“ดีแล้ว ท่านจะได้มีคนดูแล ยังไงก็อายุมากแล้ว” อีซาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังเดิม “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” นายพลสุกรีและอยู่ร่าผู้อยู่สนทนากับสุลต่านอีซาอีกพักใหญ่ นายพลสูงศักดิ์จึงขอตัวกลับด้วยความผิดหวังที่พระองค์ไม่ทรงเสน่หาบุตรสาวสักนิด แต่ความหวังใหม่ในใจกำลังเข้ามาแทนที่ความหวังเก่าที่รางเลือนเต็มที “เธอเก่งจังเลยฮันนี่ที่ทำให้องค์สุลต่านติดพระทัยเช่นนี้” นางในฮาเร็มหลายสิบคนที่ต้องมาถ่ายทอดมารยาทในวังให้มาเลย์น่ากล่าวชื่นชมหญิงสาวจากใจจริง เธอชอบดนตรีรวมถึงการขับร้องมากกว่าการเรียนวรรคดีและมารยาททางสังคมมากนัก แต่จำใจเรียนเพราะไม่ได้มีชีวิตอิสระดังเช่นก่อน หญิงสาวในฮาเร็มที่นี่เก่งเรื่องการปรนนิบัติ เธอจึงเก็บความรู้ดังกล่าวไปปรนนิบัติสุลต่านอีซาเพื่อให้พระองค์ทรงพอพระทัยยิ่งขึ้น “ทำเช่นไรหรือฮันนี่” รอด๊ะถามด้วยความสงสัย เนื่องจากพาตีเมาะที่สุลต่านอีซาส่งให้ไปรับใช้มาเลย์น่าเล่