5
เช้าวันต่อมาฉันให้เพื่อนๆ มารับเพื่อไม่ให้พี่สาวสงสัย และบอกคนที่ยองวอนส่งมารับให้ไปรอที่สนามบินเกาหลีก่อนเลย
"แกแน่ใจนะว่าจะไปกับผู้ชายคนนั้น" ยัยพิณถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงสุดๆ
"อือ" ฉันมองผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่ยืนรออยู่ข้างรถ
"นานิ" เยจีเรียกฉันด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอีกคน
"พวกแกเชื่อใจฉันมั้ย" ฉันมองเพื่อนๆ
"ก็ต้องเชื่อใจสิ" ยัยโกอึนบอก แต่สีหน้าไม่ต่างจากยัยสองคนนั้น
"งั้นเดี๋ยวฉันติดต่อไปนะ" ฉันยิ้มให้เพื่อนๆ ไม่ได้อธิบายอะไรให้พวกมันฟัง บอกเพียงว่ากลับมาทำธุระที่เกาหลี พวกมันคงเห็นหน้าลำบากใจของฉันจึงไม่ถามต่อ
"อือ" พวกมันพยักหน้าแล้วถอนหายใจพร้อมกัน
"ดูแลตัวเองดีๆ" ยัยพิณบอก
"อือ ไปนะ" ฉันพยักหน้า ยิ้มให้พวกมัน แล้วเดินไปขึ้นรถกับชายคนนั้น โดยมีสายตาของเพื่อนๆ มองตามตลอด
ฉันนั่งในรถเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร ผู้ชายคนนั้นก็ทำหน้าที่ขับรถเงียบๆ ไม่มีบทสนทนาใดๆ จนกระทั่งรถหยุดจอดที่หอพัก ฉันหันขวับไปมองคนขับ
"คุณยองวอนสั่งให้พามาเก็บของก่อนครับ" เขาตอบเสียงเรียบ
ฉันเม้มปากแน่น แล้วลงจากรถ ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ชื่อยองวอน รู้อะไรเกี่ยวกับฉันบ้าง หรือรู้ทุกอย่าง เหอะ! ใช่สิ เขามันรวย ทำอะไรก็ได้ แค่สืบหาที่อยู่ของผู้หญิงคนเดียวมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากอยู่แล้ว
ฉันเก็บแค่ของสำคัญ แล้วลากกระเป๋าลงไปขึ้นรถ โดยมีคนขับรถคอยยกกระเป๋าขึ้นรถช่วย จากนั้นเขาก็พาฉันเดินทางต่อ ขับเข้าไปในย่านคนรวย ที่ที่ฉันไม่คิดว่าจะได้เข้ามา เขาเลี้ยวรถเข้าตึกสูงแห่งหนึ่ง แล้วพาฉันขึ้นลิฟต์ที่ลานจอดรถ เพียงแค่แตะคีย์การ์ด ลิฟต์ก็ล็อกชั้นให้อัตโนมัติ ฉันรู้สึกว้าวมาก แต่ประตูลิฟต์เปิดออกยิ่งว้าวกว่า เพราะมันเปิดหน้าห้องเลย
"นี่ของคุณครับ ผมต้องไปแล้ว" ผู้ชายคนนั้น ยกกระเป๋าออกจากลิฟต์ให้ฉัน แล้วยื่นคีย์การ์ดให้ ก่อนจะกลับเข้าไปในลิฟต์อีกครั้ง ฉันมองประตูลิฟต์ค่อยๆ ปิดลงอย่างมึนงง มาส่งแค่นี้เหรอ แล้วห้องมันเข้ายังไง
ฉันยืนมองประตูห้องกับคีย์การ์ดว่ามันใช้ยังไงอยู่สักพักใหญ่ๆ ถึงลองแตะตรงนั้นตรงนี้ดูแต่มันก็ไม่ได้
"ต้องนอนอยู่หน้าห้องเหรอ" ทันทีที่คิดแบบนั้น เสียงประตูก็ดังขึ้น
ตี ดี ดี่~~~
"เมื่อกี้แตะตรงไหนนะ" ฉันถามตัวเอง มองมือว่าอยู่ตำแหน่งไหน จำไว้ให้แม่น
แกร็ก~~
ฉันเปิดประตูเข้าไป กวาดสายตามองไปรอบๆ นี่มันไม่ใช่ห้องแล้ว ฉันคิดในใจ ยังคงตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น หรูหราโอ่อ่า นี่สินะที่อยู่ของไอดอลคนดัง
"มีคนอยู่มั้ยคะ" ฉันเดินเข้าไปแล้วกวาดสายตามองหาผู้คน
"..." ไร้เสียงตอบรับ
"แล้วยังไงต่อ" ฉันคุยกับตัวเอง ก่อนจะลากกระเป๋าเข้าไป แล้วนั่งรอบนโซฟากลางห้อง ก็ฉันยังไม่รู้อะไรยังไง ฉันจะได้อยู่ที่นี่จริงเหรอ หรือเขาให้มาทำอะไร ฉันไม่รู้เลยนี่
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ยังคงไร้วี่แววของผู้คน ฉันเริ่มนั่งอยู่ไม่สุข เดินไปที่กระจกใส มองออกไปดูเมืองที่เจริญ แสงไฟระยิบระยับ ต่างจากที่คนอย่างฉันอยู่ลิบลับ
ตี ดี ดี่~~~
ฉันหันไปมองตามเสียง แล้วนิ่งไป เมื่อสบตาเข้ากับเขา ยองวอน!
"...."
"..."
"อยู่ชั้นนี้ห้ามขึ้นไปชั้นสอง" เขาบอกเสียงเรียบ พร้อมทั้งก้าวเดินเข้ามาในห้อง
"แล้วให้นอนที่ไหน" ฉันถามออกไป เมื่อคนตัวโต ก้าวเท้าขึ้นบันได ฉันพึ่งเห็นว่าตรงนั้นมีบันไดด้วย
"ห้องเยอะแยะ เลือกเอาสิ" เขาบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วก้าวเดินขึ้นบันไดต่อ
ฉันมองเขาจนลับสายตา มองซ้ายขวา แล้วยังไงต่อ ฉันต้องทำตัวยังไง ฉันถามตัวเองในใจ ก่อนจะเริ่มเดินสำรวจ แล้วลากกระเป๋าเข้าห้องนอนที่ไม่เล็กไม่ใหญ่
"แล้วไงต่อ" ฉันพูดกับตัวเอง ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ฉันต้องอยู่ที่นี่ แล้วไงอะ
หลายวันต่อมา ฉันยังคงอยู่ในเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของเขา วันๆ ไม่ได้ทำอะไร ยกเว้นทำอาหารให้ตัวเอง ส่วนยองวอนบางวันเขาก็ไม่กลับมานอนที่นี่ ไม่รู้ว่าทำงาน หรือไปนอนที่ไหน ทุกครั้งที่เราเจอหน้ากัน เขาทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน ให้ฉันมาอยู่ในสายตา เพื่อไม่ให้ทำชื่อเสียงเขาพังแบบนี้เหรอ แต่ว่าอยู่แบบนี้ฉันก็เบื่อ เบื่อมาก อยากทำอะไรสักอย่าง ไม่อยากให้เวลาผ่านไปเฉยๆ วันนี้จึงตั้งใจนั่งรอเขา เพื่อขอคุยข้อตกลง
ตี ดี ดิ่~~~
ทันทีที่ได้ยินเสียงประตู ฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นยืนจากโซฟา เดินตรงไปหาเขา
"ขอคุยด้วยหน่อย" ฉันบอกคนตัวโตที่เปิดประตูเข้ามา
"ว่ามา" เขาบอกเสียงเรียบ เดินผ่านฉันเข้าไปในห้อง
"ฉันไปเรียนได้ตามปกติใช่มั้ย"
"คิดว่าไง"
"ได้" ฉันตอบทันที
"..." เขามองหน้าฉันนิ่ง นั่นเป็นคำตอบว่าไม่อนุญาตสินะ
"งั้นขอทำงาน" ไม่ได้เรียนก็ขอทำงานเก็บเงินไว้ให้ลูกบ้างเถอะ อะไรมันก็ไม่แน่นอน เขาจะปล่อยฉันกับลูกไปตอนไหนก็ไม่รู้ ต้องเตรียมตัวไว้ก่อน
"อยู่นี่ไม่สบายตรงไหน?" เขาจ้องมองหน้าฉัน ไม่อยากบอกเลยว่าน่ากลัวมาก
"เปล่า" ฉันปฏิเสธเสียงเบา ใครจะกล้าตอบว่าสบายกาย ไม่สบายใจล่ะ
"อย่าทำตัววุ่นวาย" เขาพูดเสียงเรียบ แล้วก้าวเดินไปที่บันได
"อย่าทำตัววุ่นวาย ชิ!" ฉันพูดล้อเรียนน้ำเสียงเขา แล้วสะบัดหน้าเดินเข้าห้องนอน ไม่น่ารอจนดึกดื่นเลย เสียเวลาจริงๆ
ฉันเดินกลับห้องด้วยท่าทางไม่พอใจ แต่จะทำอะไรได้ละ อนาคตของพี่นิตา พี่ธาม และหลานอยู่ที่ฉันนี่ ถ้าเกิดทำอะไรให้เขาไม่พอใจ แล้วเขาไม่ให้เช่าที่นั่นต่อแล้วจะทำไง หลานตัวน้อยๆ ของฉันกำลังจะลืมตาดูโลกด้วย จะทำให้ครอบครัวเดียวของฉันลำบากไม่ได้
ฉันนั่งทอดสายตาออกไปดูวิวยามค่ำคืนด้านนอก ความรู้สึกตอนนี้เหมือนนกน้อยในกรงทองไม่ผิด ข้างนอกนั้นตอนนี้มีผู้คนกี่แสนกี่ล้านคนที่ได้ใช้ชีวิตอิสระตามใจตัวเองนะ
"แม่ไม่ได้โทษหนูนะ แม่ดีใจที่หนูมาอยู่กับแม่นะคะ" ฉันลูบท้องคุยกับลูก กลัวลูกเข้าใจผิด ว่าเป็นเพราะเขา ฉันไม่มีวันโทษเขาหรอก เป็นเพราะผู้ชายใจร้ายคนนั้นต่างหาก ที่ราวีไม่เลิก ทั้งที่ปล่อยฉันไปเงียบๆ ก็ได้ ใครจะอยากจับเขากัน!
"แม่รักหนูนะลูก" และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนแยกเราสองคนจากกันด้วย ไม่มีวัน ฉันไม่ยอม