หลุนเหอจิ้งตื่นแต่ยามเหม่าเช่นเคย เรียกหลี่เว่ยที่กำลังทำหน้าเหมือนยังไม่อยากลุกจากที่นอนออกมาจากที่พักองครักษ์หลังตำหนัก
“พาข้าไปโรงหลอมเหล็ก”
“ขอรับ พระชายาสั่งทำสิ่งใดรึขอรับ”
“ข้าสั่งทำอาวุธไว้ จะไปลองใช้เสียหน่อย” เขาได้แต่แปลกในว่านางจะนำไปใช้ต่อสู้กับผู้ใด
ทั้งสองควบม้าไปที่โรงหลอมเหล็ก ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึง เถ้าแก่เจ้าของโรงหลอมออกมาต้อนรับ
“ของที่ท่านสั่งทำอยู่ด้านในขอรับ” เขาเดินนำนางไปยังห้องที่เก็บอาวุธที่ทำเสร็จแล้ว
นางเดินสำรวจอาวุธที่สั่งทำ มีดบินจำนวนมาก มีดสั้นแบบต่างๆ มากมาย และแส้เหล็กกล้าที่แต่ละข้อปล้องของแส้นั้นถูกลับให้คมกริบราวมีดโกน มีเข็มพิษอยู่จำนวนหนึ่ง นางยืนดูอย่างพึงพอใจ
นางหยิบมีดบินขึ้นมาอันหนึ่งปาไปยังหลี่เว่ยที่ยืนอยู่ห่างหลายจั้ง มีดบินคมกริบพุ่งแหวกอากาศไปแบบหวังผลการสังหาร
หลี่เว่ยเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว มีดบินเล่มนั้นเฉียดอกเขาไปอย่างเฉียดฉิว มีดบินอีกอันตามมาติดๆ ที่ลำคอ ดูแล้วไม่ได้นางไม่ได้คิดล้อเล่น นางไม่ได้ออมมือแต่อย่างใด มีดบินเหล่านั้นล้วนพุ่งเข้าหาจุดตาย เขาใช้พลังปราณช่วยหลบอย่างว่องไวสุดกำลัง มีดคมกริบเฉียดเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอเป็นรอยถาก มีเลือดซึมออกมาเหมือนรอยแมวข่วน หากไม่ได้ใช้พลังปราณในร่างช่วยหลบหลีก เส้นเลือดที่คอคงกระจุยไปแล้ว
ใบหน้านางเรียบเฉย แต่ขณะนี้องครักษ์ประจำตัวได้แต่ยืนตกใจหน้าซีด ไม่นึกว่าคำว่าลองใช้ของนาง คือลองกับตัวเขา
“เจ้าหลบมีดบินข้าได้นับว่าไม่ธรรมดา” นางเอ่ยชม
เขาผู้มีฝีมือไม่เคยเป็นรองใครยังเกือบเอาชีวิตไม่รอด หลี่เว่ยเริ่มสงสัยฝีมือการสังหารของพระชายานั้นอยู่ในระดับใด หากการจู่โจมทั่วไปเขาไม่เคยพลาดแม้เพียงครั้ง ไม่เคยต้องใช้พลังปราณช่วยหลบหลีกแม้ต่อสู้กับชายฉกรรจ์ แต่ครั้งนี้เส้นเลือดที่คอเกือบถูกเกี่ยวไปพร้อมกับมีดบิน เขาชักเสียวสันหลัง เหตุใดดรุณีน้อยจึงมีทักษะการสังหารอันเชี่ยวชาญ
“ข้าต้องการซื้อโรงหลอม เจ้าเก็บของออกไปได้ ยกเว้นช่างตีเหล็ก ช่างหลอมให้ทำงานตามเดิม” นางเอ่ยบอกเจ้าของโรงหลอม
“ข้าไม่ขายโรงหลอม” เถ้าแก่สบตากับนางมิได้มีความกลัวเกรง
“เหตุใดจึงไม่อยากขายโรงหลอมเหล็กให้ข้า นอกจากเจ้าจะได้เงินมากมายแล้ว เงินในหีบทำให้เจ้าไม่ต้องทำงานไปทั้งชีวิต” นางเอ่ยถามเรียบๆ
“ข้าทำงานกับโรงหลอมมาค่อนชีวิต ย่อมมีความรักความผูกพัน ความชำนาญที่ข้ามีย่อมทำงานให้ท่านได้เต็มที่ เรียกว่าทำได้ดีกว่าที่ท่านจะควบคุมเองด้วยซ้ำ ท่านมีความรู้อันใดมากกว่าข้าเรื่องหลอมเหล็ก”
“เจ้ากล้าขัดใจข้ารึ รู้รึไม่ว่าข้าคือผู้ใด มีศักดิ์ฐานะอย่างไร” นางเริ่มวางมาดนางพญาข่มขู่
“ข้าทราบดี แต่ข้ายังยืนยันคำเดิม”
นางมองหน้าเขานิ่ง หลี่เว่ยเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น
นางยกยิ้มที่มุมปาก
“หลี่เว่ย ตกลงข้าจะทำสัญญาหลอมอาวุธกับเถ้าแก่ของโรงหลอม ดียิ่ง ดีมาก ข้าตามหาคนเช่นเถ้าแก่มานาน คนที่ยึดอุดมการณ์ นับถือฝีมือของตนเองอย่างแน่วแน่”
หลี่เว่ยนำหีบทองขนาดกลางที่มีก้อนทองอยู่เต็มหีบยกมาให้เถ้าแก่ เถ้าแก่ได้แต่ประหลาดใจที่นางมิได้โกรธเคืองอันใดกับวาจาอันสามหาวของเขา
“ข้าตระเวนไปโรงหลอมหลายที่ ทุกที่ข้าล้วนแต่ยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวนมาก บรรดาเถ้าแก่ต่างรีบเก็บของไม่มีรอ”
“แล้วเหตุใดท่านจึงเลือกโรงหลอมของข้าให้ทำงานให้ท่าน ซ้ำเงินจำนวนมากเพียงนี้ท่านจะทำอาวุธใด”
“ผู้ที่ไม่รักงานที่ตนทำ ไม่อุทิศทุ่มเทให้กับอาชีพนั้น ทำสิ่งใดล้วนได้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ท่านปฏิเสธข้า มันแสดงถึงจิตวิญญาณของท่านต่อสิ่งที่ท่านทำ ท่านย่อมต้องทำได้ดีเป็นแน่”
“ท่านต้องการอาวุธแบบใดขอรับ”
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้ เพียงหลอมเหล็กตามแบบที่ข้าสั่งเท่านั้น”
อลิซ แลงค์ ต้องการอาวุธเพื่อป้องกันตัว ซึ่งอาวุธที่นางใช้ชำนาญคือมีดบินที่มีระยะการสังหารไม่เกินสิบเมตรเรียกได้ว่า one hit kill ปักเดียวตาย นางชอบใช้มีดสั้นในการสังหาร หากมีปืนให้เลือกคงใช้ปืน อีกอย่างนางคิดจะทำอาวุธที่ร้ายแรงกว่านั้น
ร่างบางเดินไปยังลานหลังตำหนัก นางบอกให้ปล่อยนกทีละตัว นางมองไปที่นกที่กำลังโบยบินอย่างเสรี
มีดบินถูกปาออกไปอย่างรวดเร็วมองแทบไม่ทัน แหวกอากาศไปปักที่นกเหล่านั้นที่กำลังกระพือปีกดีใจที่ถูกปลดปล่อยจากกรงขัง นกทุกตัวที่ถูกปล่อยออกมาต่างถูกมีดบินปัก ดิ้นพล่านอยู่ที่พื้น
ดรุณีน้อยเหยียดยิ้ม แววตานางมีความสุขยามเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิต
จวิ้นอ๋องยืนมองภาพนั้นพร้อมคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจว่าเหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขานึกถึงภาพหลุนเหอจิ้งที่เคยกอดแมวน้อยในอ้อมอกที่จวนของบิดา นางป้อนอาหารนกแก้วที่เลี้ยงไว้ด้วยมือเรียวขาว รักสัตว์ทุกชนิดที่มีชีวิต
เหยียนจื่อหยาเริ่มสับสนในใจว่านางที่ยืนอยู่ตรงนี้ใช่คนเดียวกับที่เขารักหรือไม่
**************
ณ ที่แสนห่างไกล
วิหค ลมกรดบินร่อนถลาลงเกาะยังแขนแกร่งกำยำของบุรุษผู้นั้น เขารออ่านสาส์นที่ส่งมาอย่างใจจดใจจ่อ
‘นางมาที่ร้านทุกวัน วันนี้นางแต่งกายสีเขียวเข้ม นางไปสั่งทำอาวุธยังโรงหลอม นางสบายดี’
“ถึงเวลาที่ข้าจะกลับไปหาเจ้าแล้ว หลุนเหอจิ้ง ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก” ขึ้นทันใดเขายิ้มอ่อนโยน
“ไปแคว้นฝู” เขาเอ่ยด้วยเสียงอันดัง พลันเงาร่างราวสิบสายที่ไม่รู้โผล่มาจากตรงที่ใด เหล่าบุรุษในชุดดำ แววตาไม่ยินดียินร้ายเหมือนคนตายแล้ว ไปมาราวภูตผี พริบตานั่งคุกเข่ารอรับคำสั่งตรงหน้าเขา
“ข้าจะไปหานาง”