ตอนที่ 7 ขนมหว๊าน หวาน
หลุนเหอจิ้งนั่งกินขนมปังไส้ผลไม้แห้งและคุกกี้ที่เพิ่งอบมาใหม่ๆ จากเตาในครัว
พ่อครัวประหลาดใจที่เห็นพระชายาทำขนมหน้าตาแปลกประหลาด ขนมในครัวจะเป็นขนมประเภทนึ่งเป็นส่วนใหญ่ ขนมที่พระชายาทำเป็นขนมประเภทอบ ดูไม่เหมือนขนมพื้นถิ่นที่มักทำกินกัน นางแบ่งให้คนครัวและสาวใช้กินกันถ้วนหน้า ล้วนชมว่าอร่อย นางจึงสั่งบ่าวชายในจวนปั้นเตาอบขนมขนาดใหญ่อีกห้าเตา สั่งทำให้เสร็จเร็วๆ เพราะมีความคิดว่าจะอบขนมขาย
คนมันสวยอยากได้อะไรก็ต้องได้
ขณะกำลังนั่งแทะขนมเพลินๆ จิบชาอยู่ที่สวนชมเหมย เบื้องหน้าคือแปลงดอกเหมยสีขาวชมพูกำลังบานสะพรั่ง ลมพัดอ่อนๆ เย็นสบาย นางทอดสายตาไปยังลานกว้าง แต่งกายด้วยชุดโปร่งบางสีม่วงอ่อนที่เพิ่งไปใช้อำนาจข่มขู่มาจากร้านตัดผ้า คลุมทับเสื้อตัวในสีขาวรัดอกอิ่มล้นขึ้นมา
ตั้งใจยั่วยวนแน่ ๆ ค่ะ ย้ำ ตั้งใจค่ะ ไม่มีอะไรที่ดิฉันไม่ตั้งใจ
ไม่นานจวิ้นอ๋องเหยียนจื่อหยา ควบม้าเข้ามาที่ลานหน้าตำหนักด้วยท่วงท่าสง่างาม
เห๊อะ! นางไม่รู้สินะว่าเขาเพิ่งกลับจากอารามจิ้นสือ หายันต์ปราบปีศาจมาแปะหัวพระชายา
หลุนเหอจิ้งมองเขาอย่างกับติ่งเกาหลีมองดาราในดวงใจ เรียกว่าเป็นแฟนด้อม Fanclub and Kingdom แต่เพียงผู้เดียว เครื่องหน้าคมชัดหล่อเหลา คิ้วหนาเข้มเฉียงขึ้นรับกับดวงตาดุดันราวพญาอินทรีย์ จมูกโด่งกว่าเทือกเขาหิมาลัย ปากหยักอิ่มหนาเล็กน้อยสีแดงระเรื่อ ผิวของเขาไม่ขาวจัดเพราะคร้ามแดดแต่เนียนละเอียดมองแทบไม่เห็นรูขุมขน
วันนี้เขาสวมชุดเกราะสีน้ำเงินรมดำ ชุดแม่ทัพใหญ่ซ้อมรบ เอิ่ม ช่างน่ากิน เอ๊ย ช่างหล่อเหลายิ่ง ร่างกายสูงใหญ่ราวเกือบร้อยเก้าสิบ อืม ใหญ่ เฮ่ย! ช่างแข็งแรงกำยำนัก เขาเดินเข้ามาหานางในศาลาชมเหมย
“ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว นั่งก่อนสิเจ้าคะ ข้ารินน้ำชาให้” แหม! ก็เป็นคนแบบสะดิ้ง เห็นคนหล่อแล้วต่อมร่านทำงานหนัก
“เจ้าทำสิ่งใดอยู่รึ”
“ข้าทำขนมรอท่าน มารอรับท่านพี่กลับจากค่ายทัพเจ้าค่ะ” พูดพลางช้อนตาหวานฉ่ำใส่เขา
“ขนมเจ้าหน้าตาแปลกนัก กลิ่นก็หอมยิ่ง”
“ท่านพี่ลองชิมหน่อยเจ้าค่ะ มือท่านยังไม่ได้ล้างเลย ข้าป้อนให้นะเจ้าคะ” นางพูดพลางหยิบคุกกี้หอมๆ ป้อนเข้าปากผู้เป็นสวามี เขาเอื้อมมือจับมือนางนำขนมเข้าปากตน ขณะที่ขนมเข้าปาก ปลายลิ้นร้อนสัมผัสกับปลายนิ้วขาวเรียวของนางเล็กน้อย เขาทำตาหวานเชื่อมใส่
โอ๊ยยยยย แม่! ช่วยหนูด้วยค่ะ ช่วยให้หนูอดทนเป็นกุลสตรีได้นานกว่านี้หน่อย จะท่องมนต์บทไหนสะกดความร่านในใจตัวเองดีคะ นะโม ตัสสะ อามิตตะพุด พระถังซัมจั๋ง แค่ปลายลิ้นสัมผัสนิ้วหนูก็ช็อตจะแย่แล้วค่ะ
“อร่อยรึไม่เจ้าคะ” เสแสร้งเอียงอาย
“อืม รสชาติดียิ่ง” เขากินหมดคำ นางก็รินชาเป่าให้คลายร้อนป้อนถึงปาก แหม เห็นคนหล่อแล้วอยากบริการนี่นา
“พี่ไปอาบน้ำก่อน รอพี่เพียงครู่ พี่จะกลับมาชมเหมยกับเจ้า” เหยียนจื่อหยายกยิ้มใส่ภรรยา รอยยิ้มที่แทบละลายสตรีทุกคนที่มีมดลูกให้สลบกองแทบเท้าหรือกระชากเขาเข้ามาปล้ำเสียเดี๋ยวนั้น
เฮ้อ! ชั้นต้องแสดงบทบาทสาวน้อยผู้แสนดี เอียงอาย อ่อนต่อโลกไปถึงไหนเนี่ย แค่วันสองวันชั้นจะไม่ไหวแล้วนะ เอิ่ม ต้องเริ่มแทนตัวเองว่าข้า ก็แล้วกัน ดูท่าจะเหมาะกับสถานการณ์ แล้วก็ฝึกพูดคำพูดโบราณอย่างนี้ให้ชิน
เขาเดินลับไปแล้ว นางนำนิ้วเมื่อตะกี้ที่โดนปากสวามีงับโดน นิ้วที่มีเศษคุกกี้ติดอยู่เล็กน้อยแตะเข้าปาก ว๊ายๆๆๆๆ นิดเดียวก็ยังดีเนอะ จูบทางอ้อม
เวลาผ่านไปสองเค่อ พระอาทิตย์ยามโหยว่ช่างงดงามนัก หลุนเหอจิ้งนั่งกึ่งนอนรับลมอยู่บนตั่งคล้ายจะหลับ พลันมีอ้อมกอดอบอุ่นโอบกอดนางสอดกายเข้ามาทางด้านหลัง มือโอบคว้าที่เอวบางรั้งไปแนบชิดแผงอกกำยำ นางสะดุ้งเฮือก กลิ่นกายบุรุษเพศที่เพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ช่างหอมยั่วน้ำลาย เขาใส่ชุดลำลองโปร่งเบาสีดำ ยังไม่ได้คาดสายรัดเอว เผยให้เห็นแผงอกกำยำ ลอนหน้าท้องชัดหกลูกขนาดนั้น sex appeal รุนแรงขนาดทอมยังต้องกลับใจ
“อ๊ะ ท่านพี่เจ้าขา มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ข้าตกใจหมด”
“ข้าเพียงอยากเย้าเจ้าเล่น” เหยียนจื่อหยาหลุบตามองใบหน้างามล่มเมืองของสตรีผู้เป็นภรรยา ชุดของนางนั้นบางเบาจนเห็นท่อนแขนกลมกลึง อกอวบงามโผล่พ้นเสื้อตัวในขึ้นมาอย่างหมิ่นเหม่ อารมณ์เขาเริ่มปั่นป่วน
“ขนมติดปากเจ้า” เขาก้มลงชิมเศษขนมบนปากภรรยา พลันลิ้นร้อนก็สอดเข้ารุกเร้าในปากเล็กๆ สีแดงสดของนาง มือหนาลูบไล้ที่ขาเรียวขาวผ่องโผล่พ้นอาภรณ์ มือร้อนเลื่อนลูบไล้ขึ้นเรื่อยๆ ไปยังต้นขา อีกมือดึงรั้งร่างนางแนบชิด จนอกอวบใหญ่เสียดสีกับแผงอกแกร่ง
สาวใช้ที่ยกกาน้ำชาเข้ามาเปลี่ยนให้ หน้าแดงซ่านรีบเดินออกห่างไปแทบไม่ทัน อารมณ์พิศวาสของทั้งคู่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหลังมอบจุมพิตแสนหวานล้ำให้กัน
ต้องชวนกลับตำหนักแล้วค่ะ ต้องจัดการ ไม่ไหวค่ะ วันนี้ต้องได้กิน!!!!!!!! หลุนเหอจิ้งคิดในใจ
พลันอารมณ์พิศวาสก็มอดดับ เมื่อได้ยินเสียงรถม้าหลายคัน ขับเข้ามาอย่างรีบเร่ง นางถอนปากอิ่มจากปากของสวามี เงยหน้าขึ้นมองรถม้าขัดจังหวะเหล่านั้น นางลุกขึ้นยืนมองรถม้าสวยงามถึงสองคัน ควบขับเข้ามาจอด
ม้าหมอกเมฆาชั้นดีสีขาวสองตัวควบแข่งกันมาด้านหลัง มองตราสัญลักษณ์บนรถม้าอย่างเคืองๆ จะใครซะอีกเล่า ครอบครัวตัวยุ่งของนางมาเยี่ยมนางอีกแล้ว
เดี๋ยวนะ! เพิ่งไปเมื่อยามซื่อ ทำไมกลับมาเยี่ยมอีกแล้ว ยังไม่ทันข้ามวันเลย สนุกนั่งรถม้ากันหรืออย่างไร
พี่ชายทั้งสองกระโดดลงจากม้าอย่างสง่าผ่าเผย รีบรี่ตรงเข้ามากอดหลุนเหอจิ้ง จนสวามีสุดรักต้องเด้งตัวหลบไปด้านข้าง
พี่ชายทั้งสองช่างมาได้ถูกเวลายิ่ง (มองบน)
“คารวะ ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย ฮูหยินรอง ฮูหยินสาม” จวิ้นอ๋องค้อมกายคารวะ พ่อตาแม่ยายของตน
“จวิ้นอ๋องอย่าได้มากพิธี พวกเราเพียงแต่มาเยี่ยมจิ้งเอ๋อร์ลูกรักเท่านั้น มารดานางร้องไห้งอแง ยังไม่วางใจเรื่องบุตรสาวเพิ่งฟื้น รบเร้าอยากกลับมาดูให้คลายใจว่านางสบายดีจริงๆ” อุปราชหลุนหยงเยี่ยนกล่าวกับบุตรเขย
อันที่จริงเขารักบุตรเขยราวกับบุตรชายทีเดียว เพราะคุ้นเคยกันมาแต่ยังเล็ก เหยียนจื่อหยา ลอบมองพี่ชายทั้งสองของนาง ที่เอาแต่ทั้งกอดทั้งลูบผมน้องสาวอยู่นั่น เขาข่มความไม่พอใจเอาไว้ แม้เป็นพี่ชายก็ไม่ควรใกล้ชิดกันเช่นนี้ เมื่อไหร่สองคนนั่นจะกลับหัวเมืองไปทำการทำงาน มัวแต่มาตามเฝ้าน้องสาวคนงามอยู่ทุกวี่วัน
เขาพูดตัดบท “เชิญทุกท่านเข้ารับสำรับเย็นด้วยกัน ถึงเวลาแล้วขอรับ” ทั้งหมดจึงเดินไปที่ห้องโถงกลางซึ่งเป็นห้องทานอาหารตำหนักจวิ้นอ๋อง
หลุนเหอจิ้งเพิ่งอภิเษกเข้าตำหนักได้ไม่นานก็จมน้ำตาย จึงยังไม่คุ้นเคยกับตำหนัก นางคงเหงาไม่น้อยที่ต้องจากจวนอันอบอุ่นของบิดาเพื่อแต่งเข้ามาเป็นชายาเอก ณ ตำหนักอ๋อง
ชินอ๋องมองภรรยากำลังคุยกับครอบครัวอย่างมีความสุข เขาก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย
ห้องเครื่องตำหนักจวิ้นอ๋องจึงเร่งทำอาหารมาเพิ่มอย่างเร่งด่วน เนื่องจากแขกคนสำคัญไม่ได้แจ้งล่วงหน้า อาหารแปดอย่าง ไก่ตุ๋นโสม ขาหมูน้ำแดง ปลาผัดพริกเสฉวน ผัดผักสามอย่าง เห็ดน้ำแดง เป็ดพะโล้ ไก่กรอบซอสสามรส และเสี่ยวหลงเปา ช่างส่งกลิ่นหอมน่ากิน พร้อมขนมที่นางทำเมื่อกลางวันถูกยกเข้ามา ทุกคนรับประทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ครอบครัวแย้มยิ้มชื่นมื่นมีความสุขเติมเต็มหัวใจ
สุขใดเล่าจะสุขเท่าครอบครัว
ขนมที่ว่าหวานยังไม่หวานเท่า Home sweet home