ท่านอ๋อง(ใหญ่)

1900 คำ
เอลลี่ลืมตาตื่นมาท่ามกลางเสียงจิ้งหรีดร้อง น้ำค้างพร่างพรม อากาศเย็นสบาย แสงจันทร์สาดส่องพร้อมอากาศบริสุทธิ์ เธอไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ นึกว่ามีแต่เรื่องเล่าในหนังสือนิทานสำหรับเด็ก เธอเงยหน้าขึ้นจากหลุมขนาดใหญ่ ปีนขึ้นไปยืนบนยานอวกาศ มองเหล่าองครักษ์ที่กำลังล้อมรอบยืนดูเธอ ส่วนโทบี้กับชิทตี้ปีนขึ้นมายืนข้างเธออย่างทุลักทุเล ได้ยินเสียงคนคุยกันจอแจบนปากหลุม เอลลี่ฟังไม่ออก ภาษาจีนโบราณบ้าบออะไรเนี่ย เธอควานมือลงไปในกระเป๋าแปดมิติ หยิบขนมสื่อสารออกมากิน กินแล้วมีความสามารถยิ่งกว่ากูเกิลแปลภาษา สามารถเข้าใจทุกภาษาทั่วโลกรวมถึงโลกโบราณไปถึงภาษาก่อนคริสตกาลและอื่น ๆ "พวกเจ้าต้องไปพบท่านอ๋องสาม" "ไม่ไปแล้วจะทำไม" เอลลี่ตะโกนขึ้นไป "ไม่ไปดี ๆ ก็ต้องจับไป" "ก็มาดิคร้าบ มาจับเลย" องครักษ์ใช้วิชาตัวเบาร่อนกายลงมาจากปากหลุมขนาดใหญ่ เอลลี่คว้าปืนพลังงานแอสทรอนขึ้นมา ปรับไปที่โหมดจับสัตว์ใหญ่ ปัง! เสียงปืนดังขึ้นนัดเดียว ลูกกระสุนคำนวณอัตโนมัติตามจำนวนคน ต่างพุ่งเข้าใส่ร่างองครักษ์ราวสิบคน เหมือนเชือกเหนียวที่มองไม่เห็นยิงออกจากปืน ร่างขององครักษ์ต่างชักดิ้นชักงอลงที่พื้น เอลลี่ยิ้มขึ้นมุมปาก เปิดระดับพลังงานที่เข็มขัด เธอดึงลากร่างองครักษ์ทั้งสิบไปขึ้นรถม้าที่จอดอยู่ปากหลุม คนขับรถม้าถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว ผู้ติดตามทั้งโทบี้กับชิทตี้เปิดระดับพลังงานที่รองเท้ากระโดดทีเดียวก็พ้นปากหลุมขึ้นมาบนรถม้าที่มีร่างองครักษ์กองรวมกันอยู่ "ไปหาอ๋องสามสิ" เอลลี่สั่ง "ขอรับ" คนขับรถลากเทียมม้าพาเอลลี่กับพวกมุ่งหน้าไปยังตำหนักอ๋องสาม องครักษ์อีกเกือบแปดสิบคนได้แต่มองตาปริบๆ แม่นางคนนี้มีอาวุธประหลาด พวกเขายังไม่อยากชักดิ้นชักงอเหมือนองครักษ์กลุ่มนั้น ไหนๆ นางก็ยินยอมไปพบอ๋องสามแต่โดยดี พวกเขาได้แต่ขี่ม้าตามไปอย่างหวาดๆ ********************** เอลิก้า เรียกเล่นๆ ว่าเอลลี่ เป็นหัวหน้าหน่วยแพทย์พิเศษทหารอากาศ มียศยาวเหยียดแต่เอลลี่จำไม่ได้หรอก จะบ้าเหรอจะมาจำทำไมให้มันเสียเวลา ...เธอเป็นสาวเสี้ยนเอ็นตัวแม่ หรือเรียกว่าเห็นไอ้นั่นของผู้ชายเป็นไม่ได้ อยากวิ่งเข้าไปม๊วฟฟฟ จะเรียกว่าอมก็ได้ตามสะดวก การม๊วฟจู๋ผู้ชายมันทำให้อารมณ์ดี เพลิดเพลินมั่กมาก มันจะมีกลิ่นพิเศษเฉพาะของบุรุษเพศ ความแข็งร้อนและความลื่นของกระปู๋ตอนถูกปลายลิ้นสัมผัสจนมันเด้งดึ๋งดั๋งขึ้นมารับปลายลิ้น มันทำให้เอลลี่ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้อม 'ฉันอยากอมท่อนเอ็นขึ้นมาอีกแล้วสิ ว่าแต่จะไปอมของใครล่ะเนี่ย หลังจากถูกแฟนเทไปหลายเดือนฉันก็ยังไม่ได้อมเอ็นของจริงอีกเลย ว่าแล้วก็หิวน้ำว่าวขึ้นมาทันที เฮ้อ! อยากกินน้ำว่าวจัง' เอลลี่คิดอยู่คนเดียวเพลินๆ ว่าแล้วก็เอาเท้าเขี่ยองครักษ์ที่นอนสลบอยู่บนพื้นรถลากเทียมม้า องครักษ์งัวเงียขึ้นมาเห็นเอลลี่แล้วทำหน้าเหมือนเห็นผี "แม่นางเจ้ามีพลังประหลาด" พวกองครักษ์ทำหน้าแบบหวาดๆ "อืม แล้วไง" เธอตอบ "เจ้าเป็นปีศาจรึ" "ไม่ใช่หรอกไม่ต้องกลัวพวกข้า แล้วพวกเจ้าจะพาข้าไปหาอ๋องสามทำไมกัน" "ผู้ใดก็ตามที่เข้ามาในเขตการปกครองของท่านอ๋องย่อมต้องรายงานตัวต่อท่านอ๋องก่อน" "ท่านอ๋องใจดีมั้ยล่ะ" "ท่านอ๋องเป็นผู้เก่งกาจ เคร่งขรึม และมีคุณธรรม" เอลลี่เบ้ปาก คงเหมือนพวกบัณฑิตเคร่งศาสนาตามซีรีส์จีนพีเรียด เฮอะ! น่าเบื่อชะมัด ไม่นานนัก รถลากเทียมม้าก็มาจอดหน้าตำหนักอ๋องสาม ตำหนักใหญ่โตกว้างขวางกินเนื้อที่มากมายเรียกว่าเป็นร้อยไร่ นี่อยู่คนเดียวเรอะ? ตำหนักใหญ่หลังสูงตะหง่านสีขาวงาช้างประดับตกแต่งทาสีทองสลับกับขาวครีม ตำหนักย่อยอีกแปดตำหนักล้วนงดงามลดหลั่นกันลงไป องครักษ์ควบคุมตัวคนแปลกหน้าทั้งหมดเข้าไปพบอ๋องสาม ท่านอ๋องนั่งอยู่ในห้องโถงกลางบนเก้าอี้ประธาน ใบหน้าหล่อเหลา มองหน้าเอลลี่ด้วยดวงตาคมดุดัน ริมฝีปากระเรื่อของท่านอ๋องคล้ายจะยกยิ้มขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เขาปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว พลางสำรวจเธอกับพวกตั้งแต่หัวจรดเท้า "เจ้ามีนามว่าอย่างไร เหตุใดจึงมาพร้อมดาวหาง" "ข้าชื่อเอลลี่ ส่วนสองคนนั้นเป็นสหายข้าทั้งสองชื่อว่าโทบี้กับชิทตี้ นั่นมันไม่ใช่ดาวหาง มันคือยานอวกาศ รู้จักมั้ยภาษาอังกฤษเรียกว่า spaceship" "นามของพวกเจ้าช่างประหลาด" "พวกข้ามาจากที่ห่างไกล จะประหลาดก็ไม่แปลก" "ข้าคืออ๋องสามอู๋เจี้ยนหง ผู้ปกครองแคว้นมีองค์จักรพรรดิอยู่ตำแหน่งสูงสุด รองลงมาปกครองด้วยอ๋องทั้้งสี่เขต แคว้นนี้คือแคว้นเสียนฮุ่ย มีข้าอู๋เจี้ยนหงเป็นผู้ปกครองแคว้นนี้" "อ่อ ท่านคงใหญ่มากกระมัง" เอลลี่มองท่านอ๋อง สายตาไปหยุดอยู่ที่กลางหว่างขาอ๋องสาม "เจ้ามองอันใดกัน" อ๋องสามมองตาม สายตาของเอลลี่ไปหยุดอยู่ที่กลางกายบุรุษ "เปล่า ข้าเพียงสำรวจ" "พวกเจ้ามาจากที่ใดกัน" "มาจากที่ห่างไกลจากที่นี่มาก พวกเรามาด้วยยานอวกาศ" "ยานอวกาศงั้นรึ" "เอ่อ อธิบายไปท่านก็ไม่เข้าใจหรอก ข้ามาพบท่านแล้ว ข้าขอตัวก็แล้วกัน จะกลับไปที่เดิม ซ่อมยานแล้วก็จะไปต่อ" องครักษ์ต่างมองท่านอ๋องเป็นตาเดียว อ๋องทมิฬผู้นี้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า ทุกผู้ทุกนามต่างยำเกรงบารมีท่านอ๋อง เพราะความเถรตรง โหดเหี้ยม เย็นชา จึงยังไม่ได้แต่งชายาเอก มีเพียงนางโลมอี้จีขาประจำสองสามคนไว้คลายเหงา ท่านอ๋องเสวนากับสตรีประหลาดยืดยาวซ้ำยังมีทีท่าสนใจนางเป็นพิเศษ อ๋องสามมองพิจารณาเรือนร่างนางเช่นกัน เพียงเห็นชุดแนบเนื้อทุกสัดส่วน นมใหญ่ล้นทะลัก เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกลม ใบหน้าเรือนร่างอันเย้ายวน ดวงตาสุดเร่าร้อนมองคราใดใจสั่นสะท้าน ท่าทางมั่นใจมีรัศมีผู้นำของนางช่างดึงดูดไม่เหมือนผู้ใด "อยู่พักที่ตำหนักข้าก่อนดีหรือไม่ พรุ่งนี้ค่อยให้องครักษ์ไปส่ง" "ก็ได้เพคะ ข้ากับโทบี้และชิทตี้นอนที่นี่ก็ได้" เสียงหวานของเอลลี่ทำให้อ๋องสามเคลิบเคลิ้มทั้งที่เธอไม่ได้พูดอะไรออดอ้อนแม้แต่น้อย องครักษ์ยิ่งทำหน้าเลิ่กลั่ก เมื่ออ๋องสามรั้งสตรีประหลาดให้พักอยู่ในตำหนักแสนสิงห์ หรือตำหนักไป๋หู่ "นามของเจ้าเรียกยากยิ่งนัก" "เรียกไปเถอะ ท่านได้เรียกข้าอีกไม่นานหรอก ข้าจะกลับบ้านแล้ว" เอลลี่ตอบอย่างรำคาญ อ๋องหน้าตายถือว่าหล่อเหลา แต่ท่าทางถือตัวเช่นนี้ เหมือนพระเอกในพวกซีรี่ย์ขายฝันแบบน้ำเน่า ท่าทางเหมือนพระอิฐพระปูนแบบนี้มันไม่ไหวนะ "ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน" "พวกเจ้าพาผู้ติดตามของนางไปพักเรือนรับรองแขก ส่วนนางให้พักกับข้าในตำหนักใหญ่" "ทำไมล่ะเพคะ ข้าไม่อยากพักกับท่าน" "เปิ่นหวางเพียงอยากสนทนากับเจ้า ไปอาบน้ำชำระกายเถิดแล้วออกมาพบเปิ่นหวางที่ห้องรับรองแขก ส่วนผู้ติดตามจะให้สาวใช้ยกสำรับไปให้ที่เรือนพัก" จะซั่มชั้นเรอะ? เอลลี่คิดในใจ เคยอ่านสารคดีพวกผู้ชายโบราณชอบมีเมียหลายคน อีตาอ๋องคนนี้มีเมียซุกไว้เรือนเล็กเรือนน้อยแถวนี้กี่คนกัน อ๋องสามเดินเข้าไปอาบน้ำด้านใน ห้องอาบน้ำอยู่ติดกับห้องนอนใหญ่ของเขา เอลลี่เดินตามเข้าไป เธอมองซ้ายมองขวา "เจ้าเข้ามาในห้องอาบน้ำของเปิ่นหวางทำไมกัน" "อ้าวก็มาอาบน้ำไงล่ะเพคะ" เธอถอดชุดออก แขวนไว้ที่ฉากกั้น เหลือเพียงบิกินี่เท่านั้น เดินลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำใบใหญ่ "ชายหญิงอาบด้วยกันไม่ได้ เจ้า...ให้ท่าเปิ่นหวางรึ อย่านึกว่าใช้แผนนี้แล้วข้าจะรับผิดชอบเจ้า" "จะบ้าเหรอเพคะ ไม่ต้องรับผิดชอบ แค่อาบน้ำเอง อ่างก็กว้าง ทำหวงไปได้ รีบลงอ่างเถอะ" เอลลี่รีบลงไปอาบน้ำในอ่าง อี ตาอ๋องยืนใบ้แดกอยู่ด้านข้างยังไม่ยอมลงมาซะที เธอถอดบิกินีออกหลังฉากกั้น เอาผ้ามาพันร่างกายสุดเอ็กซ์ ก้าวลงไปแช่ในอ่าง อ๋องสามไร้คำจะกล่าวได้แต่ตามสาวซ่าลงอ่างไปด้วยกัน เมื่อเขาเห็นร่องอกของเอลลี่ท่อนเอ็นใต้ผ้านั้นก็แข็งขึ้นมาจนใกล้ตั้งโด่ เขาหยิบผ้ามาพันกลางกายไว้หลวม ๆ จังหวะที่ก้าวเท้าลงไปในอ่าง ผ้าพันร่างหลุดออกอย่างไม่ได้ตั้งใจ ปึ๋ง! เจ้ามังกรยักษ์โผล่ออกมาทักทายเอลลี่จังหวะเดียวกับที่เธอเงยหน้าขึ้นมามองพอดี โอวววว มายก็อด อะไรมันจะใหญ่ขนาดนี้ เธออยากควักกระปู๋เทียมไซส์ใหญ่สุดออกจากกระเป๋าแปดมิติมาเทียบดูว่าใหญ่เท่า (หรรม) ของท่านอ๋องมั้ย "ใหญ่จัง" เธออุทานออกมา อ๋องสามรีบคว้าผ้ามาปิดกลางกาย หน้าแดงก่ำนั่งลงแช่น้ำในอ่างใบเดียวกับเอลลี่ 'ของคนโบราณทำไมมันใหญ่อย่างนี้ ของคุณผู้ชายยุคปัจจุบันอย่างแฟนเก่าของเธอคือไซส์ 52 เรียกว่าเล็กมาก โอ๊ย เล็กมาก แต่ของท่านอ๋องมันเกินไปแล้ว นี่มันไซส์ 56++ น่าม๊วฟจัง น่าดูดให้น้ำแตก' เอลลี่ได้แต่เก็บความหื่นไว้ในใจ นำน้ำเต้าสีทองผ่าครึ่งตักอาบน้ำในอ่างท่ามกลางแสงเทียน กลีบดอกไม้ ผสมน้ำมันหอมกลิ่นเหมยกุ้ย ทุกอย่างธรรมชาติเหมือนในสปา เธอผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แต่แล้วอาการอยากม๊วฟของเธอก็กำเริบขึ้นมาอีก "ท่านอ๋อง ข้าขออมไอ้นั่นของท่านหน่อยได้มั้ย ถือว่าตอบแทนท่านที่ชวนข้าค้างคืนในที่สวยๆ แบบนี้" "จะ เจ้า..เจ้ามันสตรีไร้ยางอาย" อ๋องสามหน้าแดงก่ำ นี่ไม่ใช่การหยามเกียรติบุรุษหรอกรึ เขาจะทำเช่นไรกับสตรีผู้นี้ดี จะจับนางไปโบยหรือยอมให้นางม๊วฟกระปู๋แต่โดยดี "น่านะ ให้ข้าม๊วฟเอ็นท่านหน่อย ข้าอยากกินน้ำว่าว" ท่ามกลางความเงียบและเสียงจิ้งหรีดร้อง ควันลอยกรุ่นในอ่างอาบน้ำมันเป็นใจให้บุรุษกับสตรีใกล้ชิดกันเหลือเกิน ยิ่งกับสตรีหน้าหนายิ่งกว่าหลังคากระเบื้องเช่นนี้ ...อ๋องสามจะยอมเปลืองตัวหรือไม่...เขาควรทำอย่างไรดี..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม