“คีธ” คราวนี้เธอเป็นฝ่ายก้าวเข้าไปหาเขาเอง ยืนอยู่ชิดกับอกของเขาและมองเขาด้วยประกายตาแสนอ่อนโยน “คุณจะไม่ต้องอยู่กับความเกลียดของฉันหรอกนะคะ เพราะนับแต่นี้ไปจะไม่มีความรู้สึกแบบนั้นในใจของฉันอีกแล้ว...ฉันรักคุณค่ะ คีธ...ฉันรักคุณ” ร่างเล็กบอบบางเขย่งปลายเท้าเพื่อมอบจุมพิตแสนหวานบนริมฝีปากหยักหนาที่แยกออกเพื่อรับลิ้นเล็กที่แทรกเข้าไปดูดดื่มอย่างหิวกระหาย ความตื้นตันแล่นขึ้นมาจุกอกชายหนุ่ม เขารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางกลีบดอกซากุระนับล้านโปรยปรายอยู่ในความฝัน ทิพชยาไม่โกรธเขาแล้ว เธออภัยให้เขาและพูดคำนั้นที่เขารอมาเนิ่นนานโดยไม่เหนื่อยท้อ เขาอดทนได้เสมอกับเธอคนนี้ รอคอยเธอมานานนับปีกับความหวังที่เร้นลึกอยู่ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจเขา บัดนี้มันเปล่งประกายออกมาราวกับแสงสว่างอันเจิดจ้าของดวงอาทิตย์ยามเช้า อบอุ่น อ่อนหวานและอ่อนโยนอย่างที่สุด เสมือนกาลเวลาหยุดนิ่งอยู่ที่จูบดูดดื่มที่เธอเต็มใจมอบ