สัมผัส

813 คำ
จอมพลนั่งมองลูกสะใภ้สาวที่ยืนมองท้ายรถยนต์ของบุตรชาย จะว่าสงสารก็สงสารเห็นใจก็เห็นใจ ด้วยไม่รู้ว่าสามีนั้นมีจิตใจไม่ได้ชอบผู้หญิง และยังพาเธอมาปบ่อยไว้กับเสือ สิงห์ กระทิง แรดอย่างตน แล้วอย่างนี้แม่หนูนั่นจะรอดไปได้อย่างไรเล่า ตั้งแต่ที่ภรรยาจากไป ไม่ใช่เพราะตายจากแต่เป็นเพราะทนความเจ้าชู้ไม่ไหวจึงขอแยกทาง ตอนนั้นด้วยความที่ยังเด็กมาก เพียงแค่ยี่สิบเห็นจะได้ จอมทัพลูกชายก็เพิ่งจะขวบ จอมพลจึงไม่คิดจะรั้งภรรยาไว้ เพราะตนเองก็ยังรักสนุกและยังคิดไม่ได้ถึงคำว่าครอบครัว เมื่อภรรยามาขอเลิกจึงได้แต่ปล่อยไป โดยขอไว้เพียงบุตรชายเท่านั้น และหลังจากนั้นมาก็ยังไม่เจอหญิงใดที่ใจอยากจะได้มาเป็นภรรยา มาเป็นคู่ทุกข์คู่ยากสักคน ใช้ชีวิตสำเริงสำราญมาจนถึงปัจจุบัน เลี้ยงลูกมาเพียงลำพังคนเดียว มีบ้างที่ช่วงแรกเอาไปให้พ่อกับมาช่วยเลี้ยงเพราะยังเลี้ยงไม่เป็น แต่พอจอมทัพเริ่มโตสองพ่อลูกก็ใช้ชีวิตมาด้วยกัน จึงไม่แปลกที่ตนจะดูออกว่าบุตรชายนั้นชอบหรือไม่ชอบอันใด “ขึ้นไปพักผ่อนบนบ้านก่อนสิลูก เมื่อเช้าพ่อเข้าไปปัดกวาดให้แล้ว” “ขอบคุณค่ะคุณพ่อ แล้วนี่คุณพ่อจะไปไหนไหมคะ มีอะไรให้หนูช่วยหรือเปล่า” “พ่อว่าจะเข้าไปดูสวนสักหน่อยน่ะ หลังบ้านนี่เอง หนูไปนอนพักเถอะไม่ต้องไปหรอกแดดมันร้อน” “ค่ะ งั้นหนูเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บก่อนนะคะ” จอมพลพยักหน้ารับ พลางลุกขึ้นยืน “โอ๊ย!” ร่างสูงเซไปเอนมาคล้ายกับกำลังจะล้ม แก้มใสที่ยืนอยู่ไม่ไกลรีบทิ้งกระเป๋าผ้าและเข้ามาประคองจอมทัพไว้ด้วยความเป็นห่วง วงแขนเล็กตวัดรัดเอวสอบไว้อย่างลืมตัว ส่วนมืออีกข้างก็จับแขนแกร่งเป็นการพยุง “คุณพ่อเป็นอะไรคะ” ร้องถามด้วยความตกใจและเป็นห่วง เงยหน้าขึ้นมองจอมพล เช่นเดียวกับจอมพลก็ก้มลงมองลูกสะใภ้เช่นเดียวกัน อ้อมกอดเล็กๆ และความนุ่มนิ่มของทรวงอกที่เบียดแนบชิดกับแขน ทำให้ชายหนุ่มรัญจวนขึ้นมา สายตาคมทอประกายแพรวพราวดั่งเสือต้องใจเหยื่อ วงแขนแกร่งจึงตวัดเอวคอดเข้าแนบกายคล้ายกลับให้ร่างบางเป็นหลักยึด โดยที่แก้มใสก็ไมได้ขัดขืนเต่อย่างใด กลับรู้สึกอุ่นวาบบริเวณที่มือหนาวางลงบนเอวเสียด้วยซ้ำ “พ่อหน้ามืดน่ะลูก สงสัยลุกเร็ว” “งั้นคุณพ่อนั่งก่อนนะคะ ค่อยๆ นะคะ” ประคองให้จอมพลนั่งลงบนเก้าอี้ แต่คนตัวสูงกลับทิ้งตัวลงนั่งเต็มแรง พาให้แก้มใสเสียหลักแทบจะนั่งเกยบนตักของจอมพลเสียด้วยซ้ำ “ว้าย! ขอ ขอโทษค่ะ” ขยับตัวออกห่าง ปล่อยมือจากเอวสอบ เช่นเดียวกับจอมพลก็จำใจปล่อยร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นนี้เสียก่อน ไม่อยากทำให้แก้มใสตื่นกลัวเกินไป “พ่อนี่แย่จัง เป็นภาระให้หนูตั้งแต่วันแรกเลย ลำบากหนูแย่ที่ต้องมาดูแลคนแก่อย่างพ่อ” แสร้งตีหน้าเศร้าเล่าความน่าสงสารออกไป แก้มใสที่ตามไม่ทันความเจ้าเล่ห์จึงติดกับเข้าอย่างง่ายดาย “ไม่ได้ลำบากเลยค่ะ แก้มเต็มใจดูแลคุณพ่ออย่าคิดมากเลยค่ะ อีกอย่างคุณพ่อก็ไม่ได้แก่สักหน่อยค่ะ ยังดูดีเหมือนหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ อยู่เลยค่ะ” แม้ความจริงอายุของพ่อสามีเธอจะสี่สิบสองเข้าไปแล้วก็ตาม แต่ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าผู้ชายตรงหน้าคือชายวัยเลขสี่เลยสักนิด ทั้งรูปร่างหน้าตายังดูดีกว่าวัยมากนัก “เราก็เข้าใจพูดเอาใจคนแก่นะ พ่อรู้ลูกว่าพ่อน่ะแก ไม่ต้องมาพูดให้พ่อดีใจหรอก” “แก้มพูดจริงๆ นะคะ คุณพ่อยังหนุ่มอยู่เลย นี่ถ้าสาวๆ เห็นคนต้องมองเหลียวหลังคอแทบหัก” มือหนาวางลงบนศีรษะเล็กและโยกเบาๆ “เข้าใจพูดนะเรา พ่อขอบใจเรานะที่เต็มใจดูแลพ่อ” สัมผัสอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือทำให้แก้มใสรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกดีใจเวลาเดียวกัน ยิ่งสายตาคมคู่นั้นทอประกายแพรวพราวออกมา ยิ่งทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนมีแรงดึงดูดให้เธออยากอยู่ใกล้เขา อยากให้เขาลูบไล้ร่างกายสัมผัสทุกส่วนในร่างกายของเธอ ยิ่งคิดตรงส่วนนั้นก็เหมือนจะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมาคล้ายกลับมันกำลังสั่นและกระตุกเล็กน้อย จนเกิดความรัญจวนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม