7☘️

1405 คำ
" นาย นายครับนาย นายครับ" อาชวีลืมตาขึ้นมาเห็นลูกน้องยืนมองอยู่ มองไปรอบๆตัวนี่มันห้องนอนเขาที่บ้านใหญ่นี่นา " ใคร ใครพากูกลับมา" " เอ่อ ก็พวกเพื่อนๆนายนั่นแหละครับ" " นี่กี่โมงแล้ว" " 6โมงครึ่งครับนาย" " 6โมงครึ่ง พึ่งจะ6โมงครึ่งแล้วพวกมึงมาปลุกกูทำไม ห๊า หรือพวกมึงอยากตกงานกัน" " ไม่ ไม่อยากครับนาย คือพวกผมมีเรื่องด่วนจึงรีบมารายงานนายครับ" " เรื่องอะไร" " นี่ครับนาย" อาชาส่งแท็บเเลตที่เปิดหน้าข่าวค้างไว้ อาชวีอ่านข่าวแล้วแสยะยิ้มหัวเราะลั่น ผบ.ตรทัดเทพ พ่อของอัญญาอร ถูกจับข้อหาทุจริตและเอี่ยวการพนันออนไลน์ ถูกส่งเข้าคุกและยึดทรัพย์ทั้งหมดที่มี สมน้ำหน้า ชอบทำตัวกร่างเบ่งอำนาจดีนัก " ยังมีอีกเรื่องครับนาย" อาชวีรีบขับรถมาที่สถาบันวิจัยทันทีที่ลูกน้องรายงานว่าธารธาราอยู่ที่นี่ เขาเหยียบเกือบมิดไมล์ เมื่อรถเลี้ยวเข้าสถาบันก็สวนทางกับรถตู้คันหนึ่งที่ขับออกไป โดยไม่รู้ว่าธารธาราก็นั่งอยู่ในรถตู้คันนั้น และกำลังจะเดินทางไปหุบเขามรณะ บรืนน เอี๊ยดดดด ปัง อาชวีเปิดประตูลงจากรถก็เจอศาสตราจารย์ที่กำลังจะเดินเข้าข้างในศาสตราจารย์หันกลับมามองดูอาชวี " ผมมาหาธารธารา" " เธอไม่ได้อยู่ที่นี่" " อย่ามาโกหก คิดว่าผมจะเชื่อเหรอ หลีกไป" " น้ำ น้ำครับ ผมมารับแล้ว น้ำกลับไปกับผมเถอะ น้ำ น้ำ" อาชวีไม่สนใจเดินกระแทกบ่าศาสตราจารย์เข้าไปข้างในร้องเรียกหาธารธาราแต่ก็ไม่พบ " ผมบอกคุณแล้วว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่" " เป็นไปไม่ได้ เธอต้องอยู่ที่นี่แน่ คนของผมบอกว่าเธอเข้าทำงานที่นี่ บอกมาว่าคุณเอาเธอไปซ่อนไว้ที่ไหน" " เธอทำงานที่นี่จริงๆแต่เธอไปแล้ว" " ไปไหน " " เธอเดินทางไปเก็บชิ้นงานมาทำวิจัย" " ผมไม่สนว่าเธอจะไปเก็บอะไร บอกมาว่าเธอไปที่ไหน" " หุบเขามรณะ" " ห๊า หุบเขาอะไรนะ" " หุบเขามรณะ" " ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คุณเห็นผมเป็นเพื่อนเล่นเหรอผมไม่ตลกด้วยนะ" " ทีมงานของเรากำลังจะเดินทางไปตามหากล้วยไม้สีรุ้ง ที่เชื่อว่ามีสรรพคุณยับยั้งเซลล์มะเร็ง แล้วกล้วยไม้นั่นก็อยู่ในหุบเขามรณะ ที่มีส่วนหนึ่งอยู่ฝั่งพาม่า พวกเขาพึ่งออกเดินทางไปเมื่อกี้ น่าจะสวนกับคุณพอดี" " เมื่อกี้" อาชวีนึกถึงรถตู้คันนั้นที่สวนทางออกไปตอนเขาขับเข้ามา " รถตู้คันนั้นใช่ไหม" ศาสตราจารย์พยักหน้า " แล้วไอ้หุบเขามรณะเนี่ยมันต้องไปที่ไหน" " ต้องไปเริ่มต้นที่ชายแดนจังหวัดตาก พวกเขาต้องไปจ้างพรานที่เคยไปให้นำทาง" ลูกน้องเข้ามากระซิบข้างหูอาชวี " นายครับไอ้หุบเขาที่ว่าเนี่ยผมเคยได้ยินปู่ผมเล่าให้ฟัง ว่าคนที่ไปไม่มีใครเคยกลับออกมาเลยนะครับ แล้วป่าแถบชายแดนตะวันตกมันเป็นป่าดิบเต็มไปด้วยอันตราย" อาชวีได้ฟังก็ใจหายวาบชี้หน้าด่าศาสตราจารย์ " ไอ้แก่มึงหลอกให้เธอไป รู้ทั้งรู้ว่าที่นั่นมีแต่อันตรายไปแล้วก็อาจไม่ได้กลับมา แต่ก็ยังให้เธอไป" " เธอเต็มใจไปเอง ทุกคนที่เดินทางไปล้วนเต็มใจไม่มีการบังคับ แล้วก็ลงชื่อยินยอมในเอกสารกันทุกคน ถ้าคุณไม่เชื่อผมจะเอาเอกสารให้คุณดู" อาชวีมองดูลายเซ็นของธารธาราในเอกสารยินยอมก็แทบคุมสติไม่อยู่ เธอหนีเขามา ยอมเข้าป่าไปเสี่ยงอันตรายเพราะไม่อยากจะพบเจอเขาอีก เขาไม่ยอมให้เธอมีอันตราย เขาไม่ยอมให้เธอไป ใช่ ถ้าตามไปตอนนี้น่าจะยังทัน " มึงขับให้มันเร็วกว่านี้ไม่ได้รึไงวะ" " เร็วกว่านี้จะเกิดอันตรายนะครับนาย สองข้างทางมีแต่เหว ถ้าขับเร็วกว่านี้นายจะตายก่อนจะได้เจอเมียนายนะครับ อุ๊ย" ดำรงหุบปากแทบไม่ทัน เมื่อหันไปเห็นอาชวีทำตาขวางใส่ ก็เขาพูดผิดที่ไหนหล่ะ เร็วกว่านี้ก็หลุดโค้งไปนอนอยู่ใต้หุบเหวแล้ว " อีกไกลไหมกว่าจะถึงไอ้หมู่บ้านปะปะอะไรวะที่ว่าเนี่ย" " หมู่บ้านปะละทะครับนาย" อาชาบอก " เออนั่นแหละชื่อห่าอะไรเรียกยาก ใกล้จะถึงรึยัง" " ใกล้แล้วครับ ใกล้แล้วอีกประมาณ100กว่ากิโลเอง" " _ " คณะทีมวิจัยเดินทางมาถึงช่วงบ่ายรถตู้จอดลงที่ชายป่า ข้างหน้ามีธารน้ำขวางอยู่ " อ้าว จอดทำไมหล่ะถึงแล้วเหรอ" " ยังครับ แต่รถเข้าได้แค่นี้ที่เหลือพวกคุณต้องไปกันเอง" " ไปกันเอง ไปยังไงอ่ะ เดินไปเหรอ" " ก็เดินไปสิ ยังไงก็ต้องเดินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ กล้วยไม้มันอยู่ในป่าในหุบเขาลึกนะ ยังไงรถก็เข้าไปไม่ถึงอยู่ดี" ดุษฎีพูดขึ้นมา " ก็รู้แล้วว่าต้องเดิน แต่ไม่คิดว่าจะต้องเดินตั้งแต่ยังไม่ถึงหมู่บ้านแบบนี้ แล้วนี่อีกไกลไหมอ่ะกว่าจะถึงหมู่บ้าน" " ถ้าพวกคุณไม่เดินก็หาแพล่องไปตามน้ำสักประมาณสองชั่วโมงก็จะถึงหมู่บ้าน" " แล้วพวกเราจะไปหาแพมาจากที่ไหนหล่ะ" " ถ้าโชคดีจะมีชาวบ้านเข้าเมืองมาซื้อของก็ขอติดแพพวกเขาไปได้ แต่ถ้าไม่เจอพวกชาวบ้าน พวกคุณก็เดินเท้าเข้าไป ข้ามน้ำนี่ไปแล้วเดินไปประมาณ3-4ชั่วโมงเดี๋ยวก็ถึง ผมส่งพวกคุณได้แค่นี้แหละ" ทุกคนมองดูรถตู้ที่วิ่งออกไปไกลลับตา แล้วมองดูรอบตัวที่เงียบสงัด มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าความรู้สึกเหมือนถูกนำมาปล่อยทิ้งยังไงยังงั้น " เอาไงกันดีวะกรุ๊ป ตอนนี้จะบ่ายสองแล้วเราจะเสี่ยงดวงรออยู่ที่นี่เผื่อมีแพชาวบ้านผ่านมา หรือว่าจะเดินไปเลย" ภาสกรเดินเข้าไปถามกิตติศักดิ์ในฐานะที่กิตติศักดิ์เป็นหัวหน้าทีม " แต่ถ้าเรารออยู่ที่นี่แล้วไม่มีแพชาวบ้านมาเราจะเสียเวลาเปล่า ลุงคนขับรถบอกว่าต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ3-4ชั่วโมง นั่นเท่ากับว่าถ้าเราเริ่มเดินทางตอนนี้ก็จะถึงหมู่บ้านช่วงเย็นประมาณ5-6โมง แต่ถ้าช้ากว่านี้กว่าจะถึงหมู่บ้านก็จะค่ำ ฉันคิดว่าเราควรรีบเดินไปกันตอนนี้เลย" ธารธาราออกความเห็น " อือผมก็เห็นด้วยกับน้ำนะ ยิ่งค่ำมืดก็ยิ่งอันตราย ที่นี่ในป่า4โมง5โมงก็มืดแล้ว ทุกคนคิดว่าไง" กิตติศักดิ์พูดขึ้นและถามความเห็นของคนอื่นๆ ทุกคนต่างก็เห็นด้วยจึงพากันเดินข้ามธารน้ำไปอีกฝั่ง มุ่งตรงไปหมู่บ้านปะละทะ " พี่กรุ๊ป แล้วพี่รู้ทางเหรอว่าหมู่บ้านมันไปทางไหน โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณใช้จีพีเอสนำทางก็ไม่ได้" " รู้สิ ศาสตราจารย์ให้แผนที่มาด้วย" " ศาสตราจารย์ทำแผนที่ขึ้นมาเองเหรอ งั้นแสดงว่าเขาก็ต้องเคยไปที่หมู่บ้านใช่ไหม" " ก็ต้องเคยอยู่แล้ว เพราะศาสตราจารย์รู้จักกับพรานมู่เลที่จะเป็นคนนำทางพวกเรา" " นายครับ นั่นใช่รถตู้คันที่สวนกับเราตอนเข้าไปสถาบันวิจัยไหมครับ" อาชวีมองตามรถตู้สีขาวที่สวนทางกันอีกครั้ง "ขับตามไปปาดหน้ามัน" "จัดไปครับนาย" บรืนนเอี๊ยดด " เฮ้ย ขับรถภาษาอะไรวะ นี่มึงจงใจปาดหน้ากูใช่ไหม" อาชากับลูกน้องอีกสามคนลงจากรถ เข้ามาใช้ปืนจ่อให้คนขับรถตู้ลงมา " อย่า อย่าทำอะไรผมเลย นี่ นี่เงินผมมีแค่นี้เอาไปเอาไปให้หมดเลย ขออย่างเดียวอย่าทำอะไรผมเลยลูกผมยังเล็กเมียผมก็ยังรออยู่ที่บ้าน" " หุบปาก พวกกูไม่ได้จะมาปล้นมึง นายของพวกกูแค่มีเรื่องจะถามมึงนิดหน่อย ตามมา"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม