10.21 pm.
"เป็นเรื่องแรกที่กูไม่รู้สึกเปลืองค่าหนัง"
"ก็กูเลี้ยงมึงจะเปลืองได้ไง"
ไอ้สกายหันมาถลึงตามองฉันอย่างไม่พอใจนักหลังฉันตอบมันกลับไปแบบนั้น ฉันหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะอ้าปากหาวเพราะนี่มันก็ดึกแล้ว
"แล้วไงต่อ?"
"หิวไหมล่ะ?"
"ดูแล้วมึงนะที่ดูหิว"
"เออ ไปหาไรกินกันกูนอนไม่หลับแน่ถ้ากลับห้องทั้งที่ยังหิวแบบนี้"
"ขอเบาๆนะ"
"จัดไปครับ"
ฉันเดินตามสกายเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นหลังออกมาจากโรงหนังอย่างเซ็งๆ แล้วเบาๆของมันคือสั่งซูชิเป็นถาด ยังไม่รวมเซ็ทปลาแซลมอนกับพวกของกินเล่นนี่อีกเผลอแป๊บเดียวเขาก็เอาของมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะแล้ว
"เฮ้อ ไม่น่าเชื่อมึงเลย"
"เอาน่านานๆมากินที"
"นานของมึงคือเมื่อวานรึเปล่า?"
"กูอยากกินมานานแล้วอ่ะ เด็กกูไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นกูเลยอดกินเพราะงั้นไหนๆก็มาแล้วขอหน่อยเถอะ"
ฉันมองสกายอย่างขำๆ เพราะดูแล้วมันก็คงอยากกินจริงๆนั่นแหละ คนชอบอาหารญี่ปุ่นแต่ต้องอดทนไม่กินตามใจปากเพราะเด็กนี่มันยังไง
"ไหนว่าโสด?"
"ห๊ะ?"
"ก็มึงบอกกับกูว่าโสดแต่ไหงมีเด็ก"
"โถ่ โสดไงแต่ก็มีคนคุยเหมือนมึงนั่นแหละ"
สกายตอบทั้งที่ยังคีบซูชิเข้าปากไม่หยุดจนฉันต้องเงียบให้เพื่อนได้กินก่อน อะไรมันจะหิวขนาดนั้นล่ะคน ฉันคีบแซลมอนมากินบ้างก่อนจะมองไปรอบๆร้านที่ตอนนี้แทบจะไม่มีคนแล้วอย่างสบายตา ร้านนี้เปิดอยู่หน้าโรงหนังที่เรามาดูพอดี และเพราะสกายมันไม่อยากไปดูหนังในห้างมันเลยลงทุนขับรถออกจากตัวเมืองมาเกือบสิบกิโลเพื่อมาดูโรงหนังที่นี่
"สลัดครับ"
"หื้ม มึงสั่งเหรออลิซ?"
"ไม่นะ โทษนะคะสลัดนี่เราไม่ได้สั่งนะ"
ฉันเงยหน้าบอกพนักงานด้วยรอยยิ้มก่อนเขาจะชะงักพร้อมกับรีบก้มหัวขอโทษฉัน
"ขอโทษนะครับพอดีผมเสิร์ฟผิดโต๊ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
ฉันตอบพนักงานไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเลิกคิ้วมองตามพนักงานที่เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะทางขวามือที่อยู่มุมหน่อยๆ ซึ่งตรงนั้นก็มากันสองคนเหมือนกับฉันและสกาย
"โต๊ะน้อยแบบนี้ก็ยังเสิร์ฟผิดได้นะ"
"โต๊ะนั้นก็มาสองคนไง"
สกายพยักหน้าอย่างไม่ถือสา ก่อนมันจะกินต่อฉันเองก็ด้วยเราสองคนกินอาหารกันไปคุยเรื่องน้ำหอมกันไปจนอาหารที่สกายสั่งมาเกือบจะหมดแล้ว
"โคตรอิ่ม"
"กินอะไรอีกไหม?"
"ไม่ล่ะกูไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวจ่ายเงินเลย"
"โอเค"
ฉันหันไปเรียกพนักงานมาจ่ายเงิน แต่ครั้งนี้เป็นสกายที่สแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายไปก่อนฉันที่กำลังหยิบบัตรในกระเป๋า
"คนเท่าไหร่ล่ะ?"
"ไม่เป็นไรอันนี้กูเลี้ยง"
"เอ้า"
"มึงก็เลี้ยงหนังแล้วไง ป่ะกลับเถอะ"
สกายพูดจบก็ลุกขึ้นยืนฉันจึงต้องลุกขึ้นเดินออกจากร้านพร้อมกับมัน แต่ตอนที่กำลังจะเดินออกจากร้านหางตาฉันกลับเหลือบไปเห็นผู้หญิงคุ้นหน้าที่กำลังนั่งป้อนอาหารให้ผู้ชายที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ...
"อลิซ?"
"เดี๋ยวมึงไปก่อนกูเหมือนลืมของที่โต๊ะ"
"อ่อ รีบตามมานะ"
"อือ"
ฉันเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง และทำเป็นว่าตัวเองลืมโทรศัพท์ทั้งที่จริงๆแล้วฉันก็ถือมันอยู่เพียงแต่ฉันอยากเดินกลับมาที่โต๊ะ เพื่อมองไปที่โต๊ะนั่นให้แน่ใจอีกครั้งว่าเมื่อกี้ที่ฉันเห็นมันคือคนที่ฉันรู้จักจริงๆ..
ใช่จริงๆด้วยผู้หญิงคนนั้นคือแฟนของเฮียทศ แต่ผู้ชายคนที่เธอกำลังนั่งป้อนอาหารอยู่ไม่ใช่เขา...เขาไม่ใช่เฮียทศหนิ!
"อะไรกัน"
ฉันกำโทรศัพท์ตัวเองแน่นก่อนจะเดินออกมาจากโต๊ะ แต่ก่อนที่จะออกจากร้านฉันก็อดที่จะมองไปทางเธออีกครั้งไม่ได้...มันไม่ใช่เฮียทศจริงๆนะ เพราะคนนี้เขาคนละสไตล์กับเฮียเลยแล้วไอ้การที่นั่งป้อนกันไปมาพร้อมกับลูบหัวกันนี่มันปกติเหรอ..ปกติไอ้สกายมันไม่ทำแบบนี้กับฉันที่เป็นแค่เพื่อนกันนะ
พรึบ
"เจอไหม?"
"เจออะไร?"
"เอ้า มึงกลับไปหาโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ?"
สกายมองฉันด้วยความสงสัยฉันจึงร้องอ่อออกมา และชูโทรศัพท์ให้มันเห็น
"เห็นล่ะ"
"ขี้ลืมแบบนี้ไงผัวถึงไม่มีสักที"
"มันเกี่ยวอะไรกันล่ะเนี่ย"
"กูหาเรื่องด่ามึงไปงั้นแหละ"
สกายหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขับรถออกจากหน้าร้านแต่ฉันก็ยังอดจะหันไปมองไม่ได้...ต้องยอมรับแล้วสินะว่าจริงๆแล้วฉันก็ไม่เคยลืมเฮียทศเลยทั้งๆที่ไม่ได้เจอเขาเลยหลังจากวันนั้น แต่ยังไงล่ะ เฮียทศเขายังติดอยู่ในความจำของฉันอยู่เลย
"มึง"
"ว่า?"
"ถ้าผู้หญิงคนนึงมีแฟนแล้วแล้วจู่ๆมานั่งกินข้าวกับผู้ชายอื่นนอกจากแฟนนี่แปลกไหม?"
"มึงถามนี่เรื่องของเราเหรอวะ?"
"ไม่ใช่เรื่องของเราแน่นอน เพราะงั้นโฟกัสคำถามแล้วตอบมา"
สกายเกาหัวตัวเองเบาๆก่อนจะหันมามองฉัน
"ไม่แปลกดิ คนเราก็ต้องมีเพื่อนไหมขนาดมึงยังมีกูเป็นเพื่อน"
"ก็คงไม่แปลก"
"แต่มันจะแปลกนะถ้าป้อนข้าวกัน จับแก้มกัน ลูบหัวกันงี้ถ้ามีพวกนี้ร่วมด้วยคือแปลกมึงก็ดูแค่กูกับมึงเราสองคนทำอะไรเสียวๆแบบนั้นไหมล่ะ?"
ฉันหันมองสกายที่เพิ่งตอบมาเพิ่มอีกครั้ง เพราะมันดันคิดเหมือนกันกับที่ฉันไปเจอมา..ทั้งสีหน้าและท่าทางของแฟนเฮียทศเธอพูดคุยกับเขาคนนั้นไม่ต่างจากตอนที่อยู่กับเฮียเขาเลย แบบนี้งั้นก็แสดงว่าที่ฉันคิดไม่เกินจริงสินะ
เธอจะกล้าหักหลังเฮียทศได้จริงๆเหรอทั้งๆที่เขาดีขนาดที่ฉันเองยังลืมไม่ลงแบบนี้
เวลาต่อมา
"ยังไม่ได้เลิกกันจริงๆสินะ"
ฉันขมวดคิ้วมองไอจีของยัยแอร์แฟนเฮียด้วยความสงสัย ก่อนจะกดเข้าไปดูสตอรี่ไอจีของนางในวันนี้...นางลงสตอรี่ว่ากำลังบินกลับจากเกาหลีทั้งๆที่ฉันเพิ่งเห็นนางนั่งอยู่ร้านซูชิ
"สร้างไทม์ไลน์สินะ"
ฉันกดออกจากหน้าไอจีนาง และเข้าไปดูไอจีของเฮียทศที่วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากเหมือนเคย เขาลงรูปล่าสุดคือรูปรอยสัก และมีรูปคู่กับยัยแอร์นั้นอีกแต่สตอรี่ก็ไม่มีอะไรมากมีแต่ลงงานสักตัวเอง
"เขาทำงานอย่างหนักเลยนะ"
ตอนนี้ฉันมั่นใจเกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นแล้วว่ายัยนั้นมันนอกใจเฮียจริงๆ ฉันขยับลุกขึ้นนั่งและเม้มปากอย่างไม่พอใจนัก
"เฮียมีอะไรไม่ดีเหรอทำไมยัยบ้านั้นกล้านอกใจ?"
รึจะทำงานเยอะไป ก็ไม่นะดูแล้วยัยแอร์นั้นทำงานเยอะกว่าเฮียเป็นไหนๆ...ให้ตายคืนนี้ฉันนอนไม่หลับแน่ๆถ้ายังไม่ได้คำตอบกับเรื่องที่ตัวเองไปเจอมาน่ะ
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มากนะ คบมาตั้งเจ็ดปีแต่มานอกใจเฮียทศแบบนี้...แต่ทำไมฉันกำลังยิ้มอยู่ล่ะเนี่ย ให้ตาย..
ชอบคนมีแฟนแล้วจนตัดใจจากเขาไม่ได้ไม่พอยังมีหน้ามาดีใจตอนรู้ว่าเขาโดนแฟนนอกใจอีกเฮ้อ..ฉันนี่มันนิสัยเสียจริงๆเลยนะ
วันต่อมา
4.25 pm.
"เพราะเรื่องนี้มึงเลยถ่อมาหากูถึงบ้าน!?"
"ใช่"
"โห แสดงว่ามึงยังชอบเฮียทศอยู่ใช่ไหมอีอลิซไหนมึงบอกว่ามึงตัดใจแล้วไง!?"
"มึงใจเย็นๆ"
"นี่ยังไม่อะไรจะให้พวกกูเป็นหมาแล้ว"
"เอาน่า ช่วยเรื่องที่กูอยากรู้ก่อนได้ไหม?"
ทีน่าเบิกตามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา มันคงไม่อยากจะเชื่อจริงๆนั่นแหละว่าฉันลงทุนขับรถจากคอนโดมาหามันถึงบ้าน เพราะเรื่องผู้ชายแล้วยังเป็นผู้ชายของคนอื่นด้วยนะ
"เฮ้อ แต่เรื่องที่มึงไปเจอมาก็เรื่องใหญ่เหมือนกันนะเฮียเขาลงยังลงรูปคู่ในสตอรี่อยู่เลย"
"ใช่ไหมล่ะ!"
"มึงไปส่องมาแล้ว?"
"ก็ใช่"
"มึงชอบแฟนคนอื่นรู้ตัวใช่ป่ะ?"
"แต่แฟนเขานอกใจนะมึง"
ฉันเบิกตามองทีน่าขณะที่ทีน่าเองได้แต่กุมหัวมองฉันอย่างคิดหนัก
"นี่มึงดีใจเหรอ?"
"ห๊ะ?"
ฉันเลิกคิ้วมองทีน่าที่กำลังหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด ขณะที่ฉันได้แต่มองมันด้วยท่าทีลนลาน แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มออกมาไม่ได้
"โอ๊ยกูอยากตีมึงจริงๆอีคนเลว!"
"เลวอะไรก็ยัยนั้นมันมีกิ๊กอ่ะ มึงคิดว่าเฮียเขาจะโอเคเหรอวะแฟนตัวเองนอกใจแบบนั้น!"
"มึงเลยคิดว่าถ้าเฮียจับได้มึงจะได้โอกาสเสียบถูกไหม!?"
"ใช่!"
ทีน่ามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตาขณะที่ฉันกำลังมองมันตาเป็นประกาย เกิดมาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนนะเอาจริง
"แล้วมึงเอาไรมามั่นใจว่าเฮียจะเลิก?"
"มึงถ้าคนมันโดนหักหลังจากคนที่เขารักมากกูว่ามันก็ต้องมีไขว้เขวบ้างแหละ แล้วตอนที่เฮียหลงทางกูก็จะเข้าไปจับมือเขาแล้วพาเดินออกมาจากวังวนบ้าๆนั่นไง"
"มึงดูหนังเยอะไปนะ"
"ความคิดกูดีจะตาย"
"เฮ้อ มึงเหมือนจะดูเป็นนางเอกนะที่เข้าไปตอนเขาหลงทางแต่ความคิดที่จะเข้าไปแบบนี้มันไม่ต่างจากนางร้ายเลยนะมึง"
"จะว่ากูเป็นนางร้ายมึงก็พูดเลย แต่กูไม่ได้แย่งตอนที่เขารักกันหนิกูแย่งตอนที่เฮียจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กเท่านั้นเอง ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นมันกล้าปล่อยมือจากเหยื่ออันโอชะขนาดนี้มีเหรอกูจะอยู่เฉยๆ"
"โห"
"แต่ตอนนี้กูต้องมั่นใจให้ได้ก่อนว่านั่นกิ๊กจริงๆไหม เพราะงั้นมึงกับนามิต้องช่วยกู"
"มึงเอาจริง?"
"หรือไม่ช่วยกูก็ได้กูจะทำเอง"
"ให้ตาย เราลงเรือลำเดียวกันขนาดนี้แล้วอ่ะ"
"งั้นมึงก็ช่วยกู"
"ยังไง?"
"อันดับแรกกูต้องมั่นใจก่อนว่าเฮียโดนนอกใจจริงๆ"
"แล้วถ้าไม่จริงล่ะ?"
"กูว่าจริง"
"แต่มึงยังไม่มีหลักฐาน"
"เพราะงั้นเราต้องไปหาหลักฐานไง" ฉันเหยียดยิ้มมองหน้าทีน่า "เมื่อคืนกูไปส่องมาแล้วเห็นว่าพนักงานต้อนรับร้านสักเฮียเรียนอยู่ปีสองคณะเดียวกับผัวมึง"
"น้องโบนัสน่ะนะ?"
"ใช่ มึงให้ผัวมึงไปถามน้องโบนัสคนนั้นว่าตอนนี้สถานการณ์หัวใจเฮียเป็นยังไง"
"แล้วไงต่อ?"
"ส่วนกูจะจับตามองยัยผีช่องแอร์นั่นเองว่าใครกันที่มันคบลับหลังเฮียอยู่"
"เฮ้อ กูโทรเรียกนามิแป๊บนะตอนนี้รู้สึกร้อนๆหนาวๆกับความคิดมึงยังไงก็ไม่รู้ว่ะ"
ฉันเหยียดยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มของฉันกลับทำเอาทีน่าเบ้หน้าใส่อย่างหวาดๆ คนมักจะมองว่าฉันเป็นคนใสซื่อจากลุคคุณหนูของฉันแต่น้อยคนนักจะรู้ว่าตัวตนฉันจริงๆเป็นยังไง ฉันอ่ะสงสารเฮียจับใจเลยนะเรื่องที่โดนนอกใจ เพราะงั้นเขาก็ควรที่จะได้เจอกันคนที่พร้อมจะดูแลหัวใจเขาต่ออย่างฉันสิมันถึงจะดี
ฉันเหมาะกับเขากว่ายัยนั้นอีก และครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้เพียงเพราะเตี้ยกว่ายัยนั้นแน่นอน!