บทที่2-1

1416 คำ
นีน่าไม่ทราบว่าชีคฟารีสปรารถนาอาหารประเภทใดสำหรับมื้อเช้า หญิงสาวจึงจัดเตรียมอาหารมาถึงสามชนิดเพื่อให้ชีคหนุ่มเลือก ประกอบด้วยอาหารอาราเบียน อาหารอิตาเลียน และอาหารไทย นีน่าพร้อมพนักงานโรงแรมเข็นรถอาหารมาหยุดที่หน้าประตูห้องของชีคฟารีสตอนเวลาเจ็ดนาฬิกาตรง หญิงสาวยิ้มทักทายฮาบิบที่ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณฮาบิบ” “อรุณสวัสดิ์ครับคุณนีน่า” “ฉันนำอาหารเช้ามาให้ท่านชีคค่ะ” “รอสักครู่นะครับ” ฮาบิบบอกก่อนที่องครักษ์หนุ่มจะหายเข้าไปในห้องของชีคฟารีส ครู่หนึ่งก็กลับออกมาพร้อมเปิดประตูกว้าง แล้วผายมือเชิญนีน่าเข้าไปด้านใน “เชิญครับ” “ขอบคุณค่ะ” นีน่าพร้อมพนักงานโรงแรมเข็นรถอาหารเข้าไปในห้อง ร่างสูงสง่าของชีคฟารีสนั่งพร้อมอยู่ที่โต๊ะอาหาร ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องและได้เห็นใบหน้าเรียบเฉยทว่านัยน์ตาสีน้ำตาลทองคมกล้าที่มองมาที่เธออย่างจงใจ นีน่าก็เกิดอาการประหม่าและหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาฉับพลัน หญิงสาวพยายามข่มอาการเหล่านั้นเอาไว้ เรียวปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยทักทายคนสูงศักดิ์กว่า “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” “อรุณสวัสดิ์” ชีคฟารีสตอบกลับในแบบเดียวกัน ดวงตาคมกล้ายังคงจับจ้องที่ดวงหน้าเนียนใสของนีน่า หญิงสาวรู้สึกเคอะเขินอยู่ไม่น้อยกับนัยน์ตาสีน้ำตาลทองคู่นั้น นีน่าเลี่ยงการสบสายตากับบุรุษผู้สูงศักดิ์อย่างแนบเนียนแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำ “ให้ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ” “อืม” ชีคฟารีสครางรับในลำคอเป็นเชิงอนุญาต ทว่าคำถามของนีน่าไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น เพราะหญิงสาวไม่ทราบว่าชีคหนุ่มต้องการเสวยอาหารชนิดใด “ฉันเตรียมอาหารมาสามชนิดค่ะ มีอาหารอาราเบียน อาหารอิตาเลียน แล้วก็อาหารไทย ไม่ทราบว่าคุณฟารีสจะรับอาหารแบบไหนดีคะ” คิ้วหนาที่พาดเหนือดวงตาสีน้ำตาลทองขยับเข้าหากันเล็กน้อย สำหรับอาหารอาราเบียนนั้นชีคหนุ่มคุ้นเคยเป็นอย่างดี อาหารอิตาเลียนนั้นก็เคยกินบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนอาหารไทยนั้น ชีคหนุ่มยังไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มลอง “ผมขออาหารไทยก็แล้วกัน” “ได้ค่ะ” นีน่ารับคำแล้วหันไปบอกพนักงาน “จัดอาหารไทยขึ้นโต๊ะได้เลยจ้ะ” พนักงานจัดการจัดอาหารขึ้นโต๊ะอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอยออกมา จานอาหารที่มีฝาครอบปิดเอาไว้ในตอนแรกถูกเปิดออกเผยให้เห็นอาหารหน้าตาน่ารับประทานจำนวนสามอย่าง ข้าวสวยร้อนๆ ถูกจัดวางในจานตรงหน้าชีคหนุ่มเรียบร้อยแล้ว “นี้คือแกงส้มชะอมกุ้ง ส่วนจานนี้เป็นปลาบึกผัดฉ่า และถ้วยนี้ก็คือต้มยำทะเลค่ะ” นีน่าแนะนำอาหารแต่ละจาน หญิงสาวเป็นคนเลือกเมนูอาหารเหล่านี้ด้วยตนเอง เพราะทราบดีว่าการจัดอาหารสำหรับชีคหนุ่มจากดินแดนอาหรับมีข้อห้ามหลายอย่าง จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หญิงสาวยังคงยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะอาหาร นัยน์ตาสีน้ำตาลทองยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเนียนใสของนีน่า เพียงชั่วอึดใจริมฝีปากได้รูปก็ขยับบอก “นั่งลงสิ” คิ้วสวยที่พาดเหนือดวงตากลมโตสีดำสนิทขยับเข้าหากันเล็กน้อย ใบหน้าของหญิงสาวคล้ายมีคำถามแปะอยู่บนนั้น เสียงทุ้มต่ำจึงดังขึ้นอีกครั้ง “นั่งลงสิ” “...” “กินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย” นีน่าทราบดีว่าคงเป็นการเสียมารยาทหากเธอปฏิเสธออกไป และอาจเป็นเหตุให้ชีคหนุ่มไม่พอใจ ดวงตากลมโตสบสายตาคมกล้าของชีคฟารีสอยู่ครู่หนึ่ง มือบางเอื้อมไปขยับเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง “ขอบคุณค่ะ” นีน่ากล่าวขอบคุณก่อนจะหันไปบอกพนักงานให้ตักข้าวใส่จาน “ขอข้าวอีกจานจ้ะ” พนักงานตักข้าวใส่จานให้นีน่า แล้วขยับถอยออกไปอยู่ที่เดิม หญิงสาวเหลือบสายตาไปสบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลทองของชีคฟารีสโดยบังเอิญอีกครั้ง ก่อนจะรับดึงสายตากลับมาเพราะหญิงสาวเริ่มเสียอาการเพราะบุรุษสูงศักดิ์เอาแต่จ้องเธอ ตั้งแต่เธอย่างกรายเข้ามาในห้อง ชีคหนุ่มแทบไม่ละสายตาจากเธอเลยด้วยซ้ำ และนั่นเป็นเหตุให้เธอเริ่มเก็บอาการประหม่าที่มีมากจนเกินควรไม่ไหวอีกแล้ว ร่างกายของเธอก็เกร็งเครียดขึ้นมาฉับพลัน บางครั้งถึงกับต้องกลั้นลมหายใจ “ผมทำให้คุณลำบากใจหรือเปล่า” พอเสียงทุ้มถามแบบนั้น นีน่าจึงจำต้องดึงสายตาไปที่ใบหน้าคมคายอีกครั้ง และแน่นอนว่าหากเลือกได้เธอไม่ต้องการทำแบบนั้นเลยสักนิด แต่แน่นอนว่าเธอเลี่ยงไม่ได้ “ไม่ค่ะ” “งั้นก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็กินเถอะ” “ค่ะ” นีน่ารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ หญิงสาวรอให้ชีคฟารีสตักอาหารคำแรกเข้าปากก่อน จากนั้นจึงตักอาหารใส่ปากตัวเองบ้าง และอาการเกร็งๆ ของหญิงสาวก็อยู่ในสายตาของชีคหนุ่มตลอดเวลา นั่นก็เพราะบุรุษสูงศักดิ์ไม่ได้ละสายตาไปจากหญิงสาวไปแม้แต่วินาทีเดียว “นีน่า” “...” “แค่ร่วมโต๊ะกินข้าวกับผม” “...” “ไม่ต้องเกร็ง” เสียงทุ้มที่เรียกชื่อของเธอเป็นครั้งแรกทำให้กล้ามเนื้อในอกข้างซ้ายของหญิงสาวเต้นถี่ขึ้นอย่างน่ากังวล ซ้ำเขายังมองออกว่าร่างกายของเธอกำลังเกร็งเครียด หากไม่ติดว่าตอนนี้อยู่ตรงหน้าเขาแล้วละก็ นีน่าคงยกมือกุมอกด้านซ้ายของตัวเองไปแล้ว ‘ทำไมท่านชีคถึงรู้ล่ะ’ นีน่าได้แต่ถามตัวเองในใจ หญิงสาวเผลอแสดงท่าทางกระอักกระอ่วนออกไป แต่ก็เป็นเพียงแค่เสี้ยวนาที ก่อนที่จะรีบควบคุมท่าทางให้กลับมาเป็นปกติ เว้นเพียงแต่ว่ากล้ามเนื้อในอกซ้ายที่ยังคงเต้นถี่รัวอย่างที่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้ “ขออภัยค่ะ ฉันไม่ค่อยคุ้นชิน” “คิดซะว่าผมเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่คุณเคยร่วมโต๊ะอาหารด้วยก็ได้” “แต่ฉันไม่เคยร่วมโต๊ะอาหารเพียงลำพังกับผู้ชายคนไหนมาก่อนค่ะ” นีน่าตอบออกไปตามความจริง แม้หญิงสาวจะเกิดและเติบโตในอิตาลี ทว่าสายเลือดชาวไทยในกายของเธอเข้มข้น นั่นก็เพราะบิดาของเธอเป็นลูกเสี้ยวคือมีสายเลือดไทย-อิตาลีไหลเวียนอยู่ในตัว ส่วนมารดาของเธอเป็นคนไทย นีรญามารดาของเธออบรมและเลี้ยงดูเธอแบบชาวเอเชีย เน้นการรักนวลสงวนตัวและติดจะดูขี้อายมากกว่าสาวชาวยุโรปขนานแท้ไปสักหน่อย และบิดาของเธอก็หวงเธอเสียยิ่งกว่าอะไร และความหวงลูกสาวก็เผื่อแผ่ไปถึงนีเซีย น้องสาวฝาแฝดของเธอด้วย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอไม่ได้รับโอกาสให้อยู่เพียงลำพังกับชายหนุ่มไม่ว่าใครก็ตาม แล้วแบบนี้จะให้เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่เธอเคยร่วมโต๊ะอาหารด้วยได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอไม่เคยได้รับโอกาสให้ทำแบบนั้น “โอเค ผมเข้าใจแล้ว” น้ำเสียงของเจ้าชายหนุ่มดูรื่นรมย์อย่างน่าประหลาดจนนีน่าคิดว่าตัวเองคงจะหูฝาดไป นัยน์ตาสีน้ำตาลทองยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเนียนใสของนีน่า แววตาคมกริบมีประกายตาที่สว่างวาบคล้ายพึงพอใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไป “ถ้าเป็นแบบนั้น” “...” “ผมคงต้องเชิญคุณมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยบ่อยๆ แล้วกระมัง” “...” “คุณจะได้คุ้นชิน” ดวงตากลมโตดุจลูกกวางของนีน่าเบิกกว้าง ม่านตาของหญิงสาววูบไหวยามที่ต้องสบเข้ากับดวงตาคมกริบของชีคหนุ่มจากแดนทะเลทราย แม้ใบหน้าคมคายยังคงดูเรียบเฉยเย็นชา ทว่านัยน์ดวงตาสีน้ำตาลทองที่มองมาที่เธออย่างไม่ละสายตาทำให้หัวใจของเธอทำงานหนักมากขึ้นเข้าไปทุกที มันเต้นรัวแรงจนเธอได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของมัน และกล้ามเนื้อในอกซ้ายของเธอก็ยิ่งทำงานหนักมากขึ้น เมื่อได้ยินเสียงทุ้มออกมาจากริมฝีปากได้รูป “เจอกันอีกทีตอนมื้อค่ำนะนีน่า” “...” “และผมหวังว่าคุณคงจะไม่ปฏิเสธ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม