เมื่อเข้ามาในบ้าน เธอก็ไปนั่งป้อนข้าวลูกชาย ท่าทางที่ไม่ค่อยกิน และกินยากกว่าปกตินั้นทำให้เธอรับรู้ได้ว่าลูกชายของเธอแคร์ผู้เป็นบิดามากมายนัก
“ทำไมไม่ทานข้าวละครับพี่ธัน”
“กินเยอะพ่อจะไม่อุ้มพี่ธัน” เด็กน้อยพูดทั้งก้มหน้าพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทำเอาคนเป็นแม่อย่างเธออดเจ็บปวดใจไม่ได้
เธอโกรธเขานักที่ทำท่ารังเกียจรังงอนลูกขนาดนี้ ไม่รู้ว่าลูกกับเธอไปทำกรรมอะไรไว้กับเขานักหนา
ชายหนุ่มแต่งตัวจะลงไปทำงาน เมื่อลงมาทันได้ยินที่ลูกชายพูดก็รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มมาในอก เขาพยายามห้ามความรู้สึกหวั่นไหวกับแม่ลูกเจ้าน้ำตาคู่นี้
กว่าเขาจะยืนสูดลมหายใจเข้าออกให้ตรงจังหวะ ก็ทำเอาคนเป็นพ่อที่เลวอย่างเขาใช้เวลาพอสมควร
‘ฉันไม่ได้รักพวกเธอ’ เขาบอกกับตัวเองในใจ จะไม่ยอมรักผู้หญิงที่คิดพยายามจับเขาเด็ดขาด
ตั้งแต่โดนแม่บังคับแต่งงาน เขาก็พาลกับเธอทุกเรื่อง กระทั่งเรื่องลูกชายของตัวเองก็ด้วย
“มัวทำอะไรอยู่ธันวา ทำไมไม่กินข้าว” เสียงเข้มแฝงความดุดันให้เด็กชายหวาดกลัวเล็กน้อยเปล่งออกมา เมื่อเห็นว่าเด็กนั่นชักจะดื้อไม่ยอมกินข้าวกินปลา
“พ่อฮาบ...!” เด็กน้อยเรียกเขาเสียงอ่อย ทำเอาคนที่หัวใจแข็งเหมือนหินผาของเขาอ่อนยวบ
“คุณทานข้าวต้มก่อนค่ะ” ดาหลาวางช้อนจากลูกชาย รีบไปตักข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ ที่เธอตั้งใจทำให้เขาทานทุกวัน แม้บางวันเขาจะไม่อยากทาน แต่เธอก็รบเร้าให้เขาทานได้ทุกครั้ง
ระหว่างที่เมียของเขาเข้าไปในครัว เขาจึงคุยกับลูกชายตัวเองเสียหน่อย
“ทำไมไม่ทานข้าว” เสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเมียไม่อยู่ แน่นอนว่าต่อหน้าและลับหลังเมียเขาทำตรงกันข้ามกันเสมอ และนมบุญก็เห็นทุกครั้งที่รามิลอ่อนโยนกับลูกชาย ซึ่งเป็นมุมที่เขาพยายามซ่อนไว้ไม่ให้คุณดาหลาเห็น
แม่บ้านเก่าแก่ยืนส่ายหน้าให้คนที่โตแต่ตัว แต่ยังมีความคิดเป็นเด็ก ๆ
“กลัวตัวหนักแล้วพ่ออุ้มไม่ไหว”
“เมื่อเช้าฉันอุ้มนายแล้ว มันรู้สึกว่าเบาไปหน่อย และก็ไม่ชอบคนไม่ทานข้าวด้วย” เมื่อเด็กน้อยอยากให้เขาอุ้ม ก็ต้องหลอกล่อด้วยสิ่งนี้
แววตาเปล่งประกายของลูกชาย ทำเอาคนเป็นพ่อเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อคนเป็นลูกรีบกินข้าวในถ้วยด้วยตัวเอง
“พี่ธันจะกินให้หมดเลยฮับ แต่พ่อต้องรักพี่ธันนะฮับ”
มือหนาเข้าลูบเด็กชายตัวเล็กไปมาอย่างเอ็นดู ตามสัญชาติญาณคนเป็นพ่อ
ขณะที่ยกถ้วยข้าวต้มกุ้งมาให้เขา หญิงสาวเห็นภาพที่เขายิ้มให้กับลูกก็รู้สึกใจสั่น มันเป็นภาพที่เธออยากเห็นมานานมาก เธอยกมือถือขึ้นถ่ายรูปเก็บไว้ ก่อนจะเดินเข้าไป
แต่เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาที่โต๊ะ เขาก็ชักมือหนีไม่สัมผัสตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอีกเลย แล้วชักสีหน้าให้ตึงเหมือนสิ่งที่ทำเมื่อครู่นั้นไม่ใช่เขา
“นี่ค่ะ เติมพริกไทยหน่อยไหมคะ” เธอถามเขาอย่างเอาใจ อย่างน้อยเขาก็เริ่มมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
“เติมสิ ก็รู้นี่นาว่าฉันชอบ” สิ่งที่เขาชอบทุกอย่างดาหลาจำได้แม่ยำ จนหลายครั้งเขาเองต้องหงุดหงิดกับการสั่งข้าวของเลขาที่มักลืมประจำจนต้องไล่ออก และให้ของขวัญเพื่อนสมัยเรียนมาทำงานเลขาแทน เพราะรู้ใจเขามากกว่า
เธอเติมให้เขาตามที่บอก และเมื่อเห็นลูกชายกินข้าวด้วยรอยยิ้มอีกครั้งก็อดดีใจไม่ได้
“คุณจะกลับกี่โมงคะ”
“ไม่รู้อาจจะดึก” เขาตอบไม่มองหน้าเธออีก เพราะวันนี้มีปาร์ตี้เขาก็คงจะยาวหรืออาจจะไม่ได้กลับ นอนคอนโดเลย
“ฉันกับลูกจะรอคุณเป่าเค้กค่ะ” เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะตั้งใจจะทำเค้กให้เขาโดยเฉพาะ และวันนี้เธอก็นัดกับลูกชายไว้แล้วด้วย
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่กินข้าวในถ้วยให้หมด เพราะมันอร่อยตามรสชาติที่เขาชอบ คงมีแต่ข้าวบ้านเท่านั้นที่ทำให้เขาอยากทานอะไรได้บ้าง ปกติจะทานแค่กาแฟเท่านั้น
เขาออกไปทำงานโดยมีเธอกับลูกมาส่ง เขาตั้งใจกินข้าวเพื่อรอเจ้าตัวแสบที่มันขี้น้อยใจเก่งขึ้นเยอะ จนต้องให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของเขาบ้าง
“พ่อฮับ พี่ธันรักพ่อฮับ” เด็กน้อยโบกมือให้เขาหลังจากเขาขึ้นรถ
เขามองยกยิ้มที่มุมปากเล็ก ๆ เพียงนิดเดียวแล้วก็เลื่อนกระจกปิด เมื่อรถเลื่อนออกไปถึงได้คลี่ยิ้มออกมาเต็มใบหน้า
ลูกชายบอกรักเขาทุกวัน แน่นอนว่าชอบ แต่ต้องทำเป็นไม่ชอบเพราะไม่อยากให้แม่นั่นเห็นว่าเขาสนใจ หรือใส่ใจสองแม่ลูก ‘เธอต้องเจ็บปวดอย่างสาสม’
อย่างไรทั้งคู่ก็หนีเขาไปไหนไม่รอดอยู่ดี อยู่ให้เขาขยี้หัวใจเล่นแบบนี้นั่นแหละ
เมื่อรถของสามีออกไปจากบ้านแล้ว เธอจึงชวนลูกชายไปเข้าครัวทันที
“วันนี้เรามาช่วยทำเค้กแสนอร่อยให้พ่อดีไหมครับ”