“เอาน่าอย่าบ่นเป็นป้าแก่ไปได้เลย ฉันรับรู้ในความจริงใจของแกนะ แต่ว่าฉันยังอยากจะลองพยายามดูสักตั้ง ถ้าฉันแพ้กลับมา แกก็แค่อยู่ข้างๆ ฉัน ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ก็อย่าทิ้งเพื่อนคนนี้ไปไหนแล้วกัน” เพียงฟ้าเอ่ยก่อนที่จะมากอดเพื่อนเพื่อเอาใจ เธอรู้ดีว่าเพื่อนไม่ได้มีเจตนาร้ายๆ ยี่หวาเป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอมี จะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ถูก เรียกว่าครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอก็ว่าได้ ยี่หวารักและดูแลเธอมาตลอด ไม่ใช่ว่าเธอไม่ฟังในสิ่งที่เพื่อนเตือน แต่บางครั้ง หัวใจคนเรามันบังคับกันไม่ได้จริงๆ
“เอาเถอะในเมื่อแกเลือกแบบนี้ เจ็บก็กลับมาแล้วกัน แพทย์สนามคนนี้จะอยู่คอยรักษาผู้ป่วยที่เกิดอาการบาดเจ็บจากความรักทำร้าย” ยี่หวาเอ่ยไปหัวเราะไป
“นี่แกแช่งฉันใช่มั้ย ไม่คิดจะให้ฉันสมหวังเลยสักนิดเถอะ ไม่อยากมีเพื่อนเขยเป็นหมอเหรอ” เพียงฟ้าเอ่ยถามด้วยท่าทางงอนๆ
“ก็อยากมีนะ แต่ดูท่าเพื่อนเขย เขาไม่น่าจะอยากรู้จักกับพนักงานร้านกาแฟต่ำต้อยแบบฉันเถอะ” ยี่หวาตอบตามจริง แม้ว่าใจจะบอกว่าปล่อยวาง แต่ในใจกลับวางไม่ได้อย่างที่เธอพยายามจะสั่งหัวใจให้เป็นแบบนั้น
“คิดมากน่า เมื่อไหร่ที่เขารักฉัน เมื่อนั้นแหล่ะ เขาจะทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำ ไม่เชื่อแกคอยดูสิ” เพียงฟ้าเชื่อแบบนั้น
“เอาที่แกเชื่อเถอะ ฉันหมดคำจะพูดแล้ว ขอให้แกสมหวังแล้วกัน เอาเป็นว่าฉันจะอยู่ข้างๆ ไม่หนีไปไหน แค่นี้พอใจมั้ย” ยี่หวาเอ่ยออกมาเพื่อให้เพื่อนสาวเบาใจ
“โอเค” เพียงฟ้าตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อน
“ถ้าโอเคก็ทำงานต่อกันเถอะคุณนาย เดี๋ยวออเดอร์ไลน์แมนกับแกร๊บก็มาแล้วไม่มีเวลาให้พักหายใจแล้วนะ” ยี่หวาบอกก่อนที่จะเริ่มเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างในร้าน ก่อนที่ร้านจะเปิดในอีกสามสิบนาทีข้างหน้า ส่วนเพียงฟ้าเองก็รีบทำหน้าที่ของตนเอง นั่นก็คือจัดเรียงแก้วเติมให้เต็ม เพื่อที่ว่าระหว่างวันจะไม่ได้มาดูเรื่องพวกนี้อีก จะมีแค่ชงเครื่องดื่ม และรับออเดอร์จากช่องทางต่างๆ แค่นั้นพอ เมื่อถึงเวลาเร่งรีบ บทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเพียงฟ้าและธันว์จึงจบลงไปโดยปริยาย