ตอนที่ 2 มันคือเรื่องปกติ

1500 คำ
อีกด้าน... หลังกดโอนเงิน 30,000 บาทผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารออกจากบัญชีเรียบร้อย ก็กดไปที่ประวัติการโทรเพื่อดูเบอร์โทรเข้าที่ตนไม่ได้รับสาย ก่อนจะกดเข้าไปที่แอปพลิเคชันสีเขียวยอดนิยมเพื่อดูข้อความ มีข้อความที่ยังไม่เปิดอ่านเกือบสิบห้องแซตรวมแล้วน่าจะร้อยกว่าข้อความ ทว่ามีเพียงห้องแชตเดียวที่ปาลทัตกดเข้าไปดู ‘พรุ่งนี้ 10 โมงเจอกันที่บ้าน มีธุระสำคัญจะคุยด้วย’ ข้อความที่โชว์หราบนหน้าจอกระตุ้นความหงุดหงิดที่เพิ่งทุเลาลงให้กระพือขึ้นอีกครั้ง ปาลทัตมองข้อความตรงหน้าด้วยสายตาหงุดหงิดระคนเบื่อหน่าย ก่อนสไลด์ออกจากหน้าจอ แล้วกดโทรออกไปยังอีกเบอร์ที่มีการโทรเข้ามาก่อนหน้านั้นถึงสองสาย รอไม่นานปลายสายก็กดรับ “กว่าจะโทรกลับได้นะมึง กูก็นึกว่าโทรศัพท์มึงโดนตัดสัญญาณเพราะไม่จ่ายค่าโทร” ปราบปลื้มโทรไปตอนสิบแปดนาฬิกาห้าสิบนาที ปาลทัตโทรกลับมาตอนสามทุ่มสี่สิบนาที ถ้าตอนนั้นกำลังมีเรื่องเดือดร้อนก็คงถูกฝั่งคู่อริรุมกระทืบจมธรณี ได้กินแกงรวมตีนหม้อใหญ่ ตอนนี้ก็คงนอนหมดสติหายใจรวยรินอยู่ที่ห้องไอซียู หมอพยาบาลรุมปั๊มหัวใจกันให้วุ่น หรืออีกทีก็คงนอนเหยียดนิ่งไม่หายใจอยู่ในห้องดับจิตรอนิติเวชชันสูตร ช่างเป็นเพื่อนที่ประเสริฐดีจริงๆ แม่งโคตรซึ้ง เลิกคบมันตอนนี้ทันมั้ยวะ เห้อ... “มีอะไร?” "ตอนนี้มึงอยู่ไหนวะ? ห้อง?" ให้ควายออกลูกเป็นตัว บอกเลยว่าไม่ใช่ มันไม่ได้อยู่ห้อง แต่เดี๋ยวนะ...ควายมันก็ออกลูกเป็นตัวอยู่แล้วนี่หว่า ช่างควายแม่งเหอะ ตอนนี้ต้องคุยกับมันให้รู้เรื่องก่อน “อยากรู้ไปทำไม” คนถูกถามกลับเลิกคิ้วขึ้นสูง “อยากรู้เฉยๆ ไม่ได้อยากรู้ไปทำไม ตกลงมึงอยู่ไหน? ห้อง?” "โรงแรม" “โรงแรม...?” บอกชื่อโรงแรมที่อีกฝ่ายไปใช้บริการประจำ ไม่ผิดจากที่คิดเอาไว้ ถ้าอยู่ห้องมันต้องรับสาย “อือ” บอกไปตามตรง ไม่มีอะไรให้ปิดบังเป็นความลับ เรื่องที่เพิ่งเกิดก็เป็นเรื่องปกติของคนธรรมดา เป็นเรื่องที่เพื่อนทุกคนรู้อยู่แล้วโดยเฉพาะคนถามที่รู้เยอะกว่าคนอื่น เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เริ่มหัดเดินมั้งที่เขารู้จักกับมัน อีกอย่างกับพวกเหี้ยนั้น ยิ่งกั๊กมันยิ่งซอกแซก ยิ่งปิดมันยิ่งอยากรู้ เขาเองก็ขี้เกียจเจรจาพาทีให้มากเรื่อง บอกไปให้มันจบๆ ง่ายๆ ก็คือเขาโสดไร้ซึ่งพันธะไม่ว่ากับใคร จะมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาพอใจ แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นก็ต้องโสดและพอใจที่จะมีอะไรกับเขาเช่นกัน "โรงแรม? ไปทำไรวะ?...ไอ้ห่า! มึงแม่ง กูยอม” คำแรกพูดพึมพำกับตัวเอง ประโยคที่สองถามคนในสาย ก่อนตาโตถึงขั้นยกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นดูเวลา “อย่าบอกนะว่ามึงเพิ่งเสร็จ? สามชั่วโมง? ถามจริงมึงไปเก็บกดมาจากไหนวะไอ้ปาล ทำอย่างกะคนอดอยากปากแห้งไม่ได้กินนาน" เอวแม่งไม่พงไม่พังไปหมดแล้วเหรอวะ "โทรมาเพื่อจะถามกูเรื่องนี้? ขี้เสือกว่ะ" ปราบปลื้มกลอกตามองบน อยากจะด่ามันกลับไปเหมือนกัน แต่กลัวมันวางสายกลายเป็นเขาต้องเป็นฝ่ายโทรกลับ เปลืองตังค์เปล่าๆ เสียเวลากดโทรใหม่ด้วย "ครับ เสือกอยากให้เพื่อนแดกข้าวอะครับก็เลยโทรหา กดโทรออกจนมือหงิกเพื่อจะถามเพื่อนว่าเพื่อนจะกินไร จะได้สั่งเผื่อ แต่ตอนนี้เพื่อนคงอิ่มแปล้แล้วม้าง” ล่อไปตั้งสามชั่วโมงถ้าไม่อิ่มก็ไม่ใช่คนแล้ว ที่อิ่มก็ไม่ใช่อิ่มข้าวนะ แต่เป็นอิ่มน้ำ...ที่ทวงท่าการกินน่าจะเด็ดดวงไม่น้อย ที่สำคัญแซ่บกว่าข้าวเยอะ... แม่งแค่คิดท่าตามก็แข็งเลยกู "หึ ขอบใจ...ตอนนี้มึงอยู่ไหน?" ปาลทัตถามกลับ สายตาหยุดนิ่งอยู่ที่ก้นบุหรี่ในมือ มองดูประกายไฟที่ค่อยๆเผาไหม้ม้วนบุหรี่ด้วยสายตานิ่ง เพิ่งเดินออกมาที่ระเบียงไม่กี่นาทีบุหรี่ที่ถือมาหมดไปแล้วสองม้วน ปกติก็เป็นคนสูบบุหรี่จัดพอตัว ยิ่งเจอเรื่องหงุดหงิดความอยากสูบก็ยิ่งมีมาก รู้ว่ามันไม่ดีแต่เขาไม่คิดอยากเลิก ไม่มีเหตุผลจูงใจให้อยากเลิก และคิดว่าคงไม่มี หรือถ้ามีก็คงไม่ใช่ระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่วนเหตุผล...ไม่รู้สิ เขายังคิดไม่ออก “อยู่ห้อง อาบน้ำเพิ่งเสร็จ กำลังจะออกไปรับไอ้สองตัวนั้นที่คอนโด แม่งโทรตามกูยิกๆ กลัวกูจะไม่ไป ว่าแต่มึงเหอะจะไม่เปลี่ยนใจจริงดิ วันนี้วันศุกร์สาวๆ สวยๆ เยอะนะเว้ย เห็นสตอรี่ไอ้ตั้มแม่งมีแต่แจ่มๆ” “แดกเหล้า?” “อือ แดกเหล้าด้วย ส่องหญิงด้วย ถามงี้อยากจะเปลี่ยนใจอะดิ อย่าคิดนานเว้ยใจอยากก็แค่เดินไปสตาร์ทรถ ไม่ได้ยากอะไร หรือต้องขออนุญาตใครก่อน?” “หึ...” “ตกลงเอาไง Yes หรือ No?” “อือ เดี๋ยวตามไป” “มึงพูดจริง?” ปราบปลื้มชะงักมือที่กำลังหยิบรองเท้าผ้าใบบนชั้น ที่ถามก็ไม่คิดว่ามันจะไป เพราะก่อนแยกกันที่คณะไอ้สองกับไอ้อาชว์ชวนแล้วทว่าเจ้าตัวปฏิเสธไงก็เลยสงสัย อยู่ๆนึกครึมอะไรอยากดื่มขึ้นมา ที่แน่ๆไม่น่าจะเป็นเพราะคำชวนของตน หรือว่าสาวที่มันเพิ่งแซ่บด้วยไม่ถูกใจก็เลยอยากจะได้น้ำเมามาทำให้ซู่ซ่า "อือ" “แสดงว่าที่เพิ่งกินไปไม่เด็ด?” ถ้าไม่เด็ดก็แสดงว่ามันเปลี่ยนคน เพราะคนเก่าของมันเด็ดมาก...มากแบบกอไก่ล้านตัว “ไม่เกี่ยว ความคิดมึงวนอยู่แค่เรื่องนี้?” “ทำมาเป็นรู้ทัน งั้นแสดงว่ามึงไม่อิ่ม?” หู๊ยยย...สามชั่วโมงไม่อิ่ม ไอ้ปาลมึงมันแน่ แน่มาก กูยอม "ขี้เสือกว่ะ...เอาที่มึงสบายใจ" “ฮ่าๆ” ปราบปลื้มหัวเราะพอใจ ตอบมาแบบนี้ก็แสดงว่าอิ่มและเด็ด...ว่าแต่สองครั้งแล้วปะวะที่ถูกมันด่าว่าเสือก แต่ไม่เถียงครับเพราะเสือกจริง “วีว่าโต๊ะเดิม ตามมาเร็วๆล่ะ” “อือ” “เดี๋ยวก่อนไอ้ปาลอย่าเพิ่งวาง” "มีอะไร?” ปาลทัตที่เกือบจะกดวางสายถามกลับ “ที่เพิ่งกินอะไม่แซ่บจริงดิ” “ค_ยกูมั้ย?” “หยาบคายว่ะ แต่ไม่อะครับของกูก็มี ใหญ่กว่ามึงอีก” เรื่องหน้าตาอาจจะเป็นรองมันอยู่นิดๆหน่อยๆ ก็คือไม่ได้มากอะไร แต่เรื่องความใหญ่ความยาวมั่นใจว่าสูสี “อยากวัด?” มีท้าว่ะ แต่ไม่ครับ กลัวเพื่อนเสียใจ ก็รู้ๆกันอยู่...จะวัดเพื่อ? อะโด่ “ตกลงมีอะไร?” “มึงจะออกมาเลยปะวะ หรือต้องแวะไหนก่อน” “ทำไม?” ปาลทัตหรี่ตาให้กับคำถาม “กูต้องแวะไปรับไอ้สองตัวนั้นที่คอนโด ก็ถ้ามึงไม่ได้แวะไหน กูจะให้มึงแวะไปรับไอ้สองมันไปด้วย” นัดแดกเหล้าทีไร ไม่มีใครอยากเอารถไปสักคน ตั้งใจไปเมากันเต็มที่ คอนโดแม่งก็อยู่กันคนละทิศคนละทาง... ลำบากคนไปรับอีก คือกูก็อยากเมาเหมือนกันไง “อือ เดี๋ยวกูแวะไปรับมันเอง” “มึงไม่ได้แวะที่ไหน?” “ไม่ แค่แวะไปส่งซิดนีย์ที่คอนโด” “อ่อ...ซิดนีย์?” ปราบปลื้มยิ้มกรุ้มกริ่ม ที่แท้ก็ซิดนีย์คนสวยคนเดิมนี่เอง จำได้ว่าคอนโดของซิดนีย์อยู่ไม่ไกลจากคอนโดของสิรธีร์ ห่างกันไม่ถึงห้าร้อยเมตร ให้มันแวะไปรับไอ้สองถูกต้องแล้ว ทางเดียวกันไปด้วยกันประหยัดทั้งเวลาทั้งน้ำมันรถ หมายถึงน้ำมันรถกูนะ เหลือก็แต่ไอ้อาชว์...แม่ง! ภาระกูฉิบหาย “โอเค งั้นเจอกันที่ร้าน” “อือ” ปาลทัตขานรับในลำคอ ยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนขยี้ก้นบุหรี่กับแก้วรอง เดินกลับเข้าไปในห้องพักสุดหรูเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ไปสมทบกับเพื่อนที่วีว่าผับ ผับประจำที่พวกเขาใช้บริการมาตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ อาจจะมีบ้างที่ชะแว็บไปใช้บริการที่อื่น แต่ทว่าก็แค่ครั้งคราว นานๆครั้ง ซึ่งสุดท้ายก็กลับมาที่เดิม บอกเลยว่าถ้ามีการจัดประเภทลูกค้า พวกเขาก็คือลูกค้าชั้นดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม