EP.3

2100 คำ
10.21 pm. "เป็นเรื่องแรกที่กูไม่รู้สึกเปลืองค่าหนัง" "ก็กูเลี้ยงมึงจะเปลืองได้ไง" ไอ้สกายหันมาถลึงตามองฉันอย่างไม่พอใจนักหลังฉันตอบมันกลับไปแบบนั้น ฉันหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะอ้าปากหาวเพราะนี่มันก็ดึกแล้ว "แล้วไงต่อ?" "หิวไหมล่ะ?" "ดูแล้วมึงนะที่ดูหิว" "เออ ไปหาไรกินกันกูนอนไม่หลับแน่ถ้ากลับห้องทั้งที่ยังหิวแบบนี้" "ขอเบาๆนะ" "จัดไปครับ" ฉันเดินตามสกายเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นหลังออกมาจากโรงหนังอย่างเซ็งๆ แล้วเบาๆของมันคือสั่งซูชิเป็นถาด ยังไม่รวมเซ็ทปลาแซลมอนกับพวกของกินเล่นนี่อีกเผลอแป๊บเดียวเขาก็เอาของมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะแล้ว "เฮ้อ ไม่น่าเชื่อมึงเลย" "เอาน่านานๆมากินที" "นานของมึงคือเมื่อวานรึเปล่า?" "กูอยากกินมานานแล้วอ่ะ เด็กกูไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นกูเลยอดกินเพราะงั้นไหนๆก็มาแล้วขอหน่อยเถอะ" ฉันมองสกายอย่างขำๆ เพราะดูแล้วมันก็คงอยากกินจริงๆนั่นแหละ คนชอบอาหารญี่ปุ่นแต่ต้องอดทนไม่กินตามใจปากเพราะเด็กนี่มันยังไง "ไหนว่าโสด?" "ห๊ะ?" "ก็มึงบอกกับกูว่าโสดแต่ไหงมีเด็ก" "โถ่ โสดไงแต่ก็มีคนคุยเหมือนมึงนั่นแหละ" สกายตอบทั้งที่ยังคีบซูชิเข้าปากไม่หยุดจนฉันต้องเงียบให้เพื่อนได้กินก่อน อะไรมันจะหิวขนาดนั้นล่ะคน ฉันคีบแซลมอนมากินบ้างก่อนจะมองไปรอบๆร้านที่ตอนนี้แทบจะไม่มีคนแล้วอย่างสบายตา ร้านนี้เปิดอยู่หน้าโรงหนังที่เรามาดูพอดี และเพราะสกายมันไม่อยากไปดูหนังในห้างมันเลยลงทุนขับรถออกจากตัวเมืองมาเกือบสิบกิโลเพื่อมาดูโรงหนังที่นี่ "สลัดครับ" "หื้ม มึงสั่งเหรออลิซ?" "ไม่นะ โทษนะคะสลัดนี่เราไม่ได้สั่งนะ" ฉันเงยหน้าบอกพนักงานด้วยรอยยิ้มก่อนเขาจะชะงักพร้อมกับรีบก้มหัวขอโทษฉัน "ขอโทษนะครับพอดีผมเสิร์ฟผิดโต๊ะ" "ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันตอบพนักงานไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเลิกคิ้วมองตามพนักงานที่เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะทางขวามือที่อยู่มุมหน่อยๆ ซึ่งตรงนั้นก็มากันสองคนเหมือนกับฉันและสกาย "โต๊ะน้อยแบบนี้ก็ยังเสิร์ฟผิดได้นะ" "โต๊ะนั้นก็มาสองคนไง" สกายพยักหน้าอย่างไม่ถือสา ก่อนมันจะกินต่อฉันเองก็ด้วยเราสองคนกินอาหารกันไปคุยเรื่องน้ำหอมกันไปจนอาหารที่สกายสั่งมาเกือบจะหมดแล้ว "โคตรอิ่ม" "กินอะไรอีกไหม?" "ไม่ล่ะกูไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวจ่ายเงินเลย" "โอเค" ฉันหันไปเรียกพนักงานมาจ่ายเงิน แต่ครั้งนี้เป็นสกายที่สแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายไปก่อนฉันที่กำลังหยิบบัตรในกระเป๋า "คนเท่าไหร่ล่ะ?" "ไม่เป็นไรอันนี้กูเลี้ยง" "เอ้า" "มึงก็เลี้ยงหนังแล้วไง ป่ะกลับเถอะ" สกายพูดจบก็ลุกขึ้นยืนฉันจึงต้องลุกขึ้นเดินออกจากร้านพร้อมกับมัน แต่ตอนที่กำลังจะเดินออกจากร้านหางตาฉันกลับเหลือบไปเห็นผู้หญิงคุ้นหน้าที่กำลังนั่งป้อนอาหารให้ผู้ชายที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ... "อลิซ?" "เดี๋ยวมึงไปก่อนกูเหมือนลืมของที่โต๊ะ" "อ่อ รีบตามมานะ" "อือ" ฉันเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง และทำเป็นว่าตัวเองลืมโทรศัพท์ทั้งที่จริงๆแล้วฉันก็ถือมันอยู่เพียงแต่ฉันอยากเดินกลับมาที่โต๊ะ เพื่อมองไปที่โต๊ะนั่นให้แน่ใจอีกครั้งว่าเมื่อกี้ที่ฉันเห็นมันคือคนที่ฉันรู้จักจริงๆ.. ใช่จริงๆด้วยผู้หญิงคนนั้นคือแฟนของเฮียทศ แต่ผู้ชายคนที่เธอกำลังนั่งป้อนอาหารอยู่ไม่ใช่เขา...เขาไม่ใช่เฮียทศหนิ! "อะไรกัน" ฉันกำโทรศัพท์ตัวเองแน่นก่อนจะเดินออกมาจากโต๊ะ แต่ก่อนที่จะออกจากร้านฉันก็อดที่จะมองไปทางเธออีกครั้งไม่ได้...มันไม่ใช่เฮียทศจริงๆนะ เพราะคนนี้เขาคนละสไตล์กับเฮียเลยแล้วไอ้การที่นั่งป้อนกันไปมาพร้อมกับลูบหัวกันนี่มันปกติเหรอ..ปกติไอ้สกายมันไม่ทำแบบนี้กับฉันที่เป็นแค่เพื่อนกันนะ พรึบ "เจอไหม?" "เจออะไร?" "เอ้า มึงกลับไปหาโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ?" สกายมองฉันด้วยความสงสัยฉันจึงร้องอ่อออกมา และชูโทรศัพท์ให้มันเห็น "เห็นล่ะ" "ขี้ลืมแบบนี้ไงผัวถึงไม่มีสักที" "มันเกี่ยวอะไรกันล่ะเนี่ย" "กูหาเรื่องด่ามึงไปงั้นแหละ" สกายหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขับรถออกจากหน้าร้านแต่ฉันก็ยังอดจะหันไปมองไม่ได้...ต้องยอมรับแล้วสินะว่าจริงๆแล้วฉันก็ไม่เคยลืมเฮียทศเลยทั้งๆที่ไม่ได้เจอเขาเลยหลังจากวันนั้น แต่ยังไงล่ะ เฮียทศเขายังติดอยู่ในความจำของฉันอยู่เลย "มึง" "ว่า?" "ถ้าผู้หญิงคนนึงมีแฟนแล้วแล้วจู่ๆมานั่งกินข้าวกับผู้ชายอื่นนอกจากแฟนนี่แปลกไหม?" "มึงถามนี่เรื่องของเราเหรอวะ?" "ไม่ใช่เรื่องของเราแน่นอน เพราะงั้นโฟกัสคำถามแล้วตอบมา" สกายเกาหัวตัวเองเบาๆก่อนจะหันมามองฉัน "ไม่แปลกดิ คนเราก็ต้องมีเพื่อนไหมขนาดมึงยังมีกูเป็นเพื่อน" "ก็คงไม่แปลก" "แต่มันจะแปลกนะถ้าป้อนข้าวกัน จับแก้มกัน ลูบหัวกันงี้ถ้ามีพวกนี้ร่วมด้วยคือแปลกมึงก็ดูแค่กูกับมึงเราสองคนทำอะไรเสียวๆแบบนั้นไหมล่ะ?" ฉันหันมองสกายที่เพิ่งตอบมาเพิ่มอีกครั้ง เพราะมันดันคิดเหมือนกันกับที่ฉันไปเจอมา..ทั้งสีหน้าและท่าทางของแฟนเฮียทศเธอพูดคุยกับเขาคนนั้นไม่ต่างจากตอนที่อยู่กับเฮียเขาเลย แบบนี้งั้นก็แสดงว่าที่ฉันคิดไม่เกินจริงสินะ เธอจะกล้าหักหลังเฮียทศได้จริงๆเหรอทั้งๆที่เขาดีขนาดที่ฉันเองยังลืมไม่ลงแบบนี้ เวลาต่อมา "ยังไม่ได้เลิกกันจริงๆสินะ" ฉันขมวดคิ้วมองไอจีของยัยแอร์แฟนเฮียด้วยความสงสัย ก่อนจะกดเข้าไปดูสตอรี่ไอจีของนางในวันนี้...นางลงสตอรี่ว่ากำลังบินกลับจากเกาหลีทั้งๆที่ฉันเพิ่งเห็นนางนั่งอยู่ร้านซูชิ "สร้างไทม์ไลน์สินะ" ฉันกดออกจากหน้าไอจีนาง และเข้าไปดูไอจีของเฮียทศที่วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากเหมือนเคย เขาลงรูปล่าสุดคือรูปรอยสัก และมีรูปคู่กับยัยแอร์นั้นอีกแต่สตอรี่ก็ไม่มีอะไรมากมีแต่ลงงานสักตัวเอง "เขาทำงานอย่างหนักเลยนะ" ตอนนี้ฉันมั่นใจเกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นแล้วว่ายัยนั้นมันนอกใจเฮียจริงๆ ฉันขยับลุกขึ้นนั่งและเม้มปากอย่างไม่พอใจนัก "เฮียมีอะไรไม่ดีเหรอทำไมยัยบ้านั้นกล้านอกใจ?" รึจะทำงานเยอะไป ก็ไม่นะดูแล้วยัยแอร์นั้นทำงานเยอะกว่าเฮียเป็นไหนๆ...ให้ตายคืนนี้ฉันนอนไม่หลับแน่ๆถ้ายังไม่ได้คำตอบกับเรื่องที่ตัวเองไปเจอมาน่ะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มากนะ คบมาตั้งเจ็ดปีแต่มานอกใจเฮียทศแบบนี้...แต่ทำไมฉันกำลังยิ้มอยู่ล่ะเนี่ย ให้ตาย.. ชอบคนมีแฟนแล้วจนตัดใจจากเขาไม่ได้ไม่พอยังมีหน้ามาดีใจตอนรู้ว่าเขาโดนแฟนนอกใจอีกเฮ้อ..ฉันนี่มันนิสัยเสียจริงๆเลยนะ วันต่อมา 4.25 pm. "เพราะเรื่องนี้มึงเลยถ่อมาหากูถึงบ้าน!?" "ใช่" "โห แสดงว่ามึงยังชอบเฮียทศอยู่ใช่ไหมอีอลิซไหนมึงบอกว่ามึงตัดใจแล้วไง!?" "มึงใจเย็นๆ" "นี่ยังไม่อะไรจะให้พวกกูเป็นหมาแล้ว" "เอาน่า ช่วยเรื่องที่กูอยากรู้ก่อนได้ไหม?" ทีน่าเบิกตามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา มันคงไม่อยากจะเชื่อจริงๆนั่นแหละว่าฉันลงทุนขับรถจากคอนโดมาหามันถึงบ้าน เพราะเรื่องผู้ชายแล้วยังเป็นผู้ชายของคนอื่นด้วยนะ "เฮ้อ แต่เรื่องที่มึงไปเจอมาก็เรื่องใหญ่เหมือนกันนะเฮียเขาลงยังลงรูปคู่ในสตอรี่อยู่เลย" "ใช่ไหมล่ะ!" "มึงไปส่องมาแล้ว?" "ก็ใช่" "มึงชอบแฟนคนอื่นรู้ตัวใช่ป่ะ?" "แต่แฟนเขานอกใจนะมึง" ฉันเบิกตามองทีน่าขณะที่ทีน่าเองได้แต่กุมหัวมองฉันอย่างคิดหนัก "นี่มึงดีใจเหรอ?" "ห๊ะ?" ฉันเลิกคิ้วมองทีน่าที่กำลังหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด ขณะที่ฉันได้แต่มองมันด้วยท่าทีลนลาน แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มออกมาไม่ได้ "โอ๊ยกูอยากตีมึงจริงๆอีคนเลว!" "เลวอะไรก็ยัยนั้นมันมีกิ๊กอ่ะ มึงคิดว่าเฮียเขาจะโอเคเหรอวะแฟนตัวเองนอกใจแบบนั้น!" "มึงเลยคิดว่าถ้าเฮียจับได้มึงจะได้โอกาสเสียบถูกไหม!?" "ใช่!" ทีน่ามองฉันอย่างไม่เชื่อสายตาขณะที่ฉันกำลังมองมันตาเป็นประกาย เกิดมาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนนะเอาจริง "แล้วมึงเอาไรมามั่นใจว่าเฮียจะเลิก?" "มึงถ้าคนมันโดนหักหลังจากคนที่เขารักมากกูว่ามันก็ต้องมีไขว้เขวบ้างแหละ แล้วตอนที่เฮียหลงทางกูก็จะเข้าไปจับมือเขาแล้วพาเดินออกมาจากวังวนบ้าๆนั่นไง" "มึงดูหนังเยอะไปนะ" "ความคิดกูดีจะตาย" "เฮ้อ มึงเหมือนจะดูเป็นนางเอกนะที่เข้าไปตอนเขาหลงทางแต่ความคิดที่จะเข้าไปแบบนี้มันไม่ต่างจากนางร้ายเลยนะมึง" "จะว่ากูเป็นนางร้ายมึงก็พูดเลย แต่กูไม่ได้แย่งตอนที่เขารักกันหนิกูแย่งตอนที่เฮียจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กเท่านั้นเอง ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นมันกล้าปล่อยมือจากเหยื่ออันโอชะขนาดนี้มีเหรอกูจะอยู่เฉยๆ" "โห" "แต่ตอนนี้กูต้องมั่นใจให้ได้ก่อนว่านั่นกิ๊กจริงๆไหม เพราะงั้นมึงกับนามิต้องช่วยกู" "มึงเอาจริง?" "หรือไม่ช่วยกูก็ได้กูจะทำเอง" "ให้ตาย เราลงเรือลำเดียวกันขนาดนี้แล้วอ่ะ" "งั้นมึงก็ช่วยกู" "ยังไง?" "อันดับแรกกูต้องมั่นใจก่อนว่าเฮียโดนนอกใจจริงๆ" "แล้วถ้าไม่จริงล่ะ?" "กูว่าจริง" "แต่มึงยังไม่มีหลักฐาน" "เพราะงั้นเราต้องไปหาหลักฐานไง" ฉันเหยียดยิ้มมองหน้าทีน่า "เมื่อคืนกูไปส่องมาแล้วเห็นว่าพนักงานต้อนรับร้านสักเฮียเรียนอยู่ปีสองคณะเดียวกับผัวมึง" "น้องโบนัสน่ะนะ?" "ใช่ มึงให้ผัวมึงไปถามน้องโบนัสคนนั้นว่าตอนนี้สถานการณ์หัวใจเฮียเป็นยังไง" "แล้วไงต่อ?" "ส่วนกูจะจับตามองยัยผีช่องแอร์นั่นเองว่าใครกันที่มันคบลับหลังเฮียอยู่" "เฮ้อ กูโทรเรียกนามิแป๊บนะตอนนี้รู้สึกร้อนๆหนาวๆกับความคิดมึงยังไงก็ไม่รู้ว่ะ" ฉันเหยียดยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มของฉันกลับทำเอาทีน่าเบ้หน้าใส่อย่างหวาดๆ คนมักจะมองว่าฉันเป็นคนใสซื่อจากลุคคุณหนูของฉันแต่น้อยคนนักจะรู้ว่าตัวตนฉันจริงๆเป็นยังไง ฉันอ่ะสงสารเฮียจับใจเลยนะเรื่องที่โดนนอกใจ เพราะงั้นเขาก็ควรที่จะได้เจอกันคนที่พร้อมจะดูแลหัวใจเขาต่ออย่างฉันสิมันถึงจะดี ฉันเหมาะกับเขากว่ายัยนั้นอีก และครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้เพียงเพราะเตี้ยกว่ายัยนั้นแน่นอน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม