ฝ่ายคนที่ถูกแอบมองโดยไม่รู้ตัวนั้นกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสถึงช่วงเวลาที่ห่างหายกันไป เพราะพลอยลดาไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษและทำงานอยู่ที่นั่นหลายปี
“กลับมาคราวนี้พาหนุ่มอังกฤษมาฝากป๊ากับม๊าด้วยหรือเปล่าพลอย” อัครพลเอ่ยแซวเพื่อนสนิท
“ไม่มีทาง ยังไงพลอยก็รักหนุ่มไทยจ้ะ”
“พูดแบบนี้แสดงว่ามีแล้วน่ะสิ”
“แหม...พลอยเพิ่งกลับมาได้อาทิตย์เดียวจะมีได้ไง ว่าแต่ใหญ่เถอะตอนนี้มีใครมาดูแลหัวใจหรือยัง” อัครพลยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงคนที่เข้ามาดูแลหัวใจของเขาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“ยิ้มแบบนี้แสดงว่ามีแล้วสินะ ว่าแต่ใครกันคือสาวน้อยผู้โชคดีคนนั้น”
“พลอยลองทานปลากะพงจานนี้ดูสิอร่อยมากเลยนะ”
“นั่นแน่เฉไฉแบบนี้ชัวร์เลย ไม่บอกก็ไม่เป็นไรแต่พลอยจะสืบให้ได้ว่าใครคือเจ้าหญิงผู้โชคดีคนนั้น”
“เจ้าหญิงเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ใหญ่ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าสำหรับสาวๆครึ่งค่อนประเทศใหญ่คือเจ้าชายในฝันเลยนะ เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่ได้หัวใจของใหญ่ไปครอบครองก็น่าอิจฉาไม่ต่างไปจากเจ้าหญิงที่ได้ครองคู่กับเจ้าชายรูปงาม”
“ฮ่าๆๆ ผมไม่รู้ตัวมาก่อนเลยนะเนี่ยว่าตัวเองคือเจ้าชาย”
“แหม ทำเป็นถ่อมตัว” อัครพลยังคงทานอาหารพร้อมพูดคุยกับพลอยลดาตามประสาเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาจะทำให้อารดาเข้าใจผิดและคิดไปไกลขนาดไหน
พาฝันกอดปลอบอารดาที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นบนม้านั่งในสวนสาธารณะริมแม่น้ำ เธอไม่รู้จะปลอบเพื่อนว่าอย่างไรดี ถ้าเป็นเธอได้มาเห็นภาพคนรักสนิทสนมกับผู้หญิงอื่นขนาดนั้นก็คงอดที่จะคิดมากไม่ได้ อารดาผละออกจากไหล่ของเพื่อนและใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาเมื่อร้องไห้จนพอใจ
“สบายใจขึ้นหรือยังอาย” พาฝันถามด้วยความเป็นห่วง
“ฝันรู้ไหมว่าอายรอวันที่จะได้ยินคำว่ารักจากปากเขามาตลอด รออย่างมีความหวังว่าสักวันอายจะได้ยินมัน แต่ตอนนี้อายชักไม่แน่ใจแล้วว่าอายจะมีโอกาสหรือเปล่า อายอยากใช้ชีวิตเหมือนคนรักกันคนอื่นๆ ไปเดินห้างไปกินข้าวดูหนัง แต่เขาก็ไม่เคยพาอายไปเลย อายอยากชวนแต่อายก็ไม่กล้าเพราะกลัวเขาจะคิดว่าอายเรียกร้องมากเกินไปกลัวเขาจะเบื่ออาย อายถึงได้มากับฝันทุกครั้งยังไงล่ะ แต่วันนี้มันคืออะไรเขาพาผู้หญิงคนนั้นมาเดินห้างมากินข้าวพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข ต่างกับอายที่ไม่เคยมีโอกาสนั้นเลยทั้งๆที่อยู่กับเขามาตั้งสองปีแล้ว” อารดาพูดพร้อมๆกับที่น้ำตาไหลรินลงมาอีกครั้ง
“ใจเย็นๆนะอาย ท่านประธานอาจจะมีเหตุผลของเขาก็ได้ แต่เรื่องอื่นเขาก็ดูแลอายดีไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ เขาดูแลอายดีแต่อายก็อยากใช้ชีวิตเหมือนคนรักกันปกติทั่วไป บางครั้งอายก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงใจง่ายที่มาอยู่กับผู้ชายทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงานถ้าแม่กับพี่ชายอายรู้คงเสียใจ อายอยากมีชีวิตคู่แบบเปิดเผยไม่ใช่หลบๆซ่อนๆแบบนี้” พาฝันได้แต่รับฟังอย่างเห็นใจเพราะมันเกินความสามารถของเธอที่จะช่วยอะไรได้
“ใจเย็นๆนะอายมีอะไรก็คุยกับเขาไปตรงๆเลย ฝันเชื่อว่าคุณใหญ่เขารักอายนะ ผู้ชายระดับเขาถ้าไม่รักเขาคงไม่อยู่กับอายนานขนาดนี้หรอก เพราะคนอย่างเขาจะเลือกผู้หญิงสาวหยาดฟ้าหรือร่ำรวยเท่าเทียมกันก็ได้แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับอาย แถมดูแลอายเป็นอย่างดีอีกต่างหากบางครั้งสิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้”
“ขอบใจนะฝันที่อยู่เป็นเพื่อนแล้วทนฟังอายพล่ามอะไรตั้งนาน”
“ก็เราเป็นเพื่อนรักกันนี่นา แต่ฝันว่าเรากลับกันได้แล้วมั้งนี่มันสองทุ่มแล้วนะ”
“อะไรนะ สองทุ่ม!!!” อารดาอุทานอย่างตกใจเพราะเธอไม่เคยกลับบ้านผิดเวลาขนาดนี้มาก่อนเลย หรือถ้าจะไปเดินห้างกับพาฝันเธอจะโทรบอกอัครพลก่อนทุกครั้ง แต่วันนี้นอกจากจะไม่ได้โทรบอกแล้วเธอยังลืมโทรศัพท์ไว้ในรถอีกต่างหาก
“มีอะไรเหรออาย”
“ก็อายลืมโทรบอกคุณใหญ่น่ะสิว่าจะกลับค่ำ แถมยังลืมโทรศัพท์ไว้ในรถอีกต่างหากป่านนี้คุณใหญ่คงเป็นห่วงแย่แล้ว” อารดาพูดจบก็รีบวิ่งกลับไปที่รถและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่เธอต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าอัครพลไม่ได้โทรหาเธอเหมือนทุกครั้งที่กลับบ้านผิดเวลาแต่กลับมีข้อความจากเขาแทน อารดาเปิดอ่านข้อความจบความน้อยใจที่จางหายไปก่อนหน้าก็กลับมาอีกครั้ง
“ว่าไงอาย ท่านประธานโทรมาตามหรือเปล่า รีบโทรกลับไปบอกท่านสิท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“เปล่าหรอก คุณใหญ่ไม่ได้โทรมา”
“อ้าว แปลกจังปกติแค่อายกลับบ้านผิดเวลาแค่ไม่กี่นาทีคุณใหญ่ก็โทรตามแล้ว”
“ก็ตอนนี้เขามีให้สนใจมากกว่าอายนี่ เขาส่งข้อความมาบอกว่าวันนี้อาจจะกลับดึกให้อายเข้านอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอ”
“ไม่เอาน่าอายอย่าคิดมาก กลับบ้านกันเถอะแล้วมีอะไรค่อยคุยกับท่านดีๆ”
“อืม ขอบใจมากนะฝันที่มาหาอายวันนี้”
“ด้วยความยินดีจ้ะ” หลังจากล่ำลากันเรียบร้อยทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่อารดาไม่ได้กลับคอนโดอันเป็นรังรักของเธอและอัครพล แต่หญิงสาวเลือกที่จะกลับไปคอนโดของตัวเองที่เธอซื้อเอาไว้และอัครพลก็จัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อยทำให้เธอไม่ต้องผ่อนอีกต่อไป อารดาบอกตัวเองว่าเธอไม่พร้อมจะเจอหน้าอัครพลในตอนนี้เพราะกลัวว่าจะเผลอแสดงอาการน้อยใจและหึงหวงออกไปแล้วทำให้เขาไม่พอใจ เธอจึงเลือกที่จะไปนอนคอนโดของตัวเอง
อารดาเปิดประตูเข้ามาในคอนโดขนาดกะทัดรัดซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับความหรูหราของคอนโดที่เธออาศัยอยู่กับอัครพล หญิงสาวทรุดกายลงนั่งที่โซฟาหน้าทีวีก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง พบว่าเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว แต่อัครพลก็ยังไม่โทรหาเธอนั่นแสดงว่าเขายังไม่ได้กลับไปที่คอนโด เพราะถ้ากลับไปแล้วไม่เจอเธอเขาจะต้องโทรมาหาอย่างแน่นอน หญิงสาวหยิบโทรศัพท์พร้อมส่งข้อความไปบอกเขาว่าคืนนี้จะค้างที่คอนโดของตัวเอง อารดามองไปรอบๆห้องที่ถูกดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดีเพราะอัครพลจ้างแม่บ้านให้คอยมาทำความสะอาดเสมอ สาเหตุที่เธอยังเก็บคอนโดแห่งนี้ไว้ก็เพราะไม่อยากให้พี่ชายและมารดาสงสัยเวลาที่ท่านมาเยี่ยม เธอจะกลับมานอนที่นี่เฉพาะเวลาที่พี่ชายและมารดามาเยี่ยมเท่านั้นทำให้ทั้งสองเข้าใจว่าเธออยู่ที่คอนโดแห่งนี้คนเดียว ยิ่งคิดอารดาก็ยิ่งรู้สึกผิดและสมเพชตัวเองที่ต้องหลอกลวงมารดาและพี่ชายว่าเธอเป็นสาวโสดทั้งๆที่จริงแล้วเธอเป็นเมียลับๆของมหาเศรษฐีอย่างอัครพลมาได้สองปีกว่าแล้ว อารดาสลัดความฟุ้งซ่านออกจากสมองและเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
ฝ่ายอัครพลก็เอ่ยขอตัวจากเพื่อนที่ชักชวนกันมาเลี้ยงฉลองต้อนรับการกลับเมืองไทยของพลอยลดา แม้เขาจะอยากขอตัวกลับไปนอนกอดร่างนุ่มๆของอารดา แต่ก็เกรงใจเพื่อนที่นานๆจะว่างจากการงานที่รัดตัวมาเจอกันได้ สุดท้ายเวลาก็ล่วงเลยจนกระทั่งเกือบสี่ทุ่ม
“เดี๋ยวฉันคงต้องขอตัวกลับก่อนนะพล”
“จะรีบไปไหนวะไอ้ใหญ่ หรือว่าจะรีบกลับไปกกอีหนูที่ไหน” ปองพลเพื่อนสนิทของเขาเอ่ยทักท้วงเพราะยังอยากให้เขาอยู่สนุกด้วยกันต่อ
“พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานเชิญแกตามสบาย ผมขอตัวก่อนนะพลอย”
“ขอบคุณมากนะคะใหญ่ที่มาเลี้ยงต้อนรับพลอยวันนี้”
“สำหรับเพื่อนรักของผมด้วยความยินดีเสมอครับ ฝากพลอยด้วยนะพล”
“พลอยว่าพลอยกลับเลยดีกว่าค่ะ กลับดึกมากเดี๋ยวป๊าจะเป็นห่วง”
“อ้าว สรุปฉันโดนทิ้งใช่ไหมเนี่ย” ปองพลโวยวาย
“ทำอย่างกับว่าแกไม่เคยฉายเดี่ยวตระเวนราตรีอย่างนั้นแหละไอ้พล”
“เออ จะกลับก็กลับกันไปเลยฉันยังไม่กลับ ใครจะเหมือนแกล่ะเดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นฤๅษีจำศีลไม่ท่องราตรีเก็บเนื้อเก็บตัวฉันชักสงสัยซะแล้วสิว่าแกมีอะไรซ่อนไว้หรือเปล่า”
“พูดมากน่า ไปกันเถอะพลอย” ปองพลมองตามอัครพลกับพลอยลดาที่เดินออกจากร้านไปก่อนจะหันไปดื่มและส่งยิ้มให้สาวๆที่ทอดสะพานให้ตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในสถานบันเทิงแห่งนี้
อัครพลเดินมาส่งพลอยลดาที่รถและรอจนกระทั่งหญิงสาวเคลื่อนรถออกไปจึงเดินกลับไปที่รถของตัวเอง ถ้าไม่เป็นเพราะว่าต้องการเลี้ยงต้อนรับเพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันนานหลายปีอย่างพลอยลดาเขาไม่มีทางย่างกรายเข้ามาในสถานที่แห่งนี้แน่ๆ เมื่อก่อนเขาอาจจะเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญที่มักมาสังสรรค์กับเพื่อนๆในที่แบบนี้เสมอ แต่เมื่อโตขึ้นและหน้าที่ความรับผิดชอบที่ล้นมือทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาได้มาเท่าไหร่นักนอกจากจะพาหุ้นส่วนมาสังสรรค์เท่านั้น ยิ่งเมื่อมีอารดาเขาก็ลืมเรื่องเที่ยวในผับบาร์ไปเลย เพราะการใช้เวลาหลังเลิกงานกับอารดามีความสุขกว่าเป็นไหนๆ ได้ทานข้าวหรือนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างด้วยกันแค่นี้ก็ช่วยให้หายเหนื่อยจากงานได้เป็นปลิดทิ้ง ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งคิดถึงร่างนุ่มนิ่มแก้มหอมๆของเธอเป็นยิ่งนัก อัครพลเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วรถเพราะอยากกลับไปนอนกอดคนที่อยู่ในห้วงความคิดเต็มที หารู้ไม่ว่าคนที่เขาคิดถึงนั้นหนีไปนอนร้องไห้ด้วยความน้อยใจที่คอนโดของตัวเองเสียแล้ว