คราวนี้มือของชายหนุ่มกอบกุมที่เนินเต้า และใช้ปลายลิ้นของเขาเลียไล้ที่ยอดถัน ในขณะที่มืออีกข้างของชายหนุ่มก็บีบเคล้นที่เนินอกอีกข้างของหญิงสาว มันทำให้หญิงสาวบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ชายหนุ่มต้องการ ไม่นานท่อนเอ็นใหญ่ก็ถูกส่งเข้าไปยังช่องทางรักสีสดของหญิงสาวอีกครั้ง
ซึ่งครั้งนี้ชายหนุ่มไม่รอช้าเพราะรู้ว่าเธอนั้นพร้อมมากแล้ว เขาจึงบรรเลงเพลงรักเข้าใส่ด้วยความเร็วรุนแรงดุจพายุทอร์นาโด นั่นทำให้ร่างบางของหญิงสาวแอ่นรับตามสัญชาตญาณ เพลิงแห่งความเสน่หาโหมกระหน่ำอยู่ทั่วห้อง เพียงไม่นานร่างสองร่างก็ไปถึงฝั่งฝันอีกครั้งหนึ่ง
เหมันต์และพลอยชมพูกอดกันแน่น ก่อนที่จะผละออกจากกัน เมื่อเมล็ดพันธ์แห่งความสุขสมไหลออกจากกายหมดทุกหยาดหยดแล้ว สองคนสบตากันอย่างไม่ต้องเอ่ยอะไร ก่อนที่ฝ่ายชายจะรีบผละออกจากร่างงามของหญิงสาว ซึ่งมันบ่งบอกว่าทั้งเขาและเธอหมดเวลาแห่งความสุขแล้ว
“ผมต้องไปก่อนนะครับ มีประชุมด่วนช่วงเย็น” เหมันต์กล่าวก่อนที่จะจูบกลางหน้าผากมนของหญิงสาว
“รีบกลับมานะคะ พลอยคิดถึง อุตส่าห์มีวันหยุดตรงกันทั้งที ได้อยู่ด้วยกันแค่แป๊บเดียวเอง” พลอยชมพูทำท่าทางกระเง้ากระงอด เธอทำเพื่อออดอ้อนเขาเท่านั้น เธอไม่ได้คิดจริงจัง
“อย่าทำให้ผมอยากโดดประชุมได้มั้ย” ชายหนุ่มจุมพิตที่แก้มหญิงสาวเพื่อลงโทษเธอหนึ่งที
“ไม่กวนแล้วค่ะ คุณไปทำงานเถอะค่ะ” เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคิดจริง หญิงสาวจึงจำต้องปล่อยเขาไป เธอไม่อยากรบกวานเวลาทำงานของเขา เธออยู่ในที่ที่เขาให้อยู่ และรอคอยในสิ่งที่เขาจะมอบให้เธอ เธอทำได้เพียงเท่านั้น
“น่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวกลับมาผมจะให้รางวัลนะครับคนสวย” เหมันต์ยอมเดินจากไปจริงๆ เพราะขืนช้ากว่านี้เขาจะไปประชุมสายอย่างแน่นอน
เมื่อร่างสูงเดินจากไป ความรู้สึกข้างในจริงๆ ก็พร่างพรูออกมา ตลอดสองปีที่ผ่านมาเธอจะสามารถแสดงความรักกับเขาในห้องนี้เท่านั้น เพราะเมื่อเวลาออกไปข้างนอกหรือพบปะผู้คน แสงแฟลชที่มันคอยส่องมาที่เขาอยู่เรื่อยๆ มันทำให้เธอต้องทำตัวเหมือนคนไม่รู้จักกัน
ที่เธอทนอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะว่าสิ่งที่เขาเคยบอกไว้ วันหนึ่งเธอจะเป็นเจ้าสาวของเขา เพราะเธอคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาจะแต่งงานด้วย แค่รอวันนั้น วันที่ทั้งสองคนแต่งงานกัน เธอก็ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเงามืดเงียบๆ แบบนี้อีกต่อไป