ว่าที่เจ้าสาว

1384 คำ
รถเก๋งคันหรูสีดำแล่นออกจากเขตของคอนโดมิเนียม ท่ามกลางแสงแดดร้อนแรงในช่วงเที่ยงวัน และความวุ่นวายบนท้องถนนใจกลางเมือง “จริงสิ ผมยังไม่ได้บอกมาใช่มั้ยว่าอาแทนไทอาสาจะเป็นคนส่งตัวเจ้าสาว มาจะว่าไง” เธออึ้งนิดหน่อย “เหรอคะ?” “เพราะมาไม่เหลือญาติแล้ว อาแทนไทเลยเสนอจะเป็นญาติฝ่ายเจ้าสาวให้น่ะ” เพราะเธอคนโกหกเขาว่าเป็นลูกกำพร้า ไม่มีครอบครัว เติบโตมาด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก มีเพียงบ้านหลังเล็กที่ทิ้งร้างอยู่บนเกาะ...ตอนแรกที่เข้ามาทำงานที่นี่ เธอโกหกเพราะไม่อยากให้ใครมาสนใจประวัติของเธอมากนัก ต่อมาเมื่อได้เริ่มคบหากับเหนือเมฆ การโกหกเรื่องครอบครัวกลายเป็นความละโมบโลบมากของตัวเธอเอง เธอกลัวว่าเขาจะรู้ความลับที่เธอซ่อนไว้ ความลับที่อาจจะทำให้เธอเสียทุกอย่างไปในพริบตา “มาโอเคนะคะ ท่านมีเมตตากับมามาก แต่คนในครอบครัวของท่านจะโอเคด้วยรึเปล่า โดยเฉพาะลูกสาวของท่าน คุณสิตางค์จะไม่วีนเอาเหรอคะ?” “ถ้าท่านยืนยันจะทำ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง” “พรุ่งนี้ มามีบินไฟท์หาดใหญ่ มาอาจจะแวะไปทำธุระที่บ้านสักสองสามวัน” “ผมอยากไปด้วยจัง อยากไปเห็นชีวิตวัยเด็กของคุณว่าเป็นยังไง” วัยเด็กของเธอน่ะเหรอ เธออยากลืมจะตายชัก แล้วเขาจะอยากรู้ไปทำไม “วัยเด็กของมาก็...เป็นแค่เด็กธรรมดาน่ะค่ะ เด็กบ้านนอกคอกนาหน้าตามอมแมม” “มอมแมมแต่น่ารักรึเปล่า” “ไม่น่ารักเท่าตอนโตหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เหนือ ที่ไม่รังเกียจผู้หญิงบ้านนอกคนนี้” “น่ารักขนาดนี้รังเกียจไม่ลงหรอก ว่าแต่ มาจะกลับบ้านไปทำไมอีก ในเมื่อไม่มีใครให้ไปหาแล้ว” “ก็มีบ้านไงคะ มาคิดว่าจะไปขายบ้านน่ะค่ะ ขายบ้านได้แล้วก็คงจะไม่กลับไปที่นั่นอีกเลย!” มันคือความตั้งใจแรกของเด็กสิบแปดในตอนนั้น นับตั้งแต่วันที่เธอก้าวออกมาเมื่อเจ็ดปีก่อน...เธอจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว...เธอหันหลังจากมาพร้อมกับความโกรธ ความเสียใจ และความน้อยใจที่สุมทุมเต็มอก แม้กระทั่งตอนนี้ ความรู้สึกเหล่านั้นก็ยังคงหลงเหลืออยู่ ราวกับเป็นบาดแผลที่รักษาไม่หาย แต่เธอก็ต้องยอมรับว่า...ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา ไม่มีแม้สักวันเดียว ที่เธอไม่คิดถึงที่นั่น ! ตึกสำนักงานของบริษัทกรีนมายด์การบิน ตั้งอยู่อย่างสง่างามท่ามกลางตึกสูงระฟ้าในเขตใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร ยอดสูงสุดของตึกห้าสิบชั้น บรรจุห้องทำงานของเหล่าผู้บริหารคนสำคัญ รวมทั้งห้องทำงานของ CEO ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของบริษัท ด้วยวัยเพียงยี่สิบแปดปีของเหนือเมฆ วันนี้ เขาได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาสามารถนำพาบริษัทการบินขนาดกลางของประเทศไปสู่การเป็นสายการบินอันดับต้น ๆ ของเอเชียได้สำเร็จ โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ความเก่งกาจของเขาได้รับการยอมรับจากเหล่าผู้บริหารและหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทโดยไม่มีข้อแม้ ทุกคนพร้อมจะเดินตามเขา เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นสายการบินระดับโลก ตามที่เขาได้ประกาศไว้ว่าจะทำให้ได้ภายในสามปี “ทำไมคุณถึงมาเป็นแอร์โฮสเตสล่ะ” เขาเอ่ยถามอย่างสนใจใคร่รู้ ขณะเดินเข้าตึกมาพร้อมกัน ท่ามกลางสายตาสนใจของเหล่าพนักงาน และสายตาอิจฉามากมายของหญิงสาว “มาอยากอยู่ใกล้ ๆ เมฆน่ะค่ะ” “หืม?” “จริง ๆ นะคะ มาว่า เมฆดูสวยดี” เธอยังจำความรู้สึกของตัวเองเมื่อครั้งยังเป็นเด็กได้ เด็กน้อยที่ชอบเงยหน้ามองเครื่องบินที่กำลังแล่นอยู่บนท้องฟ้าสวย...แผ่นฟ้ากว้างที่เต็มไปด้วยทิวเมฆปุกปุยขาวโพลนหลากหลายรูปแบบ...เมฆขาวพวกนั้นถักทอความฝันของเธอจนเป็นรูปเป็นร่าง “อยากอยู่ใกล้เมฆ งั้นตอนนี้มาก็ทำสำเร็จแล้ว” “ค่ะ มาถึงรักงานของมามากไงคะ” “ขอบคุณนะครับที่เลือกสายการบินของเรา” “งั้นก็ขึ้นเงินเดือนให้สิคะ” “ยกหัวใจให้เลย พอมั้ย?” ขวัญมาแอบเขิน “อย่าเยอะค่ะท่านประธาน อย่าลืมว่าตอนนี้เราอยู่ในบริษัท ตอนนี้เราเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องค่ะ” “ครับคุณขวัญมา คิดว่าผมจะจูบคุณรึไง” “อย่าเชียวนะ แค่นี้มาก็โดนเกลียดจะแย่อยู่แล้ว” ซึ่งเป็นการถูกเกลียดที่ทำให้เธอรู้สึกดีชะมัด เธอรู้ว่าตอนนี้ ไม่มีแอร์โฮสเตสคนไหนไม่อิจฉาเธอ โดยเฉพาะกลุ่มลูกคุณหนูตัวแสบ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของสิตางคุ์ ลูกสาวคนเดียวของแทนไทกับแพรวา หนึ่งในหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท คนที่เสนอตัวจะเป็นญาติฝ่ายเจ้าสาวให้เธอนั่นล่ะ “ใครกล้าเกลียดว่าที่ภรรยาของ CEO นะ” เขาแสร้งทำเป็นเสียงเข้มขู่ เพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาน่าหนักใจ ด้วยพอจะรู้ว่าตัวเองเป็นความฝันของพนักงานหญิงเกือบค่อนบริษัท การที่ขวัญมาได้หัวใจของเขาไป ก็เท่ากับเป็นการหักอกผู้หญิงเกือบครึ่งพัน...หรือมากกว่านั้น “ก็เหล่าแฟนเกิร์ลแฟนคลับของคุณไงคะ” โดยเฉพาะยัยคุณหนูสิตางคุ์ตัวดี ที่หมายมั่นจะแต่งงานกับเหนือเมฆให้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแอร์โฮสเตสบ้านนอกอย่างเธอ “แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ มารับมือได้ค่ะ” เขายิ้ม “งั้นผมเข้าประชุมก่อนนะ” “สู้ ๆ นะคะท่านประธาน” “อ้าวเหนือ!” เสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง เธอจำเสียงของผู้ชายคนนั้นได้ “อาแทน สวัสดีครับ” เหนือเมฆหันไปไหว้ทักทายชายวัยประมาณห้าสิบกลาง ๆ ที่ยังดูหล่อเหลาและภูมิฐาน แทนไทเป็นหนึ่งในผู้บริหารคนสำคัญของบริษัทที่ได้รับการยกย่องและยอมรับจากทุกคน หากสิบปีก่อน เหนือเมฆไม่โผล่มาในงานศพของเมฆินทร์ ซึ่งเป็นประธานบริหารในขณะนั้น ตำแหน่ง CEO จะตกเป็นของแทนไทอย่างไม่ต้องสงสัย “อาได้อ่านรายงานการประชุมคร่าว ๆ แล้ว เหนือเก่งมากนะ ปีนี้บริษัทเรามีกำไรเยอะเลย” แทนไทพูดพลางปรายตามองขวัญมาด้วยแววตาอบอุ่น เขารู้สึกรักและเมตตาขวัญมาอย่างไม่มีเหตุผลมาตลอด แม้เขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นเพลบอยด์ระดับตำนาน จนใครๆ ต่างคิดว่าเขาสนใจขวัญมาเชิงชู้สาว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขากลับไม่คิดแบบนั้นกับเธอเลย “ยินดีด้วยนะคุณขวัญมา เรากำลังจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” “ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาด้วยความเคารพ ความดีมีเมตตาของแทนไททำให้เธอสามารถยกมือไหว้เขาได้อย่างไม่คลางแคลงใจ ซึ่งต่างจากยลดา พี่สาวของแทนไท ซึ่งเป็นภรรยาคนที่สองของเมฆินทร์ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นแม่เลี้ยงของเหนือเมฆก็ได้ ยลดาเองก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทเช่นกัน แต่เธอเป็นคนร้ายกาจ หยิ่งยโสจองหอง และไม่เคยเห็นหัวใคร จึงทำให้พนักงานพากันขยาด หากยลดามีลูกกับเมฆินทร์สักคน ป่านนี้ก็คงเกิดศึกแย่งชิงมรดกและตำแหน่งประธานบริหารของบริษัทอย่างแน่นอน ในขณะที่แทนไทแสดงความยินดีที่เธอได้แต่งงานกับเหนือเมฆ เธอเชื่อว่าตอนนี้ยลดากำลังอยู่ไม่ติด เพราะยลดาวาดหวังจะให้สิตางคุ์ซึ่งเป็นหลานสาวแต่งงานกับเหนือเมฆ เพื่อให้ทรัพย์สินทุกอย่างไม่กระเด็นไปไหน ยลดาส่งสิตางคุ์มาเป็นเลขาของเหนือเมฆ เพื่อให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน แต่มันก็ไม่ได้ผล เพราะเหนือเมฆคิดกับสิตางคุ์แค่น้องสาว ขณะที่สิตางคุ์หลงรักเหนือเมฆหัวปักหัวปำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม