ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันตอกย้ำความจริงที่เจ็บปวด ภูริตาได้ตกเป็นของผู้ชายที่เธอรู้แค่เพียงว่าเขาชื่อคินน์ แต่น่าแปลกที่เธอกลับจำเขาได้แม่น เธอไม่รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เธอรู้เพียงว่าเธอมานอนอยู่ในห้องนี้ แล้วมีสัมพันธ์กับชายหนุ่มแปลกหน้า
เธอจำได้ว่าครั้งสุดท้ายวารีเพื่อนสนิทที่ภูริตาไว้ใจวารีเป็นอย่างมาก ทำไมวารีถึงพาเธอมาอยู่ในห้องนี้ทุกอย่างดูเป็นปริศนาไปหมด เมื่อข่มความเสียใจที่มันอัดแน่นอยู่เต็มทั้งหัวใจ ภูริตาก็รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมลวกๆ ก่อนที่เธอจะเดินทางออกจากที่อโคจรแห่งนี้
ภูริตาน้ำตาไหลตลอดทาง เธอพยายามกดโทรศัพท์หาวารี แต่วารีก็ไม่ยอมรับสาย เธอค่อนข้างมั่นใจว่าวารีต้องมีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้อย่างแน่นอน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ดังนั้นภูริตาจึงมาที่บ้านของวารี เมื่อเธอได้พบกับเพื่อนสนิท คำพูดต่างๆ พร่างพรูออกมาทำให้หญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก
เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าวารีจะเกลียดเธอมากมายขนาดนี้ และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้วารีทำเช่นนี้ ก็คือการที่เชน รุ่นพี่ที่จบมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพวกเธอ มาตามจีบภูริตา นั่นทำให้วารีตัดสินใจทำเช่นนี้ ความอิจฉาริษยามันทำให้เพื่อนรักแปรเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ หรือว่าแท้จริงแล้ว วารีไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อนเลย
ยิ่งได้ฟังคำตอบของวารีกับการท้าทายให้เธอไปแจ้งความ มันยิ่งทำให้ภูริตาเจ็บปวด เพราะบิดาของวารีเป็นนายตำรวจยศใหญ่โต เขาคงไม่มีทางปล่อยให้บุตรสาวคนเดียวอย่างวารีติดคุกอย่างแน่นอน การสู้ที่เห็นลางแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น มันทำให้ภูริตาถอยออกมาราวกับคนขี้ขลาด
นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับภูริตาเมื่อห้าปีที่แล้ว เมื่อนึกย้อนถึงมันเมื่อไหร่หญิงสาวก็ปวดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหลือเกิน เธอไมได้โทษชายหนุ่มที่เข้ามาหาเธอในคืนนั้น เพราะเขาคงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงสาวขายบริการจริงๆ แต่มาวันนี้เธอกลับต้องมีเรื่องให้เกี่ยวพันกับเขาอีกจนได้
นั่นก็คือบุตรสาวของเธอ ซึ่งคินน์ไม่เคยรู้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นมันทำให้เกิดอีกหนึ่งชีวิตขึ้นมา และบิดาของเด็กน้อยก็คือคินน์ ซึ่งตอนนี้เขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยคิดจะบอกว่า ถ้าเธอไม่อับจนหนทางจริงๆ นั่นก็ด้วยเพราะบุตรสาวตัวน้อยของเธอ นั่นก็คือเด็กหญิงภูษิตาอายุสี่ขวบ ต้องได้รับการผ่าตัดเพราะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าหมู่โลหิตของเด็กน้อย ไม่ใช่หมู่ที่หายากอย่างเช่นเอบีเนกาทีฟ ซึ่งมันไม่ใช่กรุ๊ปเลือดของภูริตา และถ้าเดาไม่ผิดมันคือกรุ๊ปเลือดของบิดาเธอ
นั่นทำให้ภูริตาพยายามประกาศตามหาคนที่มีกรุ๊ปเลือดนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อมา เธอคิดว่าเธอจะรออีกหนึ่งอาทิตย์ หากว่ายังไม่มีใครติดต่อมา เธอคงต้องไปหาคินน์ ซึ่งเขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นมิจฉาชีพมาแอบอ้างก็ได้ แต่ไม่เป็นไร หากว่าการไปครั้งนี้มันจะช่วยต่อลมหายใจให้บุตรสาวตัวน้อยได้ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้รอยยิ้มของบุตรสาวคงอยู่กับเธอ