“เพราะคนที่ผมรักคือดล” เขาบอกอย่างไม่เกรงใจภรรยาสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าสักนิด ทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกถึงความใจร้ายของสามี หน้าเล็กชาราวกับถูกตบ จำเป็นต้องบอกกับดลยาต่อหน้าเธอเลยหรือ ปรมัตถ์คงมีแต่ตะกอนของความเกลียดชังที่มอบให้เธอ
“ไปไหว้คุณพ่อเถอะครับ” พูดจบมือหนาก็คว้าข้อมือเล็กแล้วเดินนำดลยาพาไปไหว้ศพของผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอและเขามาตั้งแต่ยังเล็ก หากไม่มีบิดา เขาและดลยาก็อาจจะไม่มีวันนี้ คงจะติดอยู่ในวังวนของชีวิตเด็กกำพร้า
นิ้วเรียวทั้งสิบยกขึ้นพนมไหว้ เธอยังคงสำนึกในบุญคุณที่ท่านให้ชีวิตใหม่ ไม่ต้องเร่ร่อนและเป็นเด็กกำพร้า แต่บุญคุณก็อยู่ส่วนบุญคุณ ความต้องการก็คือความต้องการ เธอต้องการจะกลับมาครอบครองปรมัตถ์อีกครั้ง
ก่อนที่ดลยาจะบีบน้ำตาให้ไหลออกมา เพื่อให้เห็นว่าเธอเสียใจแค่ไหนกับการจากไปของท่าน
เมื่อเสร็จพิธี ปรมัตถ์ก็พาเธอมานั่งที่เก้าอี้ “คุณพ่อคงเกลียดดลน่าดู” บอกเสียงเศร้าสร้อยและสีหน้าเจื่อนลงไปถนัดตา
“ผมดูแลเอยได้เพียงเท่านี้ครับ”
เขาบอกเสียงเข้ม เนื่องจากมันถึงเวลาแล้วที่อุรัสยาควรให้อิสระต่อเขา ฝืนทนอยู่ร่วมกันไปก็มีแต่ความทุกข์ และไม่มีทางที่ครอบครัวจะประคับประคองไปตลอดรอดฝั่งได้หากขาดความรัก
ที่สำคัญหากอุรัสยาเปิดใจรับใครใหม่ อีกฝ่ายอาจจะได้พบความสุขมากกว่าต้องมาทนทุกข์อยู่กับตน แต่ปรมัตถ์กลับไม่เคยยอมเปิดใจรับภรรยาเข้ามาในหัวใจบ้าง
“ผมอยากมีความสุข”
“กับดลหรือคะ” หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นมองคนพูด ซึ่งนอกจากจะได้รับคำตอบเป็นคำพูดแล้ว มือหนาก็ยื่นเข้ามากอบกุมมือนุ่มเอาไว้ ราวกับต้องการบอกอย่างแน่วแน่และจริงใจ
“ครับ”
คนฟังหัวใจเต้นระรัว อย่างไรเสียชัยชนะครั้งนี้ก็ยังเป็นของเธอ แต่จะให้แสดงมันออกมาในยามนี้ก็คงจะไม่ได้ ดลยาจึงทำสีหน้าลำบากใจราวกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ฟากอุรัสยาก็เจ็บระบมไปทั้งใจ และยิ่งเจ็บหนักเมื่อถึงเวลากลับบ้าน
“ขึ้นรถครับดล ผมจะไปส่งดลที่บ้านครับ” ทั้งที่เธอก็เดินตามหลังเขาและดลยามา แต่สามีของเธอกลับไม่ได้เรียกเธอสักนิด คิดจะทิ้งเธอให้กลับกับลุงจักรินอีกหรืออย่างไร จะไม่ใจดำไปหน่อยหรือ
“ดลกลับเองได้ค่ะ มัตถ์กลับบ้านไปกับน้องเอยเถอะนะคะ”
“จะมีคนมารับเธอกลับบ้านเองครับ” ปรมัตถ์หันไปตอบโดยที่ไม่ได้เหล่ไปมองคนที่พูดถึงสักนิด ความไม่พอใจในถ้อยคำของสาวเจ้ายังมีเต็มหัวใจ
“อย่าทำให้ดลลำบากใจไปมากกว่านี้เลยนะคะมัตถ์ ดลขอ” เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ พร้อมกับทำสีหน้าอ้อนวอน การทำเป็นคนดีในช่วงนี้ เธอยิ่งได้คะแนนดี
ด้านอุรัสยาก็ยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไรในบทสนทนา เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าปรมัตถ์จะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งเธอก็เห็นว่าเขาหันมามองตาเขม็ง
ดูท่าเขาคงอยากจะให้เธอเอ่ยปากปฏิเสธเป็นแน่ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะเงียบ เธอผิดหรือที่อยากจะกลับบ้านกับสามี แม้อีกไม่นานจะหย่ากันก็ตาม แถมเมื่อคืนอีกฝ่ายก็ได้เอาสามีของเธอไปอยู่ด้วยแล้วทั้งคืน
“ผมจะให้ลุงจักไปส่งดลครับ”
ในที่สุดปรมัตถ์ก็จำต้องทำตามคำขอของดลยา เพราะไม่อยากจะให้คนที่ตนรักคิดมากและกลัวว่าอีกฝ่ายจะลำบากใจแล้วหนีตนไปอีก
“ขอบคุณค่ะมัตถ์”
“ครับ” ก่อนจะหันไปหาภรรยาตีทะเบียนอีกครั้ง สายตาคู่คมบ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้ปรมัตถ์อารมณ์ขุ่นมัวแค่ไหน การที่ต้องพรากกันไปถึงสามปีมันทำให้เขาไม่อยากจะห่างจากดลยาสักวินาทีเดียว และต้นเหตุมันก็มาจากผู้หญิงคนนี้ แล้วบอกเสียงกระด้าง
“ขึ้นรถสิ จะยืนเฉยทำไมอุรัสยา”
หญิงสาวเลือกที่จะไม่ตอบโต้ใด ๆ แล้วเดินขึ้นไปยังหน้ารถ ไม่นานนักรถคันโตก็เคลื่อนตัวเพื่อกลับไปยังบ้านของคนทั้งสอง ตลอดทางนั้นไร้การสนทนาใด ๆ