเดาของเขา ชายหนุ่มคิดว่าเธอคงรีบใช้เงินมากแน่ๆ ดูจากสภาพแล้วคงโดนเจ้าหนี้ทำร้ายมา คิดแล้วก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความแค้นใจ
“ตอนนี้เลยได้มั้ย?” แม้จะน่าละอายแต่ต้นหอมก็ไม่สามารถผลัดวันประกันพรุ่งได้อีกต่อไปแล้ว เจ้าหนี้พวกนั้นน่ากลัวกว่าที่คิด
“ได้สิ พี่จะเอาเป็นเงินสดหรือจะให้ผมโอนดี?”
“เอ่อ คือ... ขอเงินสดได้มั้ย”
“ได้สิ เดี๋ยวผมไปเอามาให้” ภูผาลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง ทิ้งให้ต้นหอมนั่งอยู่กับอชิ
สำหรับต้นหอมแล้วอชิไม่ต่างไปจากคนแปลกหน้า ทว่าเธอยอมรับข้อเสนอที่จะนอนกับพวกเขาเพราะความจำเป็นจริงๆ นอนกับคนรู้จักที่ไว้ใจได้ ดีกว่านอนกับคนเลวพวกนั้นตั้งเยอะ
“พวกมันตามพี่มาใช่มั้ย?”
“…!” ดวงตากลมเบิกกว้าง เธอไม่ตอบแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“พี่อาบน้ำรออยู่บนห้องดีกว่า เดี๋ยวผมกับภูผาจัดการเองครับ”
“แต่ว่า…” ต้นหอมต้องการที่จะคัดค้าน เธออยากทำด้วยตัวเอง เพราะนอกจากเอาเงินไปให้แล้ว ก็ต้องขอให้พวกเขาลบภาพน่าเกลียดๆ ของเธอออกไปด้วย
อชิสำรวจร่างกายของต้นหอมอีกครั้ง คราวนี้เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยตัวเองได้แล้ว
“ไม่ต้องห่วงครับ พี่อาบน้ำรอพวกผมเถอะ รับรองพวกมันไม่กล้าเสนอหน้ามาให้พี่เห็นอีกแน่ๆ ครับ”
“นะ นายจะทำอะไร?”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มบางเบาส่งให้เท่านั้น ประจวบเหมาะกับที่ภูผาเดินออกมาจากห้องพร้อมกับกระเป๋าใส่เงินจำนวนหนึ่ง
“เอ่อ…”
“นั่นห้องผม นั่นของอชิ ส่วนนั่นห้องว่าง พี่ใช้ได้เลย แต่ถ้าชอบห้องผมหรือห้องอชิก็เข้าไปได้นะ” ภูผาพูดพลางยักคิ้วหลิ่วตา แต่ต้นหอมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาเล่นด้วย เธอไม่ตลกเลยสักนิด
“คะ คือว่า…”
“…?”
ภูผาและอชิเดินมายังต้นหอม เธออ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ
“พวกนั้นถ่ายรูปพี่เอาไว้… ช่วยบอกให้พวกมันลบให้หน่อยได้มั้ย?” ได้ยินดังนั้นสองหนุ่มนัยน์ตาวาววับด้วยความโกรธ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่ก็ไม่เคยถ่ายรูปแบล็กเมล์ และไม่คิดจะทำโดยเด็ดขาด
“ครับ” เป็นอชิที่ตอบรับให้เธอสบายใจ ส่วนภูผาเผยรอยยิ้มแปลกๆ
สองหนุ่มเดินออกไปโดยไม่ถามต้นหอมสักคำ ราวกับพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเจ้าหนี้พวกนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน ส่วนต้นหอมก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องยิบย่อยพวกนั้น ดีเสียอีกที่พวกเขาอาสาเอาเงินพวกนั้นไปให้แทน บอกตามตรงว่าเธอกลัวเหลือเกิน
เมื่อเดินลงมาข้างล่างอชิก็พยักเพยิดไปทิศทางหนึ่งซึ่งมีชายฉกรรจ์ประมาณสามคนยืนจ้องมองมาทางพวกเขา อชิจำได้ว่าก่อนจะพาต้นหอมเข้าคอนโดไป คนพวกนี้จ้องมองต้นหอมไม่วางตา คาดว่าจะต้องเป็นเจ้าหนี้ที่ทำร้ายเธอแน่
ภูผาไม่รอช้าเดินดุ่มๆ เข้าไปก่อนจะเหวี่ยงหมัดใส่อีกฝ่ายอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“เชี้ย! ไรมึงวะ!”
แล้วก็เกิดการต่อสู้กันระหว่างภูผาและชายฉกรรจ์ทั้งสาม อชิถอนหายใจกับความบ้าดีเดือดของเพื่อนคนนี้ หนึ่งต่อสิบก็เคยมาแล้วแม้ว่าตอนนั้นจะเป็นการใช้อาวุธก็ตาม ทว่าถึงจะใช้มือเปล่าแต่จำนวนคนแค่นี้ก็ไม่คณามือภูผาหรอก ไม่นานทุกอย่างก็ถูกจัดการเรียบร้อย ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยก็ตาม แต่ผลลัพธ์ก็คือชัยชนะ
อชิเดินไปค้นตัวชายฉกรรจ์ที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น ดวงตาเรียวคมตวัดมองพวกมันเรียงตัว ทำเอาชายฉกรรจ์หวาดผวา แค่สายตาก็ราวกับจะฆ่าพวกเขาได้ อชิไม่ถนัดใช้กำลัง แต่ถนัดในการข่มขู่มากกว่า
“รูปอยู่ไหน?”
ไม่ต้องถามให้มากความพวกเขาก็รู้ว่ารูปที่อชิหมายถึงนั้นคืออะไร หนึ่งในชายฉกรรจ์ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้กับอชิ ชายหนุ่มเลือกที่จะหยิบมาทั้งหมดเปิดเอาเมมโมรี่การ์ดออกมา จัดการหักเป็นสองท่อน ก่อนจะขว้างโทรศัพท์ลงพื้นแล้วใช้เท้ากระทืบซ้ำ
“เอาเงินแล้วไสหัวไปซะ อย่าให้กูเห็นว่าพวกมึงมาวนเวียนอยู่ใกล้คนของกูอีก” สิ้นประโยคนั้นพวกมันก็พยายามฝืนสังขารลุกขึ้น แล้ววิ่งออกไปราวกับหมาตัวหนึ่ง