กริ๊งงงง
"ประชุมด่วน" ผอ. ทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะรีบผละตัวออกห่าง "คืนนี้ฉันจะไปหา ต่อให้เธอจะเป็นประจำเดือน ประจำปี ก็ช่าง"
"คนบ้าาาา"
"ได้ยิน"
"เฮ้อ ขอตัวก่อนนะคะ"
"ไปแต่ตัว..ทิ้งหัวใจไว้สิ"
คำพูดช่างสรรหา สาวน้อยไม่ได้ตกหลุมพราง ทำหน้าตาทะเล้นใส่อีกต่างหาก
โรงอาหาร
"นี่..โนราห์ ได้ข่าวว่าเพื่อนเธอมีแต่รอย" ฝันเดินมาโดยมีพวกรุมล้อม "มันเพิ่งมาส่งงานตะกี้"
"ยัยนั่นไม่ใช่เพื่อนฉัน"
"ก็เห็นเธอเหมือนจะออกตัวแทนมัน แต่ก็นะ..พวกนักเรียนทุนก็ต้องคบคนประเภทเดียวกัน"
"พูดจบหรือยัง?น่ารำคาญ"
แม้จะพูดตัดบทแต่ภายในใจกลับกังวล หลังจากไม่เจออิงหลายวัน โนราห์ตัดสินใจเดินตามหาที่ร้านกาแฟแถวสถาบันที่อีกฝ่ายเคยบอกไว้ว่าทำงานพาร์ทไทม์
"รับอะไรดีคะ" พนักงานคนอื่นเดินเข้ามาพร้อมถือกระดาษเมนู "ร้านเรามีชีสเบอรี เป็นเมนูแนะนำค่ะ"
"ขอสอบถามหน่อยได้ไหมคะ..อิง เอ่อ พนักงานชั่วคราวที่นี่มาทำงานไหม"
"อ๋อออ วันนี้น่าจะลานะคะ ได้ยินข่าวว่าไม่สบาย แต่จะเป็นแบบนี้ในช่วงพ่อแม่เดินทางกลับมา จะว่าแปลกก็แปลกอยู่นะคะ อุ๊ย! พูดเยอะเกินไปขออภัยค่ะ เดี๋ยวคุณลูกค้านั่งรอสักครู่นะคะจะรีบไปสั่งเมนูแล้วให้พนักงานมาเสิร์ฟ"
ยิ่งได้ยินเพื่อนร่วมงานเอ่ยถึง โนราห์ผู้ที่ไม่สนใจโลกภายนอกกับรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา สุดท้ายตัดสินใจขอบ้านเลขที่เพื่อตามหา
ในซอยถัดไปเป็นหมู่บ้านเล็ก รั้วชิดติดกันขายทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวที่มีหลากหลายสี
บ้านสีเหลืองอ่อน ติดที่ดินรกร้าง คือแผนที่จากเพื่อนร่วมงานของอิงซึ่งจดรายละเอียดเอาไว้ค่อนข้างชัดเจน
"โนราห์!" ทันทีเมื่อย่างก้าวเข้าไปใกล้ปรากฏเสียงเรียกตะโกนไล่หลังออกมาจากป่าที่อยู่ด้านข้างพร้อมกับถั่วฝักยาวเต็มตะกร้า
"อิง.."
"มาทำอะไรแถวนี้เหรอ"
"แค่หลงทางมา"
"เข้ามาบ้านเราก่อนไหม"
อีกฝ่ายพูดพรางลุ้นคำตอบเนื่องจากไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน และ ไม่มีใครรู้ด้วยว่าตัวเองอยู่บ้านหลังไหน ทำให้น่าตื่นเต้นไม่น้อย
ในบ้าน
"โนราห์กินข้าวมาหรือยังเรามีไข่เจียวนะ" อิงพูดด้วยรอยยิ้มสดใสแต่ทว่า..
"ทำไมแขนขามีแต่รอยฟกช้ำ"
"ไปเก็บผักตกต้นไม้บ้างอะไรบ้าง แฮ่"
"เธอคิดว่าฉันโง่หรือไง? รอยแบบนี้มันถูกเฆี่ยนตีชัดๆ สมัยนี้เขาไม่มีระบบทาสแล้วนะ"
"อย่าพูดแบบนั้นเลยที่เรามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่กับพ่อ"
บางอย่างทำให้สงสัย โนราห์ตัดสินใจถาม "พ่อกับแม่ที่ให้กำหนดเธอมาจริงๆ ใช่ไหม"
"เปล่าหรอก..เราเป็นลูกสาวของเพื่อนพวกเขา พ่อแม่ของเราประสบอุบัติเหตุตายตอนที่เราเพิ่งเกิดเขาก็เลยอาสารับเลี้ยง อีกอย่างญาติที่ไหนก็ไม่ประสงค์จะรับเราไป ครอบครัวของเราไม่ได้รวยมากอยู่ตามข้างนอก"
"รับมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กก็สมควรที่จะเอ็นดู ไม่ใช่มาทุบตีทารุณแบบนี้!"
โนราห์พูดอย่างโมโหขณะที่น้ำตาของอิงไหลแต่ก็รีบบาดเช็กเพื่อไม่อยากให้เห็นความอ่อนแอ
แกร๊ก
"พะ พ่อ!!" เสียงเปิดประตูเผยให้เห็นร่างใหญ่กำยำหนวดเครายุ่งเหยิง "ทำไมวันนี้พ่อรีบกลับจังเลยคะ"
"กูไม่ค่อยสบาย แล้วอีนี่ใคร?"
"เพื่อนของหนูเองชื่อโนราห์ คือเอารายงานที่หนูไม่ได้ทำมาให้น่ะค่ะ"
"มึงมีเพื่อนด้วยเหรอ เหอะ คงไม่ใช่ประเภทพากันไปแรดมั่วผู้ชายหรอกนะ"
ได้ยินอย่างนั้นโนราห์ลุกผึ้งยืนประจันหน้ากับพ่อเลี้ยงที่ดูท่าทางหัวร้อน
"แรดหรือมั่วกับผู้ชายก็ยังดีกว่าบางคนที่ตบตีแม้กระทั่งเด็กที่ตัวเองเลี้ยงดูมา" อิงรีบคว้าแขนโนราห์ห้ามปราม
"ปากเก่งฉิบหาย ฮ่าๆ มึงไปคบกับอีอิงได้ยังไงเนี่ย อีนี่มันโลกสวยแถมโง่จะตาย"
"อิงไม่ได้โลกสวยหรือโง่เพียงแค่เคารพพวกคุณที่เลี้ยงดู แล้วเป็นห่าอะไรชอบทุบตีผู้หญิง"
หมับ!
ทันทีชายตัวใหญ่ก็ตรงมากระชากข้อแขนโนราห์ เมื่อเห็นท่าทางไม่ดีอิงจึงรีบยกมือไหว้พ่อเลี้ยง "อย่าทำอะไรเพื่อนหนูเลยนะคะพ่อ หนูยอมหมดทุกอย่าง ขอร้องล่ะอย่าทำอะไรโนราห์"
"ก็ให้มันทำสิฉันจะแจ้งตำรวจ!" ความอวดดียังมีมากล้นอยู่ในตัว โนราห์ไม่แม้แต่หลบเลี่ยงความโหดร้ายแต่กับต่อสู้แม้เสียเปรียบอีกฝ่าย "เอาสิ!! แน่จริงก็ตบกูสิ"
เพียะ
"โนราห์!!!"
ช่วงภพค่ำใต้สะพานลอยไม่ไกลจากบ้านของอิง โนราห์นั่งอยู่มองแม่น้ำสายใหญ่ไหลเชี่ยวไปมา ก่อนจะหันหน้ามาหาอิง
"ทนอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นได้ยังไง" เสียงเล็กเอ่ยถาม "สักวันมันก็ฆ่าตายหรอก"
"ก็เราไม่มีทางเลือกนี่นา เรียนให้จบมีงานทำจะได้ออกไปอยู่ตัวคนเดียว"
"ผู้หญิงที่เธอเรียกว่าแม่..เขาไม่ช่วยอะไรเลยหรือไง"
"ก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อเลี้ยงเราอารมณ์ดุร้ายจะตาย ขอโทษนะที่ทำให้ต้องเจ็บตัว"
อิงก้มหน้าลงแววตาขุ่นมัวไปด้วยน้ำใส โนราห์ลุกขึ้นยืนปัดกระโปรงพร้อมพูดเสียงชัดเจน "ฉันไม่รับคำขอโทษ เอาเป็นว่าเจอกันที่โรงเรียน ถ้าเธอหายไปอีกโดยที่ไม่บอกอะไร..ต่อไปก็ไม่ต้องมาคุยกัน"
คำพูดนี้ทำให้อิงเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตัวเล็ก
ใบหน้าสวยยามลมพัดผ่านผมยาวสลวย หรือนี่จะเป็นเพื่อนคนแรกในชีวิต
ตึก ตึก
โนราห์ขึ้นรถโดยสารเข้าจากนั้นเดินเข้าไปในซอยก่อนจะ เข้าหอพัก สังเกตได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่หน้าประตูในลักษณะหันหลัง
"นี่มาจริงเหรอคะเนี่ย" ปรากฏว่าเป็น ผอ. โนราห์หิ้วกระเป๋าค่อยๆ เดินตรงไปหา
"รอตั้งนานแล้วเธอไปไหนมา"
"หนูก็ต้องมีเรื่องอื่นหรือธุระให้จัดการ"
"เดี๋ยว..."
"อะ โอ๊ยยยย"
เพียงแค่เขาหันหน้ามาก็เห็นรอยฟกช้ำเลือดซิบมุมปาก มือหนาแตะสัมผัสเพียงบางเบาแต่ตัวเล็กกับร้องลั่นราวเจ็บปวดหนักหนา
"ไปมีเรื่องกับใครมา?!" เบสจ้องเขม็ง
"ปะ เปล่าหรอกค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร"
"เธอจะบอกความจริงหรือให้ฉันตามหาเอาเอง บอกมาใครทำร้ายเธอ!!"
"อย่าเสียงดังสิคะ..คนอื่นก็ตกใจหมดหรอก"
โนราห์ตัดสินใจหยิบกุญแจเพื่อไขประตูเข้าไปในห้องเนื่องจากตอนนี้ยังไม่มืดค่ำคนผ่านไปมาก็ต่างจดจ้อง
ไม่อาจจะเลี่ยงได้จึงตัดสินใจเล่าเรื่องชีวิตทางบ้านของอิงให้กับเขาฟัง อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องแบกรับเรื่องอึดอัดไว้เพียงลำพัง
"ฉันมีโปรเจกต์ที่จะให้นักศึกษาอยู่หอพักด้านในซึ่งเป็นสถานที่ที่เพิ่งซื้อเตรียมเอาไว้" เสียงทุ้มบอกกล่าว "แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ประชุมฝ่ายไหน คงต้องรอการอนุมัติประมาณห้าหกเดือน"
"แปลว่าถ้ามีหอพักด้านในสถานศึกษา อิงก็จะได้ไม่ต้องอยู่กับพ่อแม่ใช่ไหมคะ"
"ก็คงอย่างนั้น แต่จะดูอีกทีว่าค่าใช้จ่ายหรืองบประมาณน้ำพุ่งสูงไปเท่าไหร่อาจจะไม่ได้อยู่ฟรี"
ผู้หญิงที่ดูท่าทางเข้มแข็งตอนนี้แววตาอ่อนล้า ทันที คนตัวสูงจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็ดเลือดที่กบมุมปาก
เสียงเย็นชาพูดแผ่ว "ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้เธอไปไหนลำพังหรือว่าดื้อรั้นทำเรื่องที่เสี่ยงอันตราย ถ้าหากเธอรู้สึกไม่ปลอดภัยให้โทรศัพท์มาหาหรือเด้ง LINE ส่งข้อความมา"
"คุณผู้อำนวยการจะว่างหรือคะ..วันๆ มีแต่สาวนักศึกษาห้อมล้อม คงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่นหรอกมั้ง" โนราห์พูดประชดประชัน
"เฮ้อออ เบื่อเด็กขี้หึงจัง"
"ใครหึงไม่ทราบคะ อย่าเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย"
"ไม่อยากจะเถียงแต่ดูเหมือนข้อมือของเธอเองก็บาดเจ็บ ถ้างั้น..วันนี้ฉันจะอาสาเป็นคนดูแลเธอให้ อันดับแรกก็ ไปอาบน้ำกัน"
"!!!!"