หลายวันต่อมา
1.12 PM.
"ช่วงนี้รู้สึกไม่ดีเลย"
มีนที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆหันมามองพร้อมเลิกคิ้วมองฉันด้วยความสงสัยขณะที่ฉันก็หมุนปากกาในมือเล่นแต่มันก็ยังคงมีความหนักใจอยู่
"เป็นอะไร?"
"เหมือนกูโดนตาม" ฉันถอนหายใจและมองมีน "หลายวันแล้วนะเวลากูไปนั่งวาดรูปเวลาไปกินข้าวแม่งมีคนตามกูจริงๆ"
"มึงรู้สึกไปเองไหม?"
"ไม่ๆ เมื่อวานกูหันไปมองกูเห็นผู้ชายตัวโตๆหันหนีแล้วทำทีเป็นเดินหนีด้วย"
"เฮ้ย" มีนขมวดคิ้วมองฉันก่อนมันจะเม้มปากด้วยท่าทีหนักใจไม่แพ้กัน "น่ากลัวนะมึงไปแจ้งความไหม?"
"กูว่าถ้ามันยังไม่หยุดกูจะแจ้งว่ะ"
"เออๆงั้นกูจะพาไป"
ฉันพยักหน้าให้มีนพร้อมกับอาจารย์ประจำวิชาที่กำลังเดินเข้าเราเลยหันมาสนใจเรียนกันก่อน ฉันฟังอาจารย์รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเพราะมัวแต่คิดเรื่องที่ตัวเองกำลังเจอ คือมันมีคนตามฉันจริงๆถึงมันไม่เข้ามาทักแต่ก็ยังน่ากลัวมากอยู่ดี
4.01 PM.
"ให้กูไปนั่งด้วยไหมล่ะตอนมึงวาดรูปอ่ะ"
"กูกลัวว่ามันจะนานน่ะสิ"
ฉันมองมีนที่กำลังมองมาอย่างเป็นห่วงก่อนจะตบไหล่มันเบาๆ
"กูอยู่ได้มึง"
"เอางั้นหรอวะ?"
"กูมึงมีงานต่อไหมพวกอีดิวก็รออยู่"
"โอ้ยกูเป็นห่วงมึง" มีนมันว่าก่อนจะมองฉัน "งั้นกูไปนะถ้ามึงมีอะไรรีบโทรหากูไม่ก็ตำรวจเลย"
"เออ กูรู้น่ามึงไปเถอะ"
"เคงั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้"
ฉันพยักหน้าให้มีนก่อนเดินแยกกับมันที่หน้าคณะไปทางสนามบอล งานที่ฉันทำที่เป็นการสเก็ตภาพเมื่อหลายวันก่อนมันมีปัญหาอ่ะคืออาจารย์ติเรื่องที่ภาพมันค่อนข้างจะไม่มีชีวิตไม่มีอารมณ์และความรู้สึกฉันจึงต้องกลับมาเพิ่มลายละเอียดไม่ก็อาจจะได้รื้องานทำใหม่
"เฮ้อ"
หลังจากที่หามุมได้และวางของพร้อมวาดฉันก็จัดการเพ่งมองสนามบอลตรงหน้าอีกครั้ง ด้วยความที่ตอนนี้มันเริ่มเย็นจึงมีนักกีฬาและนักศึกษาที่พากันออกมาวิ่ง ฉันมองภาพตรงหน้าไปเรื่อยๆเพื่อเก็บรายละเอียด
..ไม่แน่อาจารย์อาจต้องการให้มีผู้คนในภาพบ้าง
ฟึ้บ!
ฉันสะดุ้งก่อนหันมองเสียงของพุ่มไม้ที่สั่นไหวและลุกขึ้นยืนมองมันด้วยความตกใจ
"ใครน่ะ!!?"
มันมีคน มีคนที่กำลังยืนหลบอยู่หลังพุ่มไม้นี้ฉันหันมาถือไม้โปรไว้ทันทีพร้อมกำมันแน่น
"ถามว่าใครถ้าไม่ออกมาเราตีจริงๆนะ!"
"ดะเดี๋ยวค่ะ!'
เสียงผู้ชาย? ฉันขมวดคิ้วมองร่างใหญ่ที่ค่อยๆขยับออกมาจากพุ่มไม้เล็กๆขณะที่เขาก็มองฉันอย่างกลัวๆแต่..หน้ามันคุ้นมาก
"คือซันมาดีนะคะ"
"ซัน..ซันเดย์เดือนมหาลัยป่ะ??"
"ใช่ค่ะใช่เราเอง"
ฉันไม่เข้าใจ ฉันลดไม้โปรในมือลงมองซันเดย์ขณะที่เขาก็มองฉันพลางยิ้มแห้ง
"นายเป็นคนตามเราหรอ?"
"เอ่อ..ขอโทษที่ทำให้กลัวนะคะแต่เรามีเรื่องจะคุยกับเนมอ่ะ"
"ก็แล้วทำไมไม่เข้ามาคุยดีๆจะมาตามให้กลัวทำไม?"
"ขอโทษน๊าา" ฉันถอนหายใจออกมาและวางไม้โปรลงที่ม้านั่ง "คืองี้เนมคือซันมีเรื่องจะถามอ่ะค่ะ"
"ว่า?"
"เนมเป็นผู้ชายหรอ?"
"ห๊ะ?"
"แบบว่าผู้ชายแบบซัน" ฉันขมวดคิ้วอีกครั้งก่อนที่ซันจะโบกมือไปมา "คือเราไม่ได้จะอะไรเนมนะเพียงแต่เราสงสัย"
"เราเป็นผู้หญิงจะดูบัตรประชาชนไหมล่ะ?"
"ไม่ๆ เรามั่นใจอยู่แล้วว่าเนมเป็นผู้หญิงแต่เราถามเพื่อให้มันแน่ใจร้อยเปอร์งี้"
อะไรของมันวะ?
"แล้วซันมีอะไรหรอทำไมถามเรางี้?"
"คือว่าเพื่อนเราต้องการตัวเนมอ่ะ"
"ห๊ะ?"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ" ซันเดย์โบกมือไปมาอีกครั้ง "เพื่อนเราอยากชวนเนมเข้าไปเล่นบอลด้วย"
"บอล?"
"บอลทีมมหาลัย"
"นั้นมีแต่ผู้ชายไม่ใช่หรอ?"
"ก็ใช่..คือเพื่อนเราที่เป็นกัปตันอ่ะมันคิดว่าเนมเป็นผู้ชายแล้วมันก็เถียงเสียงแข็งว่าเนมอ่ะไม่ใช่ผู้หญิง"
ซันเดย์ยิ้มแห้งขณะที่ฉันกำลังจ้องมองอยู่
"เพื่อนซันนี่ใครหรอ?"
"เอ่อ.." ซันเม้มปากก่อนชี้ไปที่สนามบอล "คนที่ใส่ปอกแขน"
ฉันมองตามนิ้วเรียวก่อนขมวดคิ้วมองร่างสูงกลางสนามที่กำลังวิ่งวอร์มร่างกายกับเพื่อนในทีมอยู่แต่หน้ามันอ่ะไม่ใช่แค่คุ้น..นั้นมันไอ้หน้าหล่อใจทรามนิ
"มันโง่หรอ" ฉันหลุดปากก่อนจะมองซัน "โทษที"
"ไม่เป็นไรซันก็คิดว่ามันโง่เหมือนกัน แฮะๆ"
"เขาชื่อไรนะ เพื่อนซันอ่ะ"
"พูม มันชื่อไอ้พูม"
อ่อ..ยิ่งได้รู้ชื่อฉันยิ่งมั่นใจว่ารู้จักชื่อนี้มาก่อนเพราะมีนเล่าให้ฟังบ่อยๆว่ามีคนชื่อนี้มาจีบและมีนค่อนข้างรำคาญให้ความผีบ้าของมัน มันกวนตีนมากจนมีนไม่อยากจะยุ่งอ่ะ
"อ่อ..เดี๋ยวเราลงไปเล่นด้วยก็ได้"
"ห๊ะ?"
"แต่ซันห้ามบอกพูมว่าเราเป็นผู้หญิง"
ซันเดย์เลิกคิ้วขณะที่ฉันก็หันมองไอ้พูมอีกครั้งพร้อมยกยิ้ม..เกิดมาไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่านี้มาก่อนแถมมันยังทำเอามีนเกือบประสาทกินอีกเพราะงั้นฉันก็จะสนองในความกวนตีนของมันให้แล้วกันนะ
"อีพูม!"
หลังจากที่ตกลงกับซันเดย์เสร็จซันเเดย์ก็พาฉันเดินลงมาที่สนาม ฉันวางกระเป๋าลงที่สแตนและเดินเข้าไปหาไอ้กัปตันที่กำลังทำหน้ากวนส้นตีนอยู่ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
"มึงจะเสียงดังไปทำไมไอ้ซัน"
ซันเดย์ขมวดคิ้วมองพูมพร้อมกับร่างสูงที่เดินมาเผชิญหน้ากับฉัน
"กูรู้แล้วว่าไอ้เนมมันตกลง"
เออเชื่อแล้วว่ามันโง่จริงที่คิดว่าฉันเป็นผู้ชายจริงๆ ฉันยกยิ้มและเงยหน้ามองไอ้พูม
"กูไม่ได้ตกลงกูแค่ลงมาเล่นด้วย"
"เหอะ"
"และมึงก็ติดคำขอโทษกูอยู่"
ฉันกอดอกและมองไอ้พูมที่กำลังขมวดคิ้วมองฉัน มันเลิกคิ้วก่อนจะเดินมาใกล้อีกเท่าตัวไอ้นี่มันคุกคามเก่งจริงๆ
"ขอโทษหรอมึงไหมที่ควรขอโทษที่แย่งมีนกูกูไม่พาเพื่อนอีกแปดสิบคนไปรุมมึงก็ดีแค่ไหนแล้ว"
"ใจเย็นพูมเพื่อนมึงมีไม่ถึงสิบ"
"อีซัน!"
"อ่ะจ้างั้นกูไปวิ่งนะคะ"
ซันเดย์ที่ได้โอกาสหนีรีบวิ่งลัดสนามเพื่อไปวิ่งให้ทันเพื่อนส่วนฉันก็ยังคงยืนจ้องตากับพูมอยู่
"มึงนี้ห้าวนะเนมไม่เคยกลัวไรเลยดิ"
"มีไรให้กลัว"
"กลัวกูไว้บ้างก็ดี"
"ทำไม? มึงเป็นผีหรอพูม??"
"อย่าพูดงั้นดิวะ"
ฉันขมวดคิ้วมองไอ้พูมทันทีขณะที่มันกำลังหันมองซ้ายทีขวาทีราวกับคนติดยา
"ทำไม??"
"ขนลุกเลยกู"
"มึงเป็นอะไรเนี้ย"
"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!"
"โอ้ยกูล่ะรำคาญมึง"
ฉันมองไอ้พูมอย่างเอือมระอาขณะที่มันก็ลูบแขนตัวเองไปมาแรงและใช่ ขนมันลุกจริงไม่ใช่ลุกแบบเล่นๆนะ มันถลึงตามองฉันก่อนจะยืดตัวอีกครั้ง
"เออ ว่าแล้วมีนไปไหนทำไมพวกมึงไม่ตัวติดกัน?"
"โทษนะแฟนกันไม่จำเป็นต้องตัวติดกันไหม?"
"นะนี่มึงยอมรับแล้วว่าตัวเองเป็นมือที่สามระหว่างกูกะมีน!"
ไอ้พูมว่าพร้อมชี้หน้าฉันขณะที่ฉันก็เท้าสะเอวมองมัน
"มึงคบกับมีนยัง?"
"ยัง"
"แล้วคนคุยล่ะ?"
"อะไรคือคนคุย?"
ไอ้พูมนิ่งไปทันทีเมื่อฉันถามแบบนั้น และแม่งเอ้ยมันไม่รู้แม้แต่สถานะตัวเองระหว่างมีนกะมัน
"คนคุยเขาให้เป็นรึยังยังไม่รู้เลยแล้วนี่มึงมาหาเรื่องกูน่ะนะ?" ฉันมองไอ้พูมอย่างโคตรจะไม่เข้าใจขณะที่มันก็เอาแต่เงียบ "ทำไมอ่ะกูทำไรผิดถ้ากูรู้ว่ามึงคุยแล้วกูจะถอยนะแต่นี่กูไม่รู้จักมึงไงพูม"
"สัส"
"มึงว่าไงนะ?"
"แล้วทำไมกูต้องมาอกหักด้วยล่ะทั้งๆที่กูชอบมีนมากขนาดนั้นทำไมอ่ะทำไม!!?"
"เอ้าไอ้นี่"
ฉันมองตามไอ้พูมที่เดินลัดสนามออกไปพร้อมกับซันเดย์ที่วิ่งเข้ามาอย่างตื่นๆ
"เกิดไรขึ้น?"
"ไม่รู้จู่ๆมันก็เดินออกไป"
"เนมไปจี้ใจดำอะไรมัน?"
"เราก็แค่ถามว่ามีนคุยมันสถานะอะไรแต่มันตอบไม่ได้"
"มันงอนอ่ะดิ แบบนี้มันงอนแน่นอน!"
ฉันหันมองซันอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนมองตามร่างสูงที่เดินไปนั่งบนสแตนด้วยท่าทีเศร้าๆจนฉันเริ่มรู้สึกผิด...คือกูพูดจี้มันมากไปหรอ?
"มันก็เพิ่งอกหักมาไง"
"แล้วงี้ต้องทำไง?" ฉันมองซันเดย์ขณะที่ซันก็มองฉันพร้อมยิ้มแห้ง "คือเราต้องง้อหรอ?"
"ก็ประมาณนั้น"
"งั้นซันก็ไปคุย"
"เราต้องซ้อมไง ไอ้พูมไม่ซ้อมงี้ใครจะคุมน่าช่วยหน่อยนะเนมนะ"
"ให้ตาย"
ฉันถอนหายใจก่อนเดินกลับมาทางสแตนอีกครั้งขณะที่ไอ้พูมกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้วยท่าทีเครียดๆ
"พูม" พูมเลิกคิ้วก่อนขยับหนีเมื่อฉันขยับลงไปนั่ง "มึงงอนไร?"
"อะไร ใครงอน ไม่มี"
มันเลิกคิ้วตอบเสียงดังทีละคำแบบโคตรจะชัดจนฉันอดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้
"เอาเป็นว่ากูอาจพูดแรงไปแต่ที่กูพูดมันก็จริงไม่ใช่หรอ"
"อะไรที่ว่าจริง"
"ก็ในเมื่อมีนไม่ได้เลือกมึงมึงก็มูฟออนดิ"
ฉันมองไอ้พูมและจริงๆมันไม่ได้แย่มันหล่อเสียแต่เป็นบ้าแค่นั้นแหละข้อเสียมันอ่ะ
"มึงก็พูดง่ายดิมึงเป็นคนถูกเลือก"
"ไม่มีใครเป็นตัวเลือกใคร" ฉันขมวดคิ้วมองไอ้พูมที่มันคิดงั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ "คนนะไม่ใช่สิ่งของที่จะมาชี้นิ้วเลือกมันเป็นความรู้สึกล้วนๆ"
ไอ้พูมหันมามองฉันช้าๆขณะที่ฉันก็เลิกคิ้วมองมันก่อนจะเหยียดยิ้มพร้อมตบไหล่มันเบาๆ
"อกหักแป๊บเดียวก็หายมันเจ็บแค่ตอนแรกแหละแต่ไม่นานเดี๋ยวมันก็ดีเอง"
"นี่มึง.."
"อะไร? กูทำไม?"
"มึงนี่ดูไปก็ไม่ได้แย่ไหมวะ" ฉันขมวดคิ้วมองไอ้พูมที่กำลังยิ้มอย่างไม่เข้าใจ อะไรอ่ะมันเป็นบ้าหรอเมื่อกี้ยังด่ากันอยู่เลย "ไปกินเหล้ากับกูป่ะ?"
"ห๊ะ?"
"กูชอบเวลามึงพูดว่ะดูเจ้าบทเจ้ากลอน"
"เดี๋ยวๆๆ"
"งั้นวันนี้มึงเตะบอลกะพวกกูแล้วไปหาเหล้าแดกกันร้านดาวเรืองอย่างได้ดะกูเลี้ยงเลยโปรนึง"
ฉันหวอแล้วนะ ฉันอ้าปากมึงไอ้พูมขณะที่มันก็ลุกยืนและคว้ามือฉันให้เดินตามเข้าสนามอีกครั้ง
"เฮ้ยพวกมึงนี่ไอ้เนมเพื่อนใหม่กูดะมันจะเลี้ยงด้วยมันปั่นฟรีอย่างจ๊าบ"
เฮ้ยเดี๋ยว ฉันมองไอ้พูมที่กำลังลากฉันเข้าสนามอย่างทำตัวไม่ถูกแถมมันยังแนะนำฉันกับเพื่อนๆน้องๆมันอย่างกะเราเป็นเพื่อนกันมานานทั้งๆที่เมื่อกี้ยังคิดว่าฉันเป็นมารหัวใจมันอยู่เลย
ฉันมองซันเดย์ขณะที่ซันก็ยิ้มแห้งแบบรู้ซะตากรรมแต่ไม่คิดจะบอกฉันเลย...อะไรวะเนี้ยประสาทกูจะแดก!