บทที่1-2

893 คำ
นีน่าพาชีคฟารีสมาที่ซุ้มทางเข้างานแต่ง ซึ่งตรงนั้นบ่าวสาวกำลังยืนรับแขกเหรื่อ ทันทีที่เจ้าบ่าวอย่างสเตฟานเหลือบมาเห็นชีคฟารีส เจ้าตัวถึงกับรีบสาวเท้าเข้ามากอดร่างสูงสง่าที่ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยได้อย่างคงเส้นคงวา จนคนที่ลอบมองอย่างนีน่าคิดว่าบุรุษผู้สูงศักดิ์ผู้นี้สามารถแย้มยิ้มได้หรือไม่ หรือว่าจะถูกแดดร้อนๆ ของทะเลทรายดูดกลืนรอยยิ้มของพระองค์ไปเสียแล้ว แม้จะสงสัยอยู่มาก แต่นีน่าทราบดีว่าสิ่งที่สามารถทำได้นั่นก็คือการคิดในใจ “กระหม่อมคิดว่าพระองค์จะไม่มาเสียแล้ว นี่กะว่าถ้าพระองค์ไม่ยอมมาร่วมงานวิวาห์ของกระหม่อม กระหม่อมจะจ้างให้คนเอาระเบิดไปทิ้งที่ตำหนักส่วนพระองค์สักสามสี่ลูกเผื่อจะไล่ต้อนพระองค์ออกมาจากตำหนักได้” “หากนายไม่ต้องการเห็นหน้าลูกในอนาคตของนาย ก็ลองดู” ชีคฟารีสตอบด้วยเสียงราบราบ หากแต่ดวงตาสีน้ำตาทองมีประกายตาแห่งความขบขับเจืออยู่ในนั้น ก่อนจะเลือนหายไปเป็นราบเรียบตามเดิม สเตฟานรีบผละออกมา “กระหม่อมเป็นสหายของพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์จะไม่ทรงเมตตากระหม่อมหน่อยหรือ” ชีคฟารีสยังคงมองสเตฟานด้วยสายตานิ่งๆ ติดจะเย็นชาด้วยซ้ำ นีน่าที่ลอบมองชีคหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายจงใจพ่นลมหายใจออกมาคล้ายเบื่อหน่ายเต็มทน “ต่อหน้าคนอื่นนายเลิกเสแสร้งแกล้งทำเป็นเกรงอกเกรงใจฉันเสียทีเถอะ ฉันรู้ว่านายกำลังเรียกร้องความเห็นใจจากภรรยาของนาย แต่ก็เอาเถอะ เห็นแก่วันนี้เป็นวันฉลองมงคลสมรสของนาย ฉันจะยอมละเว้นให้สักวันก็แล้วกัน” “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” สเตฟานยิ้มกว้างซ้ำยังกลั้วหัวเราะในลำคอเบาๆ เจ้าสาวของสเตฟานก็อมยิ้มนิดๆ ส่วนนีน่าถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นเมื่อได้ยินชีคหนุ่มสนทนากับสเตฟาน ‘องค์ชายสามารถพูดประโยคยาวเหยียดขนาดนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย’ นีน่าลอบคิดแบบนั้น หญิงสาวเกือบจะสะดุ้งตัวไปแล้วดีว่าควบคุมอาการเอาไว้ได้ทันตอนที่หันมาเจอนัยน์ตาสีน้ำตาลทองมองมาที่เธอด้วยสายตาที่ยากต่อการคาดเดา หญิงสาวขยับยิ้มอย่างพอประมาณ ก่อนที่ชีคฟารีสจะดึงสายตากลับไปที่สเตฟานอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายเปิดบทสนทนา “นี่เจ้าสาวของกระหม่อม ซิดนีย์” สเตฟานแนะนำภรรยาของตัวเองให้ชีคฟารีสได้รู้จัก เจ้านายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ซิดนีย์จึงทำความเคารพต่อผู้สูงศักดิ์ด้วยการถอนสายบัว “ถวายบังคมเพคะ” “ผมขอแสดงความยินดีด้วย ขอให้มีชีวิตคู่ที่ราบรื่น” “ขอบพระทัยเพคะ” ซิดนีย์รับคำอวยพรแล้วขยับเท้าถอยออกไปยืนที่เดิม ส่วนสเตฟานเองก็ยิ้มกว้าง เมื่อไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก นีน่าจึงหันไปถามชีคฟารีส “คุณฟารีสจะไปที่โต๊ะเลยไหมคะ ฉันจะได้พาไป” ชีคหนุ่มไม่ทันได้ขยับริมฝีปากให้คำตอบแก่นีน่า สเตฟานก็เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงติดจะประหลาดใจอยู่หลายส่วน “ท่านชีค กระหม่อมไม่เข้าใจ” “นายไม่เข้าใจเรื่องอะไร” “ไม่เข้าใจว่าเหตุใดกระหม่อมจึงไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคุณนีน่า กระหม่อมเป็นสหายของพระองค์มาหลายปี แต่พระองค์ไม่เคยอนุญาตให้กระหม่อมใช้แค่คำสุภาพแทนคำราชาศัพท์กับพระองค์ได้เลย แล้วเหตุใดคุณนีน่าถึงได้รับสิทธิพิเศษนั้น ช่วยบอกให้กระหม่อมทราบได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ” สเตฟานแสร้งเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นอย่างกวนประสาท มองชีคฟารีสคล้ายจะจับผิด แท้ที่จริงแล้วนั้น หากอยู่ด้วยกันเพียงลำพังสเตฟานก็ได้รับอนุญาตจากชีคฟารีสให้งดเว้นการใช้คำราชาศัพท์ยามที่สนทนากันได้ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็นเพื่อนกันมานาน ทว่าเจ้าชายฟารีสเพิ่งจะเจอนีน่าเป็นครั้งแรก เหตุใดจึงอนุญาตให้งดเว้นคำราชาศัพท์ยามสนทนากันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ หรือว่าทั้งคู่จะเคยพบกันมาก่อนแล้ว และสเตฟานก็ไม่ทนเก็บความสงสัยในส่วนนี้เอาไว้ให้ค้างคาใจ “หรือว่าพระองค์เคยพบกับคุณนีน่ามาก่อน” นีน่าอยากจะเป็นคนให้คำตอบออกไปเหลือเกินว่าไม่ใช่เป็นเพราะสิทธิพิเศษแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเธอไม่ค่อยถนัดการใช้คำราชาศัพท์ต่างหาก ทว่าหญิงสาวทำได้เพียงลอบมองสถานการณ์เพราะคนที่สเตฟานต้องการคำตอบก็คือชีคฟารีส “เรื่องของฉันไม่ใช่เรื่องของนาย” “...” “ยืนนาน เมื่อย อยากนั่ง” ชีคฟารีสให้คำตอบเพียงเท่านั้นแล้วเป็นฝ่ายเดินนำออกไปก่อน นีน่าจึงรีบขยับเท้าตามไป ส่วนฮาบิบไม่ทันได้ก้าวเท้า สเตฟานก็เดินเข้ามาจับที่บ่าขององครักษ์หนุ่มเอาไว้ “คุณฮาบิบ คุณคิดเหมือนผมหรือเปล่า” ฮาบิบสบตากับสเตฟาน ก่อนทั้งคู่สื่อสารกันผ่านสายตาอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วหันไปมองชีคฟารีสกับนีน่าที่กำลังนั่งลงที่โต๊ะวีไอพีที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเวที ทั้งคู่หันมาสบสายตากันอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “พระเป็นเจ้าช่วยคุ้มครองคุณนีน่าด้วย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม