ราวๆ สิบโมงเช้านีน่าตั้งใจจะโทร.ไปที่ห้องครัวเพื่อสั่งเชฟให้เตรียมอาหารสำหรับชีคฟารีสในมื้อค่ำ ซึ่งหญิงสาวตั้งใจเอาไว้ว่าจะเตรียมอาหารไปสามชนิดเช่นเดิม แต่เปลี่ยนแปลงรายการอาหารเพื่อไม่ให้ซ้ำกับมื้อเช้า มือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ภายในแบบไร้ซ้ายขึ้นมา ทว่าไม่ทันได้กดโทร.ออกเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเสียก่อน หญิงสาวจึงวางโทรศัพท์ลงไว้ที่เดิม คิ้วสวยที่พาดเหนือดวงตากลมโตขยับเข้าหากันแน่นตอนที่ขยับเท้าไปที่ประตู นีน่ามองผ่านตาแมว พบว่าเป็นฮาบิบก็ยิ่งขมวดเข้าหากันแน่นมากยิ่งขึ้น แต่ก็ตัดสินใจเปิดประตูกว้าง
“คุุณฮาบิบมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ท่านชีครับสั่งว่าอยากไปล่องเรือกอนโดลาที่เวนิสครับ”
“แล้วยังไงคะ”
นีน่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ฮาบิบบอก ชีคฟารีสต้องการไปล่องเรือที่เวนิสแล้วทำไมองครักษ์ของเขาต้องมารายงานเธอด้วย และแน่นอนว่าบนใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ดวงตากลมโตดำขลับมองที่ฮาบิบอย่างต้องการคำตอบ องครักษ์หนุ่มปั้นหน้ายิ้มยากใส่เธอก่อนจะค่อยๆ ก้าวเท้าถอยไปทางด้านหลัง จากนั้นที่ที่ฮาบิบเคยยืนอยู่ก็ถูกแทนที่ด้วยร่างสูงสง่าของชีคฟารีส
“ฝ่าบาท!”
นีน่าเรียกคนสูงศักดิ์อย่างตื่นตระหนก เรียวปากอวบอิ่มเผยอออกนิดๆ เพราะความตกใจ ก่อนจะรีบปรับสีหน้ารวมถึงท่าทางให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“ผมต้องการไปล่องเรือกอนโดลาที่เวนิส”
“...”
“ต้องการชมพระอาทิตย์ตกดินบนเรือ”
“...”
“และผมต้องการให้คุณไปกับผมด้วย”
นีน่ากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก จากโรมไปเวนิสไม่ใช่ระยะทางใกล้ๆ หากเดินทางโดยเครื่องบินอาจจะเร็วหน่อย แต่หากใช้รถยนต์ก็ราวๆ ห้าชั่วโมง ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองใบหน้าคมคายของคนสูงศักดิ์
“คือหม่อมฉัน...”
“และผมหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธ”
“...”
“เตรียมสัมภาระสำหรับค้างคืนด้วย”
“ค้างคืนด้วยเหรอเพคะ”
“ใช่”
นัยน์ตาสีน้ำตาลทองที่มองมาที่เธอนิ่งๆ ทว่ากลับก่อให้เกิดความรู้สึกหลากหลายสำหรับนีน่า หัวใจของเธอค่อยๆ เต้นถี่ขึ้น เกิดอาการประหม่าจนต้องกำมือที่ประสานกันเอาไว้เข้าหากันแน่น คิ้วสวยขมวดมุ่นคิดหาทางไม่ออกว่าจะปฏิเสธอย่างไรให้ดูละมุนละม่อมมากที่สุด ครู่หนึ่งหญิงสาวก็หาทางออกให้ตัวเองได้
“หม่อมฉันขออนุญาตโทร.บอกคุณพ่อสักครู่นะเพคะ”
นีน่าหวังเหลือเกินว่าบิดาของเธอจะหวงเธออย่างเช่นทุกครั้ง เธอเคยต้อนรับแขกวีไอพีที่ต่างพากันแวะเวียนมาพักที่โรงแรมก็มาก แต่ไม่เคยต้องออกไปข้างนอกด้วยแบบนี้ เธอยินดีจัดการทุกอย่างตามที่แขกต้องการ ทว่าต้องอยู่ภายในโรงแรมเท่านั้น
และหวังเหลือเกินว่าบิดาของเธอจะช่วยปฏิเสธความปรารถนาของชีคฟารีสได้ แต่ความหวังเดียวที่หญิงสาวมีต้องพังทลายลงเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปของผู้สูงศักดิ์
“ผมให้ฮาบิบโทร.ไปขออนุญาตคุณพ่อของคุณแล้ว และคุณฟอซโซก็อนุญาต ใช่ไหมฮาบิบ”
ท้ายประโยคชีคฟารีสถามองครักษ์คู่ใจ หากแต่ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าเนียนใสของนีน่า สีหน้าตื่นตะลึงของหญิงสาวทำให้เจ้าชายหนุุ่มรู้สึกขบขัน ทว่าคนสูงศักดิ์เก็บซ่อนอาการเหล่านั้นไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยอย่างแนบเนียน
“พ่ะย่ะค่ะ”
คำตอบรับอย่างชัดถ้อยชัดคำของฮาบิบเป็นการยืนยันว่านีน่าไม่มีโอกาสที่จะปฏิเสธความปรารถนาของเขาได้ หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ ก่อนจะบอกไม่เต็มเสียงนัก
“หม่อมฉันขออนุญาตไปเตรียมตัวสักครู่เพคะ”
นีน่าต้องการเวลาในการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมสัมภาระที่จำเป็น แต่สำหรับชีคหนุ่มอยู่ในชุดที่พร้อมสำหรับเดินทางแล้ว เขาอยู่ในชุดเสื้อคอปกสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีด สวมทับด้วยแจ็กเก็ตหนังสีดำอีกทีหนึ่ง แม้ว่าจะอยู่ในลุคดูสบายๆ ทว่ารังสีออร่าและความหล่อเหลาอย่างร้ายกาจก็ยังแผ่ออกมาจากร่างสูงสง่าอยู่ดี
“ได้สิ”
เมื่อชีคหนุ่มอนุญาตนีน่าจึงขยับเท้ากลับเข้าไปด้านใน ทว่าร่างบอบบางต้องสะดุ้งตัวน้อยๆ ตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าพร้อมเสียงทุ้มที่ดังขึ้นระยะประชิดจากทางด้านหลัง
“คุณคงไม่ว่าอะไรหากผมจะขอเข้าไปนั่งรอด้านใน”
นีน่าที่กลั้นหายใจไปชั่วขณะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา เรียวปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะคลายออก แล้วหมุนตัวหันไปให้คำตอบคนที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง
“ยินดีเพคะ”
เธอมีทางเลือกอื่นอีกอย่างนั้นหรือ
ไม่เลยสักนิด