ผมเดินมาถึงตึกคณบดีด้วยความรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่อาจส่งผลให้ผมจะไม่ได้เจอรุ่นพี่สุดหล่อ ผมเหลือบตาขึ้นไปมองป้ายของตึกเพื่อเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของตัวเองอีกครั้งว่าสิ่งที่ผมทำมันส่งผลให้ผมต้องมาถึงตรงนี้ ผมเดินขึ้นไปยังตึกคณบดีและตรงไปยังห้องของคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาก่อนจะเคาะประตูห้องของท่านเพื่อรอการอนุญาตแล้วไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าห้องของคณบดีตามความต้องการของรุ่นพี่สุดหล่อ
"เข้ามาสิ"
"ขอบคุณครับ" ผมเดินไปยืนด้านหน้าของคณบดีที่กำลังนั่งตรวจเอกสารนักศึกษาปีหนึ่งอย่างขะมักเขม้น
"สวัสดีครับอาจารย์ ผมนิวตัน วิทยานักศึกษาปีหนึ่งครับ"
"นั่งก่อนสิ เดี๋ยว.. นี่เธอใช่นักศึกษาที่เพิ่งย้ายมาอยู่คณะนิเทศศาสตร์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วใช่ไหม"
"ใช่ครับอาจารย์"
"เธอมีอะไรหรือเปล่ามาหาอาจารย์ถึงตึกคณบดีแบบนี้" เมื่ออาจารย์ถามถึงสิ่งที่ผมต้องการจะตอบผมก็ไม่รีรอที่จะตอบคำถามของอาจารย์อย่างกระฉับกระเฉงแต่มันแฝงไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด
"อาจารย์ครับผมขอให้อาจารย์ฟังผมให้จบก่อนแล้วอาจารย์ค่อยถามผมได้ไหมครับ"
"ได้ เธอว่ามาเลยอาจารย์รอฟังอยู่"
"ผมขอพักการเรียนสามเดือนตามกฎระเบียบของนักศึกษาที่ใช้ความรุนแรงต่อเพื่อนนักศึกษาด้วยกันครับเพราะเมื่อกี้ผมได้ทำความผิดกับนักศึกษารุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเธอได้รับบาดเจ็บ ผมจึงมาหาอาจารย์เพื่อขอรับผิดและปฏิบัติตามกฎการลงโทษของนักศึกษาตามที่คู่มือนักศึกษาปีหนึ่งระบุไว้ครับแต่ผมมีเรื่องรบกวนขออนุญาตอาจารย์ช่วยปิดบังอย่าบอกใครได้ไหมครับ
ว่าผมหายไปไหนหรือหายไปได้อย่างไรน่ะครับ ขอให้พวกเขาเข้าใจว่าผมได้ลาออกจากการเป็นนักศึกษาไปแล้ว อาจารย์ช่วยผมได้ไหมครับ"
"เธอฟังอาจารย์ให้ดีนะ เมื่อเธอได้กระทำความผิดทางคณบดีก็จะตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เกิดขึ้นกับใคร ที่ไหน อย่างไรเพื่อให้ทุกคนได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงก่อนที่จะลงโทษนักศึกษาคนใดก็ตาม ถึงเธอจะทำผิดจริงหรือเปล่านั้นอาจารย์ไม่รู้ สิ่งที่เธอร้องขอจากอาจารย์ฟังจากที่เธอเล่ามา อาจารย์รู้และเข้าใจว่าเธอคงจะแอบรักรุ่นพี่คนหนึ่งใช่ไหมแต่เขากลับไม่สนใจเธอบวกกับด้วยที่รุ่นพี่คนนั้นที่แสดงความเห็นด้วยกับรุ่นพี่ที่เธอแอบชอบจนเกิดเป็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทดังกล่าว เธอกำลังหนีหัวใจตัวเองอยู่รู้ไหม ทำไมเธอไม่อยู่สู้กับความจริง ทำไมเธอไม่ทำให้เขารับรู้ถึงความจริงใจของเธอที่มีให้เขาล่ะแบบนี้อาจารย์คิดว่าน่าจะเป็นผลดีกับเธอมากกว่านะ ดีกว่าเธอต้องหนีหัวใจตัวเองแบบนี้" ผมทึ่งกับคำพูดของอาจารย์คณบดีที่ท่านล่วงรู้ถึงสิ่งที่ผมกำลังเผชิญเกือบทั้งหมดแต่มีสิ่งหนึ่งที่ท่านไม่เคยรู้เลยว่าผมต้องเจออะไรบ้างผมจึงจะใช้โอกาสนี้เพื่อหายไปจากชีวิตของรุ่นพี่คนนี้ คนที่ผมรักมากที่สุด
"อาจารย์รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอครับ แต่อาจารย์คงไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับสิ่งที่ผ่านมาเหมือนอย่างที่พี่เขาไม่เคยรู้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน ผมพยายามทำทุกอย่างที่อาจารย์พูด ผมทำทุกวิธีเพื่อที่จะแสดงความจริงใจที่มีต่อเขาแต่พี่เขากลับไม่สนใจใยดีอะไรผมเลย จนผมรู้สึกเกลียดตัวเองที่เกิดมามีรูปร่างแบบนี้ ผมขอนะครับอาจารย์ขอให้ผมได้หายไปจากชีวิตของเขาตามที่เขาต้องการแต่ระหว่างการพักการเรียนนี้ผมก็ยังจะทำหน้าที่นักศึกษาของผมตามปกติโดยผมจะทำงานส่งอาจารย์แต่ละท่านตามที่ได้รับมอบหมายเช่นเดียวกันกับนักศึกษาปีหนึ่งคนอื่นๆ ตลอดสามเดือนที่ผมหายไปถ้าอาจารย์ไม่ช่วยผม ผมคงจะรู้สึกเกลียดตัวเองไปตลอดชีวิตที่ไม่สามารถทำให้เขายอมรับผมได้" ผมอธิบายถึงความรู้สึกพร้อมทั้งจุดประสงค์ของผมให้อาจารย์คณบดีฟังด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ
"ถ้าอย่างนั้นเธอบอกอาจารย์มาสามเดือนที่เธอหายไปนี้เธอจะไปทำอะไร อาจารย์สัญญาว่าอาจารย์จะช่วยเธอเท่าที่อาจารย์จะช่วยได้"
"ผมจะไปเปลี่ยนตัวเองให้เขาสนใจผมครับ"
"เอาล่ะเธอตอบอาจารย์มาแบบนี้ทำให้อาจารย์ได้รู้ถึงเจตนาของเธอแล้วล่ะ นิวตันอาจารย์จะช่วยให้ความฝันของเธอเป็นจริงเองแต่เธอต้องมีสติ มีเหตุผลให้มากกว่านี้เพราะสิ่งที่เธอกำลังแสดงออกต่อการตอบคำถามของอาจารย์อยู่นี้ มันแสดงออกถึงความคับแค้นใจ ประชดประชันและต้องการเอาชนะ หากเธอมีความรู้สึกแบบนี้อาจารย์เองก็ไม่เห็นด้วยในการสนับสนุนกับความฝันของเธอหรอกนะแต่ถ้าเธอกลับมามีสติแล้วใช้เหตุผลในการตัดสินใจกับชีวิตต่อไปข้างหน้ามากกว่า อาจารย์ก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ จะช่วยทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงให้ได้" ผมรู้สึกดีใจมากกับคำพูดของอาจารย์คณบดีที่ท่านเข้าใจผมเหมือนกับปัญหาที่ผมกำลังเผชิญอยู่นี้เคยเกิดขึ้นกับท่านอย่างไรอย่างนั้น ผมเองก็ไม่ได้ถามเพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสม
"ผมขอบคุณอาจารย์มากนะครับที่เข้าใจผม ผมจะพยายามควบคุมความรู้สึกคับแค้นใจนั้นให้ได้แล้วผมเองก็รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง"
"ดีแล้วเธอกลับไปเถอะเดี๋ยวทางนี้อาจารย์จัดการเองแต่ถ้ามีอะไรให้อาจารย์ช่วยก็โทรมาหาได้ตลอดนะ อาจารย์ยินดีที่จะช่วยเธอ" ยิ่งผมได้ฟังคำกล่าวที่แสดงถึงความมีน้ำใจของอาจารย์คณบดีท่านนี้ที่ท่านพร้อมจะช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างผม มันทำให้ผมอดตื้นตันพร้อมยกมือขึ้นขอบคุณท่านแล้วรับกระดาษแผ่นเล็กที่ท่านเขียนเบอร์โทรติดต่อจากมือของอาจารย์คณบดี
“ขอบคุณอาจารย์มากนะครับ ผมขออนุญาตกอดอาจารย์ได้ไหมครับ”
“ได้สิ เธอเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แล้วนี่” ผมได้สวมกอดท่านอยู่นานก่อนจะขออนุญาตกลับห้องพัก ผมเดินออกจากห้องทำงานคณบดีแล้วตรงออกไปจากมหาวิทยาลัยเพื่อขึ้นรถแท็กซี่จากไปโดยไม่มีใครรู้แม้กระทั่งเพื่อนรักของผมเองก็ตาม
เมื่อผมตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่ผมรักให้เขาได้หันมาสนใจผมบ้างแต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นความแค้นเคืองและต้องการเอาชนะอย่างที่อาจารย์คณบดีท่านนั้นได้พูดกับผมอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำดูถูกเหยียดหยามมันได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้ผมเดินหน้าไปในเส้นทางที่มืดดำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนผมก็รู้สึกกลัวตัวเอง ที่มักจะชอบพูดกับตัวเองในกระจกบ่อยๆ ว่าสักวันหนึ่งผมจะทำให้พี่ไรเฟิลหันมาสนใจ คลั่งไคล้ ลุ่มหลงผมจนโงหัวไม่ขึ้นให้ได้ ผมจะทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายตัวเองที่เคยพูดเหยียดหยามศักดิ์ศรีผมไว้มากมายว่าจะไม่มีวันมีใจรักผม ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าพูดกับผมแบบนี้มาก่อน ความคิดกับความรู้สึกของผมมันก้าวผ่านความปราณี ความเห็นใจไปมากแล้ว
กระทั่งผมรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนใจดำไม่สนใจถึงความรู้สึกใครอีก เมื่อสภาพร่างกายของผมเริ่มเปลี่ยนไปตามแผนการปรับปรุงบุคลิกภาพของสถาบันเสริมความงามที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเกาหลีที่เริ่มปรากฏถึงการเปลี่ยนแปลงทีละขั้น ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพียงลำพังคนเดียวด้วยความหวังว่าวันหนึ่งผมจะเป็นคนใหม่ จะทำให้ผู้ชายคนที่เขาเคยใช้คำพูดรุนแรงย้ำยีผมให้เขาต้องมากราบแทบเท้าเพื่ออ้อนวอนให้ผมรับรักเขา ผมจะไม่มีวันยอมรับความรักจากผู้ชายคนนี้เด็ดขาดจนกว่าผมจะพอใจกับสิ่งที่เขาควรจะได้รับ ผมจะทำให้เขารู้จักความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานจากการถูกปฏิเสธความรักเหมือนอย่างที่ผมเคยเจอ
จากการกระทำของเขาที่เคยทำผมไว้ ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะรู้สึกยังไงเมื่อคนหล่อๆ อย่างเขาที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าเพียงชั่วข้ามคืนเพราะผมจะเป็นเดือนคณะแทนเขา แล้วคนอย่างพี่ไรเฟิลจะรู้สึกยังไง ผมจะทำให้เขาได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ จึงเป็นเหตุให้ผมต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับความแค้นใจมาโดยตลอดกว่าเจ็ดสิบวัน เหลือไม่ถึงสองสัปดาห์ที่ผมต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพื่อทำตามความฝันของผมต่อ ความฝันเรื่องหน้าที่การงานก็ส่วนหนึ่งและเรื่องความรักก็อีกส่วนหนึ่งซึ่งผมได้ให้ความสำคัญกับอนาคตมาเป็นอันดับแรก แต่ ณ เวลานี้ผมกำลังให้ความสำคัญกับความแค้นอยู่สินะ ตลอดเวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่เกาหลีมันทำให้ผมได้เรียนรู้ชีวิตที่ปราศจากความรักในรูปแบบคนรักมันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับชีวิตผมเลยซักนิด ผมยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอยู่กับเพื่อนๆ ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ มากหน้าหลายตา ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างมากมายตามใจที่ผมต้องการโดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความรู้สึกของใคร จะว่าไปชีวิตที่ไม่มีคนรักมันก็ทำให้เรามีความสุขไปอีกรูปแบบหนึ่งแต่การกลับไปของผมในครั้งนี้ก็เพื่อกลับไปทวงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมคืนจากผู้ชายที่ไร้หัวใจ คบคนและรักคนอื่นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก ผมจะทำให้เขาต้องผิดหวังจากผมจนแทบกระอักเลือดตายให้ได้คอยดู
กว่าแปดสิบวันที่ผ่านมาการใช้ชีวิตที่กรุงโซลประเทศเกาหลีเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นให้ดูดีขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยมีดหมอระดับแนวหน้าของประเทศเกาหลี ผมจึงมั่นใจได้ว่าฝีมือและผลงานที่ออกมาต้องเป็นที่น่าพอใจของผมและมันก็เป็นไปตามที่ผมตั้งใจไว้ ครั้งแรกที่ผมได้เห็นตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยไร้เสื้อผ้าปกปิดร่างกายในกระจกบานใหญ่ภายในห้องนอนที่พัก ผมดีใจและมีความสุขมากกับความฝันของผมที่กำลังจะเป็นจริงอีกไม่กี่วันข้างหน้ากับการได้เอาคืนและทวงถามถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมจากปากพล่อยๆ คนไร้หัวใจไร้ความรู้สึกของรุ่นพี่สุดหล่อคนนั้น ผมคิดพร้อมวางแผนกับสิ่งที่ผมจะทำต่อไปในอนาคตอันใกล้อย่างแยบยลและซับซ้อนเพราะสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดก็คือการได้เห็นใครคนนั้นต้องตกอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดทนทุกข์ทรมานกับความผิดหวังจากความรัก ใครจะว่าผมเป็นคนใจดำอำมหิตผมก็ยอมรับถ้าคุณไม่ได้เป็นผมคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าผมรู้สึกยังไง
ตลอดระยะเวลากว่าแปดสิบวันที่ผ่านมาเพื่อนรักของผมทั้งสองคนยังติดต่อผมตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง ไอ้ธีมยังส่งข่าวให้ผมอีกว่าหลังจากที่ผมถูกมหาลัยไล่ออก รุ่นพี่สุดหล่อที่ผมแอบรักเขามีความสุขมากถึงขั้นใช้เงินจำนวนหนึ่งจัดเลี้ยงเฉลิมฉลองการที่ผมถูกไล่ออกแก่นักศึกษาทั้งมหาลัยเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนอย่างยิ่งใหญ่ ยิ่งสร้างความแค้นใจให้ผมเป็นทวีคูณปราบใดที่ผมกลับไปในรูปลักษณ์ใหม่เมื่อไหร่ ผมจะทำให้เขาต้องรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดและทรมานที่สุดให้ได้ ส่วนคำถามผมก็ตอบเลี่ยงๆ มันไปว่าขอมาพักผ่อนสักระยะหนึ่งแล้วจะกลับไปเรียนต่อโดยที่มันสองคนไม่รู้เลยว่าผมเดินทางมาเปลี่ยนแปลงตัวเองในดินแดนห่างไกล ถ้าผมกลับไปมันจะจำผมได้หรือเปล่านะ ผมก็ต้องบอกพวกมันอยู่ดี ผมยังมีแผนรองรับเอาไว้อีกหลายแผนเพื่อไม่ให้ความจริงถูกเปิดเผยว่าผมก็คือหมีควายที่รุ่นพี่สุดหล่ออย่างพี่ไรเฟิลเคยใช้เรียกประณามผมไปทั่วมหาลัยเมื่อหลายเดือนก่อนนั่นเอง
"พี่ไรเฟิล! พี่ต้องได้รับผลจากการกระทำของพี่ ผมจะทำให้พี่ได้รู้ว่าการรักคนที่รูปลักษณ์ภายนอกมันจะทำให้พี่เสียใจมากเพียงใดจากการถูกปฏิเสธความรัก จะไม่มีใครสามารถช่วยพี่ได้นอกจากผมคนนี้คนเดียว" ผมยืนพูดกับตัวเองในกระจกพลางฉีกยิ้มที่มุมปากอย่างสะใจ ขณะที่ฝ่ามือเรียวเล็กทั้งสองข้างกำลังสัมผัสกับใบหน้าและเรือนร่างที่สวยงามของตัวเอง คราวนี้แหละไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่เห็นผมในรูปลักษณ์ใหม่ พวกเขาต้องมาสยบแทบเท้าผมอย่างแน่นอนโดยเฉพาะไรเฟิล ราชภูมิ