ดวงตากลมโตมองไปรอบๆอีกครั้งภาวนาให้มีใครสักคนเดินผ่านมา แต่ทว่าเมื่อไม่มีใครคนอื่นให้ถามก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเป็นเขา เด็กสาวมองใบหน้าหล่อเหลาด้านข้างสลับมองระยะห่างช่องไฟระหว่างกัน พยายามที่จะไม่ขยับเข้าไปยืนใกล้อีกฝ่ายมากจนเกินไป
“พี่คะ...”
“...”
ริมฝีปากสวยขยับเม้มกันเบาๆ เธอมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้พูดเบาแต่อาจจะเป็นเพราะคนที่เธอเรียกใส่แอร์พอดทั้งสองข้างจึงทำให้เขาไม่ได้ยิน เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงขยับเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อเรียกเขาอีกครั้ง
“พี่คะ...”
“...”
พรนัชชายิ้มกว้าง ดวงตาทอประกายดีใจเมื่อคนที่เธอเรียกเบือนหน้ามามอง ดวงตาคมหรี่มองเธอคล้ายจะถามว่ามีอะไร เรียกเขาทำไม จึงทำให้เธอต้องรีบบอกจุดประสงค์ของตัวเองออกไปทันที
“พี่เรียนห้องนี้หรือเปล่าคะ?” มือเรียวสวยชี้เข้าไปในห้องเรียนซึ่งตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากห้องร้าง ไม่มีนักเรียนอยู่ในห้องแม้แต่คนเดียว ไม่ใช่เฉพาะห้องนี้ ห้องเรียนที่อยู่ติดกันก็เงียบกริบไร้ผู้คนไม่ต่างกัน ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะตอนนี้มันคือเวลาหลังเลิกเรียน
“อือ”
คำตอบแบบขอไปทีของคนตัวสูงตรงหน้าทำให้พรนัชชาใจเสียแต่เพราะเขาคือที่พึ่งหนึ่งเดียวของเธอในตอนนี้จึงทำได้เพียงส่งยิ้มเกรงใจ ก่อนจะพูดต่อทำเป็นมองไม่เห็นสายตาเย็นชาของเขาที่มองมา
“พี่รู้จักพี่พร้อมหรือเปล่าคะ? พี่พร้อมชื่อจริงว่า นายพีระวัส เรียนอยู่ห้องนี้และเป็นรองประธานนักเรียนปีนี้... พี่พอจะรู้จักไหมคะ” เพราะกลัวจะมีคนชื่อเล่นซ้ำกันกับพี่ชายตัวเองก็เลยบอกชื่อจริงไปด้วยเสร็จสรรพ อย่างตอนที่อยู่มอต้นมีเพื่อนในห้องชื่อเล่นว่า ‘แพม’ เหมือนเธอ เวลามีคนเรียกก็หันขวับไปมองพร้อมกัน เพื่อนๆในห้องก็เลยพร้อมใจกันเรียกเธอว่า ‘แพมมี่’ แทนเพื่อป้องกันความสับสน
“อือ รู้จัก”
พรนัชชายิ้มกว้าง ใจชื้นขึ้นเป็นกองเมื่ออีกฝ่ายรู้จักพี่ชายของเธอ เพราะส่วนสูงที่ต่างกันค่อนข้างมากทำให้เธอต้องแหงนหน้าเพื่อพูดกับเขาแทบตลอดเวลา “แล้วพี่รู้ไหมคะว่าพี่พร้อมไปไหน? หรือว่ากลับไปแล้ว”
ถึงจะมั่นใจว่าพี่พร้อมไม่มีวันทิ้งน้องสาวอย่างเธอแล้วหนีกลับบ้านก่อน แต่ก็อดลุ้นคำตอบไม่ได้
“เป็นอะไรกับมัน” คฑากรไม่ตอบแต่ถามเสียงเรียบ มองผู้หญิงตัวเล็กตาโตตรงหน้าด้วยสายตานิ่ง ความจริงเขาได้ยินเธอเรียกตั้งแต่ครั้งแรกแล้วทว่าที่ไม่หันมามองเพราะคิดว่าเธอคือหนึ่งในกลุ่มนักเรียนหญิงที่ตามเขาไม่เลิก
ทว่าเขาคิดผิด... นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงเข้ามาทักเขาเพื่อถามหาคนอื่น
“คะ? อ่อ หนูเป็นน้องสาวพี่พร้อมค่ะ”
“น้องสาว?”
“ใช่ค่ะ หนูเป็นน้องสาวของพี่พร้อม” พรนัชชายิ้มกว้างพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะรีบอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นประกายตาสงสัยจากคนตัวสูงตรงหน้า ถ้าเขาเรียนอยู่ห้องเดียวกับพี่พร้อมหรือเป็นเพื่อนพี่พร้อมก็ต้องรู้ว่าพี่พร้อมไม่มีน้องสาวพอเธอบอกว่าเป็นน้องสาวก็ไม่แปลกที่จะสงสัย
“หนูเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่พร้อมค่ะ เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เทอมแรก แล้ววันนี้หนูก็นัดพี่พร้อมเอาไว้ว่าจะกลับบ้านพร้อมกัน แต่หนูรอนานแล้วก็ยังไม่เห็นพี่พร้อมลงมาซะทีก็เลยขึ้นมาตามที่ห้อง ไม่ทราบว่าพี่...”
“ไอ้พร้อมไปประชุมที่ห้องสภาเดี๋ยวก็มา”
“หมายถึงห้องสภานักเรียนเหรอคะ?”
“อือ”
“อ่อ...ถึงว่าพี่พร้อมไม่ตอบไลน์เลยที่แท้ก็ประชุมอยู่นี่เอง” พรนัชชายิ้มกว้างดีใจ เธอรู้อยู่แล้วว่ายังไงพี่พร้อมก็ไม่มีทางทิ้งเธอแล้วกลับบ้านก่อน
“...”
“พี่ก็รอพี่พร้อมเหมือนกันเหรอคะ” เซ้นส์ของเธอบอกว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนกับพี่ชายเธอ ที่ยังไม่กลับบ้านก็น่าจะรอพี่ชายของเธอเหมือนกัน
“อือ”
“ขอบคุณพี่มากนะคะ งั้นหนูขอยืนรอพี่พร้อมอยู่ตรงนี้ด้วยคนนะคะ” พรนัชชายิ้มกว้างตาเป็นสระอิหวังผูกมิตรไมตรีกับอีกฝ่ายเต็มที่ ทว่าคนที่เธอยิ้มให้กลับหันหน้าออกนอกระเบียงทันทีทำให้เธอต้องยิ้มเก้ออยู่นานเพราะทำตัวไม่ถูก
ริมฝีปากอิ่มได้รูปขยับเข้าหากันช้าๆ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะค่อยๆชำเลืองมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวสูงข้างๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังยืนนิ่งดวงตาคมสีนิลจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แต่ทว่าเธอน่าจะถอนหายใจแรงเกินไปจึงทำให้คนตัวสูงหน้านิ่งหันขวับมามองนัยน์ตาดุราวกับว่าเธอทำให้เขาเสียสมาธิ
พรนัชชายิ้มเจื่อนขยับริมฝีปากเพื่อจะพูดอะไรบางอย่างแต่ทว่าไม่ทันที่จะพูดอะไรออกไปก็ต้องเม้มปากแน่นเหมือนเดิมเพราะคนตัวสูงหันหน้ากลับไปซะก่อน
แค่ถอนหายใจก็ผิดเหรอ
ทำไมเพื่อนพี่พร้อมน่ากลัวจัง